17 ม.ค. 2023 เวลา 05:02 • คริปโทเคอร์เรนซี

dogecoin standard ตอนที่ 222 วิวัฒนาการของตลาด crypto currency

จากจุดกำเนิดเหรียญแรกคือบิทคอยน์ เป็นเหรียญ POW ซึ่งทีมซาโตชิ อันแสนลึกลับ เป็นผู้สร้างขึ้นและปล่อยออกสู่ชาวโลกในปี 2009 นั้น
ขนาดของตลาด เคยขึ้นไปสูงสุดประมาณ 3T ปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 1T ถือว่าเติบโตมาได้ระดับหนึ่ง
ปัจจุบันก็มีเหรียญ POW 3 เหรียญคือ บิทคอยน์ litecoin และ dogecoin มีเหรียญ POS หลายเหรียญคือ XRP ADA Solana DOT AVAX TRX UNI เป็นต้น และเหรียญ exchange คือ BNB OKX เป็นต้น
ในเข้าใจแรกเลยของผู้เขียนคิดว่า ตลาด crypto currency เป็นแชร์ลูกโซ่ ไม่มีมูลค่าอะไร ปั่นกันเล่นสนุกสนาน จากนั้นก็หนีกันไป วงแตกในที่สุด
1
จวบจนได้มาศึกษาเรื่อง dogecoin standard ทำให้รู้ว่า ก่อนโควิด โลกเราต้องพิมพ์เงินจากหนี้สินปีละ 10T แต่หลังจากโควิด velocity ลดลงประมาณ 5 เท่า ทำให้ ต้องสร้างเงินเพิ่มปีละ 50T
3
สังเกตว่าในปีแรกหลังจากโควิด ปี 2020ทั้งโลกก็เกิดการกู้เงินกันขนานใหญ่ หนี้สินเพิ่มจาก 250T กลายเป็น 300T
แต่หลังจากนั้นเฟดหยุดพิมพ์เงิน ดึงเงินออกจากระบบ และขึ้นดอกเบี้ยซ้ำขึ้นมาอีก จนปัจจุบันเกิด liquidity crisis ไปทั่วโลก เงินกำลังจะหมดโลก
ในปัจจุบันผู้เขียนจึงมีความคิดว่า crypto currency มีผู้อยู่เบื้องหลังคือธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ในโลกนั่นเอง จากการประมวลข้อมูลที่อ่านมา อาจจะเรียกรวมว่า รัฐบาลโลก ก็ว่าได้ เป็น conspiracy theory ตรงส่วนนี้
ดังนั้นสุดท้ายเหรียญต่าง ๆ ในตลาดนี้ โดยเฉพาะเหรียญใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น POW หรือ POS ก็จะกลับสู่มือเจ้าของที่แท้จริงคือเหล่าธนาคาร ผู้คุมระบบการเงินนั่นเอง
เพราะอัลกอริทึมของเหรียญเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น pow หรือ POS สุดท้ายก็จะตกไปสู่กลุ่มคนไม่กี่คน เพราะเหรียญมีจำนวนจำกัด
แม้กระทั่ง dogecoin ที่มีอัตราผลิตแบบ infinity เหรียญกองกลางจำนวน 130,000++ dogecoin ก็น่าจะถูกกว้านซื้อไปจนเกือบหมดอยู่ดี แล้วเหลือ 5200 ล้านเหรียญต่อปี ให้ประชาชนโลกได้ใช้กัน ในท้ายที่สุด เป็น UBI หลัง great reset
3
ตามปกติถ้าเหรียญเหล่านี้ไปตกอยู่ในกลุ่มคนรวยจำนวนน้อย ก็จะเสีย network effect และมีมูลค่า=0
แต่ในทางกลับกันถ้าธนาคารกว้านซื้อเหรียญไปจนเกือบหมด สมมุติใช้เงิน 2T แล้วตั้งราคาใหม่กลายเป็น 50T แล้วเอาสินทรัพย์นี้มาค้ำประกันในการพิมพ์เงิน ก็เป็นสิ่งที่ธนาคารสามารถทำได้สบาย
3
ต่อลมหายใจไปได้อีก 1 ปี
มันจะกลายเป็นการสร้างเงินในรูปแบบใหม่คือ สร้างเงินจากสินทรัพย์นั่นเอง ใช้ digital asset มาค้ำ แล้วพิมพ์เงินเพิ่ม ไม่ได้สร้างเงินจากหนี้สินอีก และไม่ได้ใช้ physical gold ค้ำเหมือนเดิม
เท่าที่สังเกตคือเหรียญที่ธนาคารจะสามารถซื้อมาเก็บเป็นสินทรัพย์ได้ จะต้องมีมูลค่ามากกว่า 100,000 ล้าน USD++ ตอนนี้มีเข้าเกณฑ์แค่ 2 เหรียญคือ bitcoin และ ETH
1
ส่วนมูลค่าที่ธนาคารกลางจะสามารถซื้อและนำมาค้ำประกันเพื่อพิมพ์เงินเพิ่มคือ มากกว่า 1T++
1
ดังนั้นใน 1 ปีนี้ 2023 ผู้เขียนคาดเดาว่า คงมีหลายเหรียญที่มีมูลค่าเกิน 1T ได้ และธนาคารกลางก็ซื้อเอาไปเก็บเอาไว้ เพื่อพิมพ์เงินเพิ่มต่อไป
1
สมมุติว่าเหตุการณ์เป็นอย่างที่ผู้เขียนคาดไว้ พอผ่านไป 1 ปีแล้วตลาด crypto currency มีมูลค่าถึง 50T จริง dogecoin ก็จะมีมูลค่าเกิน 1T คือประมาณ 10+++ USD
3
หลังจากนั้นในปีหน้าจึงจะเกิด great reset ใหญ่ เข้าสู่ dogecoin standard เงินเฟ้อ 10,000 เท่า ล้างหนี้สินกันต่อไป
1
fiat currency --> crypto currency --> dogecoin standard
1
ถ้าคิดแบบนี้แต่จะดูสมเหตุสมผล และเป็นไปตามลำดับขั้นตอน มากกว่าการเกิด dogecoin standard ในตอนนี้ เพราะมูลค่าเหรียญ ยังน้อยเกินไปแค่ 10,000 ล้าน USD เอง และยังไม่อยู่ในมือธนาคารกลาง
1
เนื่องจากตลาด crypto currency เป็นตลาดใหม่มาก และเรายังไม่ค่อยเข้าใจการเกิดขึ้น และบทบาทหน้าที่ของมัน จึงได้แต่คาดเดากันไป ต่าง ๆ นา ๆ
ผู้เขียนวิเคราะห์อาจจะถูกหรือผิดก็ได้ ต้องช่วยกันติดตามสถานการณ์กันต่อไป
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา