7 ก.พ. 2023 เวลา 01:30 • ประวัติศาสตร์

บูรพกษัตริย์ไทย กับพระไตรปิฎก

พระไตรปิฎก คือ คัมภีร์ที่บันทึกคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สันนิษฐานว่าพระไตรปิฎกภาษาบาลีเข้ามาสู่ประเทศไทยใน ๒ ช่วง คือ ประมาณปี พ.ศ. ๑๖๐๐ เมื่อพระพุทธศาสนาเถรวาทเผยแผ่จากประเทศพม่าเข้าสู่ภาคเหนือของไทย และประมาณปี พ.ศ. ๑๘๐๐ เมื่อพระพุทธศาสนาเผยแผ่จากประเทศศรีลังกามาทางนครศรีธรรมราช
ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวบูรพกษัตริย์ผู้ปกครองอาณาจักรหลายพระองค์ได้น้อมรับเอาหลักธรรมอันดีงามที่ปรากฏในพระไตรปิฎกมาใช้เป็นแม่บทแบบแผนในการบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นปึกแผ่น และทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างพุทธศาสนิกชนที่ดี
อาณาจักรสุโขทัย พ่อขุนรามคำแหงมหาราช พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วงลำดับที่ ๓ ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี ทรงอาราธนาพระมหาเถรสังฆราช ผู้เรียนจบพระไตรปิฎกขึ้นมาจากเมืองนครศรีธรรมราชให้มาพำนักที่วัดอรัญญิก เพื่อมาเผยแผ่พระธรรมวินัยแก่ประชาราษฎร์และตั้งคณะสงฆ์แบบลังกาวงศ์ในอาณาจักรสุโขทัย จนพระพุทธศาสนามีความรุ่งเรืองไพศาลดังปรากฏในศิลาจารึกหลักที่ ๑ ด้านที่ ๒ ว่า
Cr: หนังสือพัฒนาการของอักษรไทย / www.tungsong.com
“.. คนในเมืองสุโขทัยนี้ มักทาน มักทรงศีล มักโอยทาน
พ่อขุนรามคำแหงเจ้าเมืองสุโขทัยนี้ ทั้งชาวแม่ชาวเจ้าท่วยปั่วท่วยนาง
ลูกเจ้าลูกขุน ทั้งสิ้นทั้งหลาย ทั้งผู้ชายผู้ญีง
ฝูงท่วยมีศรัทธาในพระพุทธศาสน ทรงศีลเมื่อพรรษาทุกคน...”
“...พ่อขุนรามคำแหงกระทำ โอยทานแก่มหาเถร สังฆราชปราชญ์
เรียนจบปิฎกไตรหลวก กว่าปู่ครูในเมืองนี้
ทุกคนลุกแต่เมืองศรีธรรมราชมา ...”
(คำอ่านจารึกจากฐานข้อมูลจารึกในประเทศไทย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร)
ต่อมาในสมัยพระยาลิไทย พระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์พระร่วงลำดับที่ ๖ ทรงทำนุบำรุงพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองจนสุโขทัยกลายเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา พระองค์มักจะทรงเผดียงพระสงฆ์เข้าไปเรียนพระไตรปิฎกในมหาปราสาท และทรงจัดระเบียบคณะสงฆ์แบ่งเป็น ๒ ฝ่าย คือฝ่าย "คามวาสี" และฝ่าย "อรัญวาสี" โดยให้ฝ่ายคามวาสีเน้นการสั่งสอนราษฎรในเมืองและเน้นการศึกษาพระไตรปิฎก ส่วนฝ่ายอรัญวาสีให้การวิปัสสนาและประจำอยู่ตามป่าหรือชนบท
Cr: พระราชวชิรเมธี รองเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุนครชุม
ส่วนพระองค์เองทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกที่ทรงออกผนวช ทรงมีความรู้แตกฉานในพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา และปกรณ์วิเสสเป็นอย่างดีจนทรงพระปรีชาสามารถนิพนธ์หนังสือไตรภูมิพระร่วง สอนเรื่องนรกสวรรค์ บุญบาป นับเป็นงานวรรณคดีที่เก่าแก่ที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย ทั้งยังทรงมีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเถรวาทแบบลังกาวงศ์ไปสู่แผ่นดินล้านนาอีกด้วย
สมัยพระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนา การศึกษาเล่าเรียน พระปริยัติธรรมได้รับการส่งเสริม พระภิกษุสงฆ์ที่มีความรู้แตกฉาน ในพระไตรปิฎกได้รับการเคารพยกย่อง ทำให้มีกุลบุตร มาบวชเรียนเป็นจำนวนมาก
อาณาจักรล้านา ในรัชสมัยพระเจ้าติโลกราช เป็นยุคที่มีพระภิกษุผู้เชี่ยวชาญในการรจนาคัมภีร์ภาษาบาลีและรอบรู้พระไตรปิฎกจำนวนมาก ก่อให้เกิดการทำสังคายนาครั้งแรกของประเทศไทย ในปี พ.ศ. ๒๐๒๐ ที่วัดมหาโพธาราม หรือ วัดเจ็ดยอด เมืองเชียงใหม่
โปรดให้ชุมนุมพระเถรานุเถระผู้ทรงพระไตรปิฎกหลายร้อยรูป มีพระธรรมทินเถระเป็นประธาน สอบชำระพระไตรปิฎกและจารลงในใบลาน ใช้เวลา ๑ ปีจึงแล้วเสร็จ เรียกสังคายนาที่เชียงใหม่ครั้งว่า การสังคายนาครั้งที่ ๘ หรือ “อัฏฐสังคายนา” เมื่อนับตั้งแต่การสังคายนาครั้งแรกในอินเดียโบราณ
Cr.สารนิเทศจากคัมภีร์ใบลานสมัยอยุธยา
อาณาจักรอยุธยา พระมหากษัตริย์ที่ทรงมีบทบาทด้านการพระศาสนาอย่างยิ่งพระองค์หนึ่ง ได้แก่ สมเด็จพระบรมราชาที่ ๑ พระมหากษัตริย์องค์ที่ ๒๑ แห่งกรุงศรีอยุธยา ประชาชนยกย่องถวายพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าทรงธรรม
ก่อนขึ้นเสวยราชสมบัติพระองค์ทรงผนวช อยู่ที่วัดระฆัง มีความรอบรู้ทางด้านพระไตรปิฎกมากจนได้รับเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระพิมลธรรมอนันตปรีชา แม้ภายหลังลาสิกขาขึ้นเสวยราชย์แล้ว พระองค์ก็ยังมีพระราชศรัทธาเสด็จลงพระที่นั่งจอมทองสามหลังบอกบาลีแก่พระสงฆ์สามเณรอยู่เนืองๆ
มีพระภิกษุสามเณรจากวัดต่าง ๆ ผลัดกันเข้ามาเรียนเป็นประจำ ทั้งยังโปรดให้ประชุมราชบัณฑิตแต่งกาพย์มหาชาติ เมื่อ พ.ศ. ๒๑๗๐ และโปรดให้สร้างพระไตรปิฎกด้วย
Cr: Tris T7
อาณาจักรธนบุรี เป็นอาณาจักรสุดท้ายก่อนเข้าสู่ยุครัตนโกสินทร์ พระเจ้าตากสินมหาราชเป็นพระมหากษัตริย์เพียงพระองค์เดียวที่ทรงปกครองกรุงธนบุรี ระยะสั้นๆเพียง ๑๕ ปี นอกจากจะทรงเป็นนักรบที่แกล้วกล้านำไพร่พลตีฝ่าวงล้อมกอบกู้เอกราชคืนจากพม่าหลังเสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว พระองค์ยังทรงเป็นนักการศาสนาที่เคร่งครัดด้วย
ทรงปฏิบัติสมถวิปัสสนากัมมัฏฐานและทรงฟื้นฟูวัดวาอาราม ทรงเห็นว่าช่วงสงครามคัมภีร์พระไตรปิฎกกระจัดกระจาย สูญหายและถูกเผาทำลายไปเป็นจำนวนมาก จึงทรงมุ่งมั่นรวบรวมต้นฉบับที่หลงเหลืออยู่ เพื่อนำมาคัดลอกสร้างเป็นพระไตรปิฎกฉบับหลวงต่อไป
โปรดเกล้าให้ไปอัญเชิญพระไตรปิฎกจากหลายเมือง อาทิ นครศรีธรรมราช อุตรดิตถ์ และสถาปนาพระอาจารย์สี ผู้มีความรู้แตกฉานในพระไตรปิฎกตั้งแต่สมัยอยุธยาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช แม้กรุงธนบุรีจะสิ้นสุดลงก่อนที่พระไตรปิฎกฉบับหลวงจะสำเร็จลุล่วง แต่ต้นฉบับที่ได้จากเมืองนครศรีธรรมราชถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการสังคายนาพระไตรปิฎกในสมัยต่อมา
Cr.สมุดข่อย
การนับถือพระพุทธศาสนาของบูรพกษัตริย์ไทยนั้น มิได้เป็นไปตามขนบประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาเท่านั้น แต่พระองค์ทรงศึกษาพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎกจนทรงมีความรู้แตกฉาน และนำไปสู่การปฏิบัติเป็นต้นแบบแก่พสกนิกรใต้พระบรมโพธิสมภาร
เมื่อผู้นำปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจนเป็นที่ประจักษ์ย่อมยังศรัทธาให้เกิดขึ้น และหมู่ชนย่อมเกิดความเลื่อมใสที่จะดำเนินรอยตามพระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักของตน เมื่อทั้งฝ่ายอาณาจักรและพุทธจักรให้การส่งเสริมเกื้อกูลซึ่งกันและกันเช่นนี้ จึงเป็นเหตุให้พระพุทธศาสนาปักหลักตั้งมั่น สืบทอดมายาวนานจนนำความผาสุกมาสู่ผืนแผ่นดินนี้ตลอดมา
Cr.ภาพจิตรกรรม
ก่องแก้ว วีระประจักษ์. (2545). สารนิเทศจากคัมภีร์ใบลานสมัยอยุธยา. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร
ณัฏฐภัทร จันทวิช. (2553). วัดพนัญเชิงวรวิหาร พระนครศรีอยุธยา. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง
บุญเตือน ศรีวรพจน์, ประสิทธิ์ แสงทับ. (2542). สมุดข่อย. กรุงเทพฯ: องค์การค้าของคุรุสภา
วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ. พระมหาวิหารประดิษฐานพระไตรปิฎกหินอ่อน. กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง
ติดตามความรู้เนื้อหาสาระดีๆ ได้ที่
โฆษณา