20 ม.ค. 2023 เวลา 10:30 • หนังสือ

New Year New me เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ด้วยหนังสือต้อนรับปี 2023

มากันที่หนังสือเล่มเเรกของเรา หนังสือเล่มนี้น้อง Yearเชื่อว่าทุกคนเคยเห็นผ่านตาในร้านหนังสืออยู่เเล้ว ซึ่งหนังสือเล่มนี้นั้นก็อยู่ในเเท่นโชว์ของ Top หนังสือที่มียอดขายดีในช่วงสัปดาห์นี้ นั่นก็คือ หนังสือ Four Thousand Weeks ชีวิตเรามีเเค่สี่พันสัปดาห์ กันนั่นเอง หากพูดถึงหนังสือเล่มนี้ก็คงนึกถึงการบอกเรื่องการบริหารเวลาใช่มั้ยครับ หากพูดถึงเรื่องการบริหารเวลาที่เราได้เรียนรู้ผ่านบทความหรือหนังสือไปเเล้วนั้น เรามักจะเห็นว่าเราควรจะลําดับความสําคัญเเละเลือกสิ่งที่สําคัญมาทําเพื่อความสําเร็จในอนาคต
เเต่หนังสือเรื่องนี้จะให้มุมมองที่เเตกต่างออกไป สําหรับน้อง Yearเองรู้สึกชอบเพราะหนังสือเล่มนี้พูดถึงการใช้เวลาวินาทีนี้ให้ดีที่สุด อย่างหนึ่งที่เราต้องยอมรับคือถึงเเม้เราต้องทําทุกอย่างในชีวิตเเต่เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะทําทุกอย่างให้มันดีเสียหมด เวลาของเรานั้นมีจํากัด ด้วยเวลาที่มีจํากัดมันจึงเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดในชีวิตเเละเราควรจะให้คุณค่ากับมันตั้งเเต่วินาทีนี้ไม่ใช่เวลาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หลายคนคงพอได้ยินคนพูดเรื่องของการบริหารจัดการเวลาเกือบ
90%คิดว่ามันต้องเป็นเรื่องของการทํางานให้มากขึ้นเช็คอีเมลให้เร็วขึ้นจัดการรายการสิ่งต้องทําให้หมด พองานนี้หมดก็ไปทํางานอื่นต่อ เพื่อจะได้ให้มีความ Productiveนี่คือวิธีการจัดการเวลาของใครหลายคน เเต่ในมุมมองของหนังสือได้บอกว่ายิ่งเราทํามากเท่าไหร่มันจะมีความรู้สึกว่าไม่พอ เเละยิ่งทุกวันนี้เราเจอคําว่า Productiveมาหลอกหลอนเเถมต้องทําให้สําเร็จเร็ว รวยให้เร็ว ยิ่งอายุน้อย ยิ่งต้องมีไฟ ยิ่งต้องมีความสําเร็จที่เร็วกว่าคนอื่น มันอาจจะไม่สามารถนิยามได้ว่ามันถูกหรือผิด เเต่เชื่อว่าสําหรับบางคนเเล้ว
อาจจะไม่ได้อยากทําเเบบนั้นเเต่ต้องทําด้วยความที่ว่ายังค้นหาตัวเอง หรือหาเวลาที่เเท้จริงของตัวเองนั้นไม่เจอ ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จะมาให้คําตอบเกี่ยวกับเรื่องของเวลา ให้ทุกคนได้เข้าใจ น้อง Yearคิดว่าหนังสือเล่มนี้คงจะให้มุมมองใหม่ๆเเก่ผู้อ่านได้เข้าใจ เเละคงจะเป็นประโยชน์เเละจะเพิ่มความสุขในชีวิตให้เเก่ผู้อ่านได้อย่างเเน่นอน
มาดูหนังสือเล่มต่อไปเลยดีกว่า นั่นก็คือ หนังสือ อะไรทําให้ชีวิตเราดีกว่าเมื่อวาน โดย คิมจงวอนนั่นเอง เชื่อว่าหลายๆคนคงเห็นหนังสือเล่มนี้ผ่าน Social Media กันมาบ้างเเล้ว เเค่ชื่อหัวข้อของหนังสือก็น่าสนใจเเล้วใช่มั้ยละครับ ต้องบอกก่อนเลยว่านักเขียนหนังสือเล่มนี้ คิมจงวอน นั้นเป็นนักเขียนด้านมนุษยศาสตร์อันดับ 1 ของเกาหลีใต้เค้าคอยศึกษาการเปลี่ยนเเปลงของชีวิตมนุษย์มาเกือบ 20 ปี เค้าได้ตั้งโจทย์กับตัวเองว่าอะไรที่ทําให้ชีวิตของเราเติบโตในระยะยาวได้ดีที่สุด
เค้าจึงได้ 5 เสาหลักมาอย่างเเรกที่เราต้องรู้ก่อนก็คือ คิมจงวอนได้บอกว่า สิ่งที่ทําให้ชีวิตของเราเติบโตได้อย่างสมบูรณ์เเบบที่สุดก็คือสภาพเเวดล้อม ผู้คน เวลา คําพูด เเละ ความคิด
น้อง Year เชื่อว่าหลายๆคนที่อยากจะพัฒนาเเละเปลี่ยนชีวิตตัวเองให้ดีขึ้นในปีนี้ก็คงจะสนใจหนังสือเล่มนี้เเน่นอน
เราไปดูหนังสือเล่มต่อไปเลยดีกว่านั่นก็คือ หนังสือ The Long Gameรางวัลใหญ่เป็นของคนที่รู้จักเล่นเกมยาว เพื่อนๆเคยรู้สึกกันบ้างไหมครับว่ายิ่งไล่ขว้าสิ่งที่อยู่ใกล้ๆเป้าหมายจริงๆในชีวิตกลับยิ่งห่างออกไป ทุกวันนี้โลกบีบให้เราทําอะไรที่ง่ายชัวร์เเละได้ผลเร็วเเทบจะตลอดเวลาที่เทรนด์ใหม่ก้าวลํ้าเราไปเสมอ เราถูกภาพ เสียงเเละ เนื้อหาของชีวิตดีๆรวมถึงรางวัลเเห่งความสําเร็จในชีวิตคนอื่นทาง Social Mediaเเซงหน้าเราไปทุกวันจนเผลอเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนทั้งโลกเราผลักตัวเองไปอยู่ชายขอบเรากลายเป็นคนไม่เอาไหน
เหมือนคนที่ตกขบวนรถไฟเเล้วไม่รู้จะเอายังไงต่อกับชีวิตเเต่รู้รึเปล่าว่าเราไม่จําเป็นต้องนั่งรถไฟไปขบวนนั้นก็ได้ เราไม่จําเป็นที่จะต้องมีจุดหมายปลายทางเดียวกันกับผู้อื่นเพียงเเค่เพราะเค้าสําเร็จเร็วเเละมีชีวิตที่ดีกว่า ซึ่งเล่มนี้ได้ทําการเเปลถึง 11 ภาษา หนังสือเล่มนี้บอกถึงเคล็ดลับในการใช้ชีวิตที่จะทําให้เป้าหมายของเพื่อนๆนั้นสําเร็จ โดยไม่ผลักมันออกไปเรื่อยๆจนกระทั่งเราหมดไฟ
ใครกําลังจะหมดไฟ เเนะนําให้อ่านหนังสือเล่มนี้เลย หวังว่าเพื่อนๆที่ได้อ่านจะได้เติมไฟในตัวให้ลุกโชนยิ่งกว่าเก่ากันครับ
มาต่อกันที่หนังสือเล่มถัดไปกันเลยดีกว่า นั่นก็คือ Into the magic shopเราทุกคนล้วนมีร้านเวทย์มนต์อยู่ในใจ ในโลกที่จะดูเหมือนจะมีความวุ่นวายเเละเปลี่ยนเเปลงอยู่ตลอดเวลาเชื่อไหมครับว่าทุกคนล้วนมีร้านเวทย์มนต์เล็กๆอยู่ในใจของเราทุกคนมันเป็นสถานที่ที่เราเข้าไปเราจะรู้สึกสบายรู้สึกปลดปล่อย
พันธนาการทั้งปวง
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับการใช้กฎของเเรงดึงดูดในอีกรูปเเบบหนึ่งก็คือเป็นหนังสือที่ทําให้ เรานั้นอยากจะใช้สมาธิกับตัวเองมากขึ้น หากพูดถึงการนั่งสมาธิเราอาจจนึงถึงการกําหนดลมหายใจเข้าออก
เเต่วิธีการนั่งสมาธิของหนังสือเล่มนี้มันโดดเด่น นั่นก็คือการใช้กฎเเห่งเเรงดึงดูดในช่วงเวลาที่เพื่อนๆอยู่กับตัวเองเป็นหนังสือที่จะทําให้เพื่อนๆได้เข้าใจตัวเองมากยิ่งขึ้น หนังสือเล่มนี้จะทําให้เพื่อนๆเรียนรู้วิธีอยู่กับตัวเอง ต้องบอกก่อนเลยว่าทุกวันนี้การอยู่กับตัวเองเป็นเรื่องที่ยากสําหรับเรามากๆ เช่น ทุกวันนี้ถ้าเราจะอ่านหนังสือ ผมเป็นคนนึงที่ต้องปิดเสียงโทรศัพท์ทั้งหมด ทั้งเสียงเเจ้งเตือน เสียงรบกวนต่างๆ
เชื่อว่าการอยู่กับตัวเองในทุกวันนี้มันยากมากขึ้น หนังสือเล่มนี้ได้บอกว่า หัวใจของมนุษย์เป็นได้มากกว่าการเเค่สูบฉีดเลือด หากคุณฟังตัวเองมากพอ หากคุณรับรู้สิ่งที่อยู่ข้างในจิตใจของคุณ คุณจะค้นหาความลับบางอย่างในชีวิตของตัวเองเจอ น้อง Yearเชื่อว่าหากทุกคนได้อ่านหนังสือเล่มนี้คงได้รู้จักตัวเองมากยิ่งขึ้นเเน่นอน
มากันที่หนังสือเล่มต่อไปกันเลยดีกว่า นั่นก็คือ หนังสือ สู่จุดสูงสุดของชีวิตด้วยพีระมิดสามสุข หนังสือเล่มนี้ค่อนข้างที่จะน่าสนใจในเรื่องของความสุข ผู้เขียน ชิอน คาบาซาวะ ผู้เขียนคนนี้ได้สรุปในเรื่องของความสุข ให้เห็นภาพของความสุข ที่เรียบง่ายมากขึ้นเป็นหนังสือที่อยากให้ทุกคนได้ลองอ่าน หนังสือเล่มนี้ได้เเบ่งทฤษฎีของความสุขได้ 3 ระดับตามขั้นพีระมิดสามสุขเลย มีสุขเซโรโทนิน สุข อ๊อกซิโทซิน เเละ สุข โดพามีน ซึ่งสุข ของเซโรโทนินที่อยู่ในขั้นเเรกจะเป็นความสุขในเรื่องของสุขภาพ สุข
อ๊อกซิโทซินในขั้นที่ 2 จะเป็นความสุขในเรื่องของความสัมพันธ์ เเละ สุข โดพามีนในขั้นที่3 คือความสุขในเรื่องของการเงิน การงาน เเละความสําเร็จ ในชีวิต ซึ่งคํานิยามคร่าวๆเลยคือคุณต้องทําให้ความสุขในเรื่องของสุขภาพมาอันดับเเรก คุณ ชิอน คาบาซาวะได้กล่าวไว้ว่า ฐานของความสุขคือเรื่องของสุขภาพ เรื่องของสุขภาพของคุณต้องเป็นฐานที่ใหญ่ที่สุด คุณต้องเริ่มจากจุดนี้ก่อน เเล้วคุณค่อยไปเริ่มของด้านของความสัมพันธ์คือความสุขอ๊อกซิโทซีน เเละ ความสุขระดับที่สามที่อยู่ยอดเหนือสูงสุด คือสุขของโดพามีน
ซึ่งทั้งสามระดับนี้คุณต้องเริ่มเป็นขั้นเป็นตอนเริ่มตามลําดับถ้าคุณข้ามไปเรื่องความสุขของด้านการงานก่อนที่จะคํานึงถึงเรื่องของสุขภาพกับความสัมพันธ์ ท้ายที่สุดเเล้ว คุณจะรู้สึกว่าคุณไม่มีความสุขครับ นี่คือสิ่งที่คุณชิอน คาบาซาวะได้กล่าวคํานิยามของความสุขในหนังสือเล่มนี้ไว้ หากใครอยากค้นพบความสุขให้กับตัวเอง เเนะนําหนังสือเล่มนี้เลยครับ
อิคิไก ความหมายของการมีชีวิตอยู่กัน เราได้พัฒนาตัวเองเพื่อที่จะได้ประสบความสําเร็จ เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายเเต่บางครั้งเราอาจมีบางอย่างที่ทําหล่นหายไปคือความสุข เเละความสบายใจที่ได้อยู่กับปัจจุบัน เมื่อการงานไม่ใช่สิ่งที่เเปลกเเยกจากชีวิตนี่คือปรัชญาญี่ปุ่นที่ทําให้เราอยากตื่นเเต่เช้าเเละออกไปทําในสิ่งที่รัก ความเป็นอิคิไกของคนญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เเล้วปรัชญาของคนญี่ปุ่นจะเป็นที่ความเรียบง่ายซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งเราทุกคนต่างมองหาในทุกวันนี้ ในทุกวันนี้จะสังเกตได้ว่าเทรนด์ของคนในโลกนั้นโหยหาธรรมชาติมากขึ้น
อยากจะสร้างความเรียบง่ายให้กับชีวิตมากขึ้น การเปลี่ยนเเปลง ข่าวสาร ที่โผล่ให้เราเห็นในทุกๆวันมันทําให้ความคิดของเราไม่ค่อยได้หยุดพักรู้สึกว่าทุกอย่างต้องมีการเรียนรู้ต้องมีการรับรู้ไปหมดเราเลยไม่รู้ว่าจะเลือกสิ่งสําคัญสิ่งไหนในชีวิตดี ซึ่งอิคิไกปรัชญาของเค้าก็คือน้อยเเต่มาก พยายามคัดกรองสิ่งที่สําคัญในชีวิตเเละ ลงมือทําด้วย Passion หลายๆคนน่าจะได้ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาตนเองมานานเเล้ว เเละได้ลงมือทํากันจริงๆเเล้ว
เเต่บางครั้งพอเราประสบความสําเร็จถึงจุดๆนึงเรากลับรู้สึกว่าความสุขที่เคยมีในช่วงก่อนหน้านี้ทําไมมันค่อนข้างค่อยๆจางหายไปจากเมื่อก่อนเราทําอะไรมันหล่นไปรึป่าว หลายๆคนอาจจะนึกไม่ออกให้ลองเหตุผลที่ตื่นขึ้นมาทํางานตอนเช้า เพราะว่าอะไร คนญี่ปุ่นเชื่อว่าทุกคนย่อมมีเหตุผลในการใช้ชีวิตที่ซ่อนอยู่ลึกๆของตัวเอง เค้าเรียกสิ่งนี้ว่า อิคิไก
น้อง Year เชื่อว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์เเละจะทําให้เข้าใจถึงเหตุผลในการใช้ชีวิตของตัวเองที่เเท้จริงครับ
มากันต่อไปที่หนังสือถัดไปเลยดีกว่านั่นก็คือหนังสือ The Bullet Journal Method
เป็นหนังสือเเปลจากนักเขียนที่ชื่อว่า Ryder Carroll (ไรเดอร์ เเคร์รอลล์) โดยมีคอนเซปต์ ง่ายๆ คือ บันทึกอดีต จัดระเบียบปัจจุบัน ออกเเบบอนาคต หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณจัดระเบียบชีวิตตัวเองได้ง่ายขึ้น
Have a Nice Life! 12 นิสัยเปลี่ยนชีวิต ขอเพียงบ่มเพาะนิสัยที่ดีให้กลายเป็นวิถีชีวิตเเล้วสิ่งที่เคยยากจะกลายเป็นง่ายสิ่งที่เคยทําไม่ได้อาจทําได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะนิสัยสร้างชีวิตนี่คือหนึ่งประโยคที่น้อง Yearรู้สึกชอบจากหนังสือเล่มนี้มาก นิสัยจะกําหนดชีวิตคุณนิสัยสร้างชีวิตเราถ้าเพื่อนๆลองย้อนมองไ
ปดูชีวิตเราจะพบว่าชีวิตในปัจจุบันของพวกเราเป็นผลลัพธ์ของนิสัยในอดีตของเราเเละชีวิตในอนาคตของเราก็จะเป็นผลลัพธ์จากนิสัยในปัจจุบันดังนั้นถ้าเราเปลี่ยนนิสัยวันนี้ได้ เราก็จะได้ครอบครองผลลัพธ์ในชีวิตในอนาคตใหม่
มาดูที่หนังสือเล่มสุดท้ายกันเลยดีกว่านั่นก็คือ อย่าเป็นคนเก่งที่คุยไม่เป็น หนังสือเล่มนี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจครับ ทักษะที่สําคัญมากๆในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการทําธุรกิจถ้าคุณอยากจะประสบความสําเร็จด้านใดก็ตามเเต่ Connectionเป็นสิ่งสําคัญเเละการคุยเล่นเป็นหนึ่งในการสร้าง Connectionที่ทรงพลังที่สุดเพราะหลายครั้งที่เราสร้างความสัมพันธ์กับคนที่ดี ด้วยการคุยเล่นๆเราคงไม่สามารถไปสร้างความสัมพันธ์กับใครได้อย่างเเน่นเเฟ้นด้วยการคุยเเต่เรื่องที่มีสาระเพียงอย่างเดียว มันอาจจะทําให้คุณเครียดเสียเปล่าใช่ไหม
ประโยคนี้ในหนังสือที่บอกว่าคุณจะเป็นเเค่คนธรรมดาหรือจะเป็นคนชั้นเเนวหน้าวัดกันที่ทักษะนี้ครับ ทักษะคุยเล่นของคุณที่ประสบความสําเร็จระดับโลกหนังสือเล่มนี้ครับ เเก่นสําคัญที่จะทําให้คุณได้ก็คือเปลี่ยนการคุยเล่นที่ไร้สาระให้เป็นการคุยเล่นเเบบคนชั้นเเนวหน้า หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ไม่ต้องเครียด เเต่เป็นความสัมพันธ์ที่สบายใจ ทําให้คนที่คุยด้วยกับคุณรู้สึกสบายใจกับคุณมากยิ่งขึ้น
โฆษณา