ล่าสุด มีรายงานว่า Justin Bieber ศิลปินเจ้าของผลงานเพลงชื่อดัง รับเงินเข้ากระเป๋ากว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,500 ล้านบาท)
หลังขายลิขสิทธิ์เพลงของเขาให้กับ Hipgnosis Song Capital
โดยจะมีผลกับเพลงทั้งหมดที่ปล่อยออกมาก่อนวันที่ 31 ธันวาคม ปี 2021 รวมแล้วกว่า 290 เพลง
ซึ่งรวมถึงเพลงฮิตอย่าง Baby และ Sorry ที่หลายคนน่าจะร้องตามกันได้เป็นอย่างดี
การขายลิขสิทธิ์เพลงในครั้งนี้ หมายความว่า Hipgnosis Song Capital จะกลายเป็นผู้ที่ได้รับเงินทันทีที่มีการเปิดกว่า 290 เพลงของ Justin Bieber ตามที่สาธารณะ ผ่านช่องทางสตรีมมิง หรือการนำไปใช้ประกอบภาพยนตร์ และซีรีส์
“การเข้าซื้อลิขสิทธิ์เพลงจาก Justin Bieber ในครั้งนี้ นับเป็นหนึ่งในข้อตกลงครั้งใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยมีมา สำหรับศิลปินนักร้อง ที่มีอายุต่ำกว่า 70 ปี” คุณ Merck Mercuriadis ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Hipgnosis กล่าว
สำหรับ Hipgnosis Song Capital เป็นบริษัทร่วมทุนมูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 32,770 ล้านบาท) ระหว่าง Blackstone บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการเงิน และ Hipgnosis Song Management
การขายลิขสิทธิ์เพลงในหมู่ศิลปิน นักร้อง ต้องบอกว่าไม่ได้เกิดกับ Justin Bieber เป็นคนแรก
เมื่อไม่นานมานี้ Justin Timberlake ก็เพิ่งขายลิขสิทธิ์เพลงกว่า 200 เพลง ให้กับ Hipgnosis Song Capital ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้แล้ว ก็ยังมี Hipgnosis Songs Fund กองทุนประเภททรัสต์ ที่จะนำเงินของนักลงทุนไปลงทุนในลิขสิทธิ์เพลง
โดยปัจจุบันกองทุนนี้ ถือครองลิขสิทธิ์เพลงมากกว่า 65,000 เพลง และเกือบ 50% เป็นเพลงฮิตเก่า ๆ ที่คนชอบเข้ามาฟัง เช่น
เพลงของ Mariah Carey ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเพลง All I Want For Christmas Is You
หรือเพลงของ Ed Sheeran อย่าง Shape of You
ครั้งหนึ่ง คุณ Merck Mercuriadis เคยกล่าวไว้ว่า เพลงฮิต มีมูลค่ามากกว่าทอง หรือน้ำมัน
จึงเป็นเหตุผลให้ที่ผ่านมา เข้าซื้อลิขสิทธิ์จากศิลปินนักร้องมากมาย จนสร้างรายได้มหาศาลต่อปี
32ถูกใจ
6แชร์
10Kรับชม
แสดงความคิดเห็นของคุณ...
