1 ก.พ. 2023 เวลา 03:13 • นิยาย เรื่องสั้น

#ท่องโลกลี้ลับ #TheGhostRadio

**#ผีจะกละ_ผีแมวดำโบราณที่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก**
เราเคยได้ยินความเชื่อว่า แมวดำเป็นสัตว์อาถรรพ์นำพาความโชคร้ายมาให้ผู้พบเจอ บางคนก็กล่าวหาว่าเป็นสัตว์เลี้ยงของแม่มด อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันความเชื่อเหล่านี้ได้เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ผู้คนไม่ได้มองแมวดำว่าน่ากลัวอย่างในอดีต กลับกัน คนในสังคมเริ่มรับรู้ว่าแมวดำคือหนึ่งในแมวมงคลที่ปรากฏในสมุดข่อยโบราณ เรียกว่า ‘โกญจา’ หากเลี้ยงไว้จะช่วยเสริมอำนาจวาสนาให้แก่เจ้าของ
และอีกหนึ่งตำนานที่เชื่อว่า คนไทยหลายคนไม่เคยได้ยินมาก่อนคือ ตำนานผีแมวดำ ที่เรียกกันว่า ‘ผีจะกละ’ มีลักษณะคล้ายแมวป่าสีดำสนิท ขนกระด้างทวนไปด้านหน้าฟูฟ่อง ไม่มีเงา ดวงตาสีแดงเลือด ทางภาคใต้เรียกว่า ‘ผีล้วง’ มักออกหากินตอนกลางคืน ขุดรูเพื่อเป็นที่อยู่และที่หลบหนี มีนิสัยกลัวคน ชาวบ้านจึงเชื่อว่า หากพบเห็นรูปริศนาลึกลงไปใต้ดิน นั่นอาจเป็นที่อยู่ของผีจะกละก็ได้
การกำเนิดผีจะกละว่ากันว่ามี 2 ทาง คือ เกิดแบบโอปปาติกะ ไม่ต้องอาศัยพ่อแม่ เกิดเป็นตัวทันที ในที่นี้คือเกิดจากการเล่นของของผู้มีอาคม ส่วนอีกทางคือ เกิดจากแมวที่ชอบกินเลือดกินเนื้อของสัตว์อื่นเป็นอาหาร จนกลายเป็นตัวกลางที่ภูตผีใช้สิงร่าง บ้างก็ว่าผู้มีวิชาจะปล่อยของมาใส่ในแมวตัวนั้น และเปลี่ยนมันเป็นผีจะกละที่มีพลังในการทำร้ายผู้พบเห็น
ผีจะกละของบ้านเราคล้ายกับ ‘เนโกมาตะ’ หรือปีศาจแมวของญี่ปุ่น แต่ตำนานต่างกันตรงที่ เนโกมาตะเกิดจากแมวที่มีอายุเยอะและมีตบะแก่กล้าจนกลายเป็นแมวผี ลักษณะของมันเมื่อกลายเป็นเนโกมาตะ
คือมีหางแยกออกมาเป็นสองหาง และยืนด้วยสองขาหลัง ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า เนโกมาตะมีพลังควบคุมคนตายได้ พวกเขาจึงไม่นิยมปล่อยแมวไว้อยู่กับศพ และบางทีก็มีความเชื่อว่าต้องตัดหางแมวทิ้งเพื่อไม่ให้กลายเป็นปีศาจ ขณะที่บางพื้นที่เล่าว่า เนโกมาตะมีชีวิตจิตใจและมีความรักได้ มันจึงรักกับเจ้านายของตนและแปลงกายเป็นหญิงงามเพื่ออาศัยอยู่กับเขา
กลับมาที่ผีจะกละของไทย ไม่อาจทราบได้ว่าเพราะมีการพบเห็นน้อยจึงมีเรื่องเล่าต่อกันน้อยหรืออย่างไร แต่ในกฎหมายตราสามดวง ประมวลกฎหมายฉบับแรกของกรุงรัตนโกสินทร์ ตราขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีข้อความที่กล่าวถึง ‘ผี’ และ ‘ผีจะกละ’ อยู่ด้วย
กฎหมายตราสามดวงแบ่งเป็นพระไอยการได้ 27 ฉบับ หนึ่งในนั้นคือ พระไอยการลักษณรับฟ้อง มีเนื้อหากล่าวถึงหลักเกณฑ์ในการฟ้องร้องคดี การตัดสินความเมื่อรับเรื่องฟ้องร้อง และลักษณะคดีที่ห้ามนำมาฟ้องร้อง โดยกำหนดลักษณะต้องห้ามไว้ 20 ประการ ในประการที่ 20 กำหนดว่า
‘ถ้าแลอนาประชาราษฎรมีถ้อยคำร้องฟ้องศาลา แลฟ้องร้องเรียนกฎหมายโรงสารกรมใด ๆ … อนึ่งเปนสัจว่าเปนฉมบจะกละกะสือ แลมาฟ้องร้องเรียนแก่มุขลูกขุนก็ดี … แลราษฎรผู้ต้องคะดีมีถ้อยคำตัดฟ้อง 20 ประการนี้ ท่านให้มุขลูกขุนพิภากษาตามบทพระไอยการพระราชกฤษฏีกา ถ้าต้องด้วยพระไอยการห้าม 20 ประการนี้แล้วให้ยกฟ้องเสีย’
หมายความว่า หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นฉมบ (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้ความหมายว่า น. ผีผู้หญิงที่ตายในป่าและสิงอยู่ในบริเวณที่ตาย มีรูปเห็นเป็นเงา ๆ แต่ไม่ทำอันตรายใคร) จะกละ (น. ชื่อผีชนิดหนึ่ง เชื่อกันว่ามีรูปเป็นแมว อยู่ในจำพวกผีป่า
หมอผีชาวป่าเลี้ยงไว้ใช้ไปทำร้ายศัตรู) กระสือ (น. ผีชนิดหนึ่งที่เชื่อว่าเข้าสิงในตัวผู้หญิง ชอบกินของโสโครก ออกหากินในเวลากลางคืน เห็นเป็นแสงเรือง ๆ ในที่มืด) จริง ก็สามารถยกเป็นข้อต่อสู้ มีผลให้คดีนั้นถูกยกฟ้องได้ทันทีโดยไม่ต้องพิจารณาคดี นั่งแปลว่า ความเชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับของคนไทยโบราณมีอยู่จริงและแพร่หลายจนมีการเขียนถึงในเอกสารราชการ
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายมาตราที่กล่าวถึงการใช้คุณไสยและความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ ยกตัวอย่าง ความผิดเกี่ยวกับการเป็น กระสือ กระหาง ฉมบจะกละ ซึ่งในมาตราที่ 137 บัญญัติให้ฆ่าผู้รู้คุณว่านยา ฉมบจะกละ และให้ยึดทรัพย์เข้าพระคลังหลวงได้เลย
________________________________________
เรียบเรียง: ทีมงาน The Ghost Radio
ภาพ: มัท The Ghost
*#TheGhostRadio #TheGhostRadioOfficial*
และติดตามเรื่องเล่าสุดหลอนได้ในช่องทางต่อไปนี้
โฆษณา