19 ม.ค. 2023 เวลา 10:00 • การเมือง

รู้หรือไม่ การแตกแยกของ 2 ขุนพลเคยเกิดขึ้นมาแล้ว

2 ป.แยกกันเดิน
การเมืองไทยเริ่มคึกคัก เป่าปี่ตีกลอง ลั่นฆ้องศึกไม่เกรงใจใคร ลือหนัก 2 ป.แยกกันเดิน เหินห่าง ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพา 2 นายพลต้องแยกกันนอนคนละมุ้ง ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ปักหลักอยู่พรรคพลังประชารัฐ เป็นพ่อที่หุงข้าวรอลูกๆ กลับพรรค น้องตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แยกทางเดิน จัดงานครึกคัก เปิดตัวเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ใครๆ ก็รู้กัน วางคน วางแผน เพื่อสานต่อให้ลุงตู่ไปต่อในพรรคใหม่อยู่นานแล้ว
- ย้อนรอยประวัติศาสตร์
อยากจะชวนคุยนะครับ ว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศไทย ย้อนพาข้ามทวีปไปที่ยุโรปยุคสาธารณรัฐโรมันสะหน่อย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นคล้ายกับ 2 ป.เหมือนกับ 2 ขุนพล ที่เตรียมวัดพลังกันเพื่อเป็นเจ้าแห่งโรม
- ข้ามไปโรมัน
ที่โรมันมีนายพลจูเลียส ซีซาร์ (เรานิยามเป็น ป.ที่ 1 ก็แล้วกัน 555) กับ นายพล ปอมปีย์ (แน่นอนว่าต้องคือ ป.ที่ 2) แข่งบารมีกันอยู่เนื่องๆ โดยมีนายพล อีกท่านหนึ่ง คือแคร็กซุส ที่ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่นัก เปรียบเสมือนคนสนับสนุน คานอำนาจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพื่อลดอิทธิพลของฝ่ายตรงข้าม 3 ท่านนี้ แต่ เพราะ 2 คนแรก แสนจะรบเก่ง และเรียกได้ว่าสร้างชื่อเสียงไว้มาก จนมีฐานเสียงในวุฒิสภาแห่งกรุงโรม
- ความเหมือนที่บังเอิญ
แหม่ เหมือนกันเปี๊ยบต่างคน ต่างเป็นทหาร เคยเป็นพันธมิตรกัน เล่นการเมืองใช้ทหารจนสามารถสถาปนาอำนาจ 3 ป.แห่งกรุงโรมได้สำเร็จ และต้องการเป็นเบอร์หนึ่ง ด้วยกันทั้งนั้น แต่ตำแหน่งผู้ยิ่งใหญ่แห่งเมืองไทย เอ้ย แห่งกรุงโรมต้องมีเพียงหนึ่งเดียว จึงต้องหาคนสนับสนุน และใช้ไม้เด็ดทางการเมือง ทางทหารเพื่อชิงตำแหน่งอันมีเกียรติ ที่เรียกว่าผู้เผด็จการ (Dictator) แห่งกรุงโรม
- พระอาทิตย์ย่อมมีดวงเดียว
ต้องบอกก่อนว่าถึงแม้ 3 นายพล จะได้เป็นกงสุลแห่งกรุงโรม แต่ต่างฝ่ายก็ต่างไม่ยอมลงให้กัน ต่างคนต่างสร้างผลงาน เพราะพระอาทิตย์มีดวงเดียวฉันใด ผู้นำของกรุงโรมก็ต้องมีคนเดียวเช่นกัน หลายคนอาจแซว มีพระอาทิตย์ดวงเดียวก็ร้อนแล้ว มีหลายดวงก็ร้อนแย่นะสิ เราว่าร้อนแล้ว
คนที่อยากเป็นพระอาทิตย์เขาร้อนกว่าครับ ร้อนใจว่าเมื่อไหร่ฉันจะได้เป็นเบอร์หนึ่ง แถมลูกน้องข้างๆ นี่ก็อวยเต็มที่ อยากให้นายได้ขึ้น เผื่อจะได้รัศมีอันอบอุ่นเต็มๆ กับเขาบ้าง ตาจึงมองไปที่ไอ้เบอร์ข้างๆ ว่าเมื่อไหร่แก๊งข้องเพื่อน ของพี่ ของน้อง จะไปให้พ้นๆ ทางเสียที 5555
จุดตัดก็มาถึงเมื่อแคร็กซุส ป.ที่ 3 ออกไปรบแต่ดันพ่ายแพ้ที่ยุทธการกาเรห์ และเสียชีวิต ทำให้ 2 ป.ที่เหลืออยู่เตรียมลับดาบ รอจังหวะเปิดศึกเพื่อเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งกรุงโรม
- พิสูจน์พลัง 2 ป.
เมื่อนายพลคนที่ 3 หมดบทบาทลง เหลือนายพลอีก 2 คนที่ต้องแข่งขันบารมีกัน ไม้เด็ดในแง่หนึ่งคือเอาใจประชาชน จัดกิจกรรมให้ครึกครื้น ระดมเงินเข้าพรรค ยัดคดีข่มขู่นักการเมือง หาสมาชิกสภาเป็นพรรคพวก ล้วนทำหมด จนในที่สุดเหตุการณ์อิ่มตัวจูเลียส ซีซาร์ เปิดศึกกับปอมปีย์ เรียกว่าเปิดหน้าทางการเมือง การทหารสู้กันให้รู้แล้วรู้รอดเลย ว่าใครจะหนังเหนียวกว่ากัน แบ่งเป็น พลังประชารัฐ กับ รวมไทยสร้างชาติ
อุ้ย ไม่ใช่ เป็นทหารฝ่ายจูเลียส ซีซาร์ และทหารฝ่ายปอมปีย์ ต่างคนต่างมีมุ้ง มีลูกน้อง มีพื้นที่เป็นของตนเอง สู้กันแหลกลาน จนในที่สุด จูเลียส ซีซาร์ ก็ชนะสงคราม กลายเป็นผู้เผด็จการหนึ่งเดียวแห่งกรุงโรม และต่อมาเมื่อเวลาล่วงเลยไป เหตุการณ์ครั้งนี้นำไปสู่การล้มระบอบสาธารณรัฐของกรุงโรม และสถาปนาระบอบจักรพรรดิหรือที่เราคุ้นหูเรียกกันว่า ซีซาร์ (ที่ไม่ใช่สลัด) ในที่สุด
- ชวนคิดก่อนปิดจอ
ยังไงเราก็คือ The Modernist เล่าเรื่องอย่างเดียว ไม่ใช่เรา แต่เราอยากชวนทุกคนที่อ่านเราให้คิดนะครับ ว่า ผู้มีอำนาจเขาสู้กัน แข่งขันทางการเมืองกัน ประชาชนอยู่ตรงไหนในสายตาของเขาเหล่านั้น
และที่แปลกคือรบกันเนี่ย ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนเลย สนองความต้องการของตนเองล้วนๆ ไม่ว่าจะการเมืองโรม หรือ ไทย ประชาชนควรตั้งคำถามสักที จะตีกัน หรืออะไรกัน ก็นึกถึงประชาชนสักนิด คุณตีกันให้ตาย เพื่อให้เป็นคนควบคุมทรัพยากรของประเทศ ต้องนึกถึงประชาชนหน่อย
- ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย
เห็นไหมครับแม้ว่าโรมันจะเป็นสาธารณรัฐ แต่การเมืองก็ยังเป็นเรื่องของผู้ปกครองหรือชนชั้นนำอยู่ดี ย้อนมาดูบ้านเรา ถึงแม้จะเป็นประชาธิปไตย (หรือเปล่า) แต่เวลาเขาดีลผลประโยชน์กัน ก็ไม่เห็นจะนึกถึงประโยชน์ของประชาชนเท่าไหร่ แต่ๆๆๆ นั่นมันคือยุค 2 พันกว่าปีมาแล้ว
จนการเมืองบ้านเขาหลุดพ้นวันอลวนรูปแบบนี้มาแล้ว แต่บ้านเราเหมือนย้อนกลับไปเป็นอย่างยุคโรมัน หรือผู้เขียนไม่แน่ใจว่าบ้านเราก็อปวางโดยไม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์หรือเปล่า หรือบางคนเขาเรียก “ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย” แค่อยู่คนละที่เท่านั้นเอง
จะให้ The Modernist วิจารณ์อยู่ฝ่ายเดียวก็ไม่ใช่ คนที่วิจารณ์ได้คือประชาชนทุกคน อยากเชิญทุกท่านวิจารณ์หน่อย ว่าการเมืองไทยตอน 2 ป.อลวน นี้รู้สึกกันอย่างไร และการเมืองไทยจะเป็นอย่างไรต่อ เพราะความคิดเห็นของทุกคน The Modernist เชื่อว่าส่งผลต่ออนาคตประเทศเรา ไม่ว่าจะคิดเห็นเห็นอย่างไร ทุกความคิดเห็นล้วนมีความหมาย สำหรับวันนี้ลาไปก่อนสวัสดีคร้าบบบบบ
#TheModernistTH : Opinion for The Better
โฆษณา