รีวิว หมอคนสุดท้ายจะนึกถึงคุณเมื่อมองดูซากุระ
ผู้เขียน นิโนมิยะ อัตสึโตะ
ผู้แปล อภิญญา เตชะบุญไพศาล
สำนักพิมพ์น้ำพุ
โรงพยาบาลมุซาชิโนะชิจิจูจิ มีหมอที่มีความเชื่อต่างกันอย่างสุดโต่ง
ฟุกุฮาระ มาซากาสึ ศัลยแพทย์มือหนึ่ง รั้งตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล ผู้คอยสร้างปาฏิหาริย์ให้คนไข้
คิริโกะ ชูจิ แพทย์แผนกโรคผิวหนัง เชื่อว่าคนไข้มีสิทธิ์เลือกการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อรอความตาย จนได้รับสมญานามว่า ยมทูต
บทที่ 1 ความตายของพนักงานบริษัทคนหนึ่ง
ฮามายามะ ยูโงะ พนักงานบริษัทเอกชน พึ่งแต่งงานได้ 1 ปี ภรรยากำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรก อายุครรภ์ 6 เดือน
ชายผู้ที่บ้างาน มีชีวิตห่างไกลโรงพยาบาล จนวันหนึ่งเข้ามาตรวจร่างกายด้วยรู้สึกถึงความผิดปกติของร่างกาย แต่กลับพบว่าตัวเองเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว
หมอบอกว่าหลังจากให้เคมีบำบัดมีโอกาสที่จะรักษาหาย 80% หลังจากให้เคมีบำบัดผลที่่ออกมาเป็นไปในทางที่ดี หากต้องดูปัจจัยอื่นประกอบ แต่กรณีของฮามายามะ มีโอกาสสูงมีจะกลับมาเป็นมะเร็ง 70%
หมอจึงแนะนำวิธีการรักษาคือการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด แม้จะเป็นการรักษาที่มีความเสี่ยงถึงชีวิต แต่ผลลัพธ์ที่ได้มหาศาล หลังจากปลูกถ่ายไขกระดูกอัตรารอดชีวิตโดยปราศจากโรคมะเร็งในช่วง 5 ปี อยู่ที่ 70%
ทุกหนทางมีแต่เปอร์เซนต์ที่เกิดจากสถิติในอดีต ไม่มีอะไรแน่ชัด ฮามายามะจะตัดสินใจเลือกทางไหนระหว่างหยุดรักษาเพื่อรอความตายกับเดินหน้ารักษาต่อ
บทที่ 2 ความตายของนักศึกษามหาวิทยาลัยคนหนึ่ง
คาวาสึมิ มาริเอะ ผู้มีความใฝ่ฝันอยากเป็นหมอ พยายามถึง 3 ครั้งเพื่อสอบให้ติดหมอ จนสุดท้ายความฝันนั้นก็เป็นจริงได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยแพทย์โตเกียวชั้นปีที่ 1 แต่แล้วความฝันนั้นก็ดับสลายเมื่อป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
กล้ามเนื้อค่อยๆ อ่อนแรงลงเรื่อยๆ แต่ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ก็ยังคงทำงานอยู่ และในไม่ช้าก็จะหายใจไม่ได้ ตายในที่สุด แต่ก็มีทางยืดอายุขัยของตัวเองได้ โดยการใช้เครื่องช่วยหายใจ หากถอดออกคือตาย แล้วใครจะเป็นคนถอด
มาริเอะต้องเลือกระหว่างการตายอย่างที่สมควรจะเป็นหรืออยู่ต่อเพื่อความรักและความหวังของพ่อแม่ที่ไม่ต้องการให้ลูกจากไป
บทที่ 3 ความตายของหมอคนหนึ่ง
โอโตยามะ ฮารุโอะ หมอแผนกอายุรกรรมเป็นเพื่อนสนิทของหมอฟุกุฮาระและหมอคิริโกะ ที่มีความเห็นไม่ลงรอยกันเสมอ
จู่ๆ หมอโอโตยามะตรวจพบว่าตนเองป่วยเป็นมะเร็งคอหอยส่วนล่างโดยไม่ทันตั้งตัว
การป่วยของโอโตยามะไม่มีทางรักษาได้เพราะเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ฟุกุฮาระพยายามหาวิธีรักษาเพื่อยื้อชีวิตเอาไว้ ในขณะที่คิริโกะเสนอให้ผ่าตัดมะเร็งส่วนที่ติดกับกล่องเสียงออกเพื่อให้พูดได้เหมือนเดิม เพื่อให้โอโตยามะทำตามความปราถนาสุดท้ายให้เป็นจริง แต่วิธีนี้มีแต่จะทำให้โอโตยามะตายเร็วขึ้น
สุดท้ายแล้วอุดมการณ์อันแน่วแน่ของฟุกุฮาระและคิริโกะก็เกิดการสั่นคลอน เมื่อความเป็นความตายของเพื่อนถูกฝากไว้ในมือของพวกเขา
ลองคิดดูว่าหากวันหนึ่งเราเป็นดั่งตัวละคร 3 ตัวนี้ วันนั้นเราจะเลือกทางเดินไหนให้กับชีวิตที่เหลืออยู่ของตัวเอง
เมื่อถึงเวลานั้นอาจมีปัจจัยประกอบหลายๆ อย่างที่ต้องใช้ในการตัดสินใจ ไม่ว่าหนทางที่เราเลือกสุดท้ายผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นอย่างไร นั่นคือทางที่เราได้เลือกเดินแล้ว เราย่อมต้องยอมรับกับผลที่จะตามมา
ประโยคที่อ่านแล้วต้องคิดตาม
>>> เผื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปคุณจะยอมสูญเสียการมองเห็นไหม แล้วถ้าต้องสูญเสียการได้ยิน และการรับรู้ความรู้สึกทางกายไปด้วยล่ะ ถ้าต้องเสียขา สติปัญญาลดลงครึ่งหนึ่ง สูญเสียเงินเก็บไปทั้งหมด ต้องแลกกับชีวิตใครบางคน ต้องลดอายุขัยลงครึ่งหนึ่ง หรือถูกบิดเบือนความทรงจำ คุณจะยอมรับได้ถึงแค่ไหน
พูดให้ชัดๆ เลยคือคุณจะยอมแลกชีวิตตัวเองกับคุณค่าสิ่งเหล่านั้นได้มากเท่าไหร่ คำถามนี้ก็เหมือนกับการถามว่าคุณเห็นคุณค่าในชีวิตมากแค่ไหนนั่นแหละครับ และคุณให้นิยามชีวิตตัวเองไว้ยังไง ชีวิตคืออะไร คุณเคยคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังหรือเปล่าครับ (คิริโกะ ชูจิ หน้า 116)
>>> สักวันคนเราก็ต้องตายไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ ถ้าการมีชีวิตอยู่คือโอกาสที่ไขว่คว้าทุกสิ่งมาไว้ในมือ ความตายก็คือการสูญเสียทุกสิ่งไปหมดสิ้น
แค่บังเอิญว่าวันของเรามาเร็วกว่าคนอื่น แค่เวลาเคลื่อนต่างกันไป ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่ใช่เรื่องน่าเศร้า หรือน่าประหลาดใจ แต่เป็นกฎธรรมชาติ (คาวาสึมิ มาริเอะ หน้า 277-278)
คำเตือน!!! ก่อนอ่านหนังสือเล่มนี้ โปรดเตรียมผ้าหรือทิชชู่ไว้เพื่อซับน้ำตากันด้วยนะ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
