2 ก.พ. 2023 เวลา 12:44 • สุขภาพ

ผู้ป้วยโรคไต​ - ยาแก้ปวด

🤔ยาแก้ปวดที่ผู้ป่วยโรคไตใช้ได้​ มีอะไรบ้าง
💠พาราเซตามอล
ยาถูกเปลี่ยนแปลงที่ตับ​โดยอาศัยเอนไซม์​ CYP2E1​ และขับออกทางไต
การกินยาพาราในขนาดสูงๆ​ จะทำให้ตับอักเสบ​ (hepatic necrosis)​ จากการที่สารที่ได้จากการเปลี่ยนแปลงยาพาราไปจับกับเนื้อตับ
▪️ผู้ที่เป็นโรคตับ​ ให้ใช้ยาในขนาดต่ำที่สุด​ ด้วยระยะเวลาที่สั้นที่สุด
▪️ผู้ที่เป็นโรคไต (CrCl <10 mL/min) รวมทั้งผู้ที่ฟอกเลือดหรือล้างไต ให้กินยาทุก8ชั่วโมง
▪️ในผู้ป่วยไตบกพร่อง (CrCl <10-50 mL/min)​ กินยาทุก6ชั่วโมง
ไม่แนะนำให้ใช้ยาติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
❗ยาลดการอักเสบกลุ่ม​ NSAIDs
ผู้ที่เป็นโรคไต​ ให้ใช้ยา​ NSAIDs​ ที่มีค่าครึ่ง​ชีวิต​สั้น​ ในระยะเวลาไม่เกิน​ 5 วัน​ โดยใช้ยาในขนาดต่ำที่สุด
ไอบูโพรเฟน
ถูกขับออกทางปัสสาวะ​มากกว่า​ 90%
🔹ผู้ที่เป็นโรคตับไม่จำเป็นต้องปรับขนาดยา​ แต่ให้สังเกตุ​อาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น​ เช่น​ ค่าเม็ดเลือดขาวที่เพิ่มขึ้น​ มีผื่น ส่วนผู้ที่เป็นโรคตับรุนแรง​ (Severe hepatic impairment) ให้หลีกเลี่ยงการใช้ยา
▪️ผู้ที่เป็นโรคไต
GFR 30 -​ 59 mL/minute/1.73 m2: ห้ามใช้ยานี้​ ถ้าการใช้ยาทำให้เป็นอันตรายต่อไต​
GFR < 30 mL/minute/1.73 m2: ห้ามใช้
ในกรณีที่​ฟอกเลือดหรือล้างไต​ ไม่จำเป็นต้องปรับขนาดยา
(Note จากอาจารย์​ สุระรอง ชินวงศ์
อยากเสริมว่า ยากลุ่ม NSAIDs ไม่ว่าตัวใดก็ไม่ควรใช้ในผู้ป่วย CKD เลยครับ และโดยทั่วไปเรา (โดยเฉพาะเภสัชกรชุมชน) ก็มักไม่ทราบระดับความรุนแรงของ CKD ในผู้ป่วยที่มาที่ร้านยา ยิ่งจะเป็นการยากที่จะมั่นใจได้ว่าควรใช้หรือไม่ควรใช้ครับ)​
💠TRAMADOL
ยาถูกเปลี่ยนแปลงที่ตับ​โดยอาศัยเอนไซม์​ CYP2D6, CYP3A4 และ CYP2B6​ และขับออกทางไต​ 90% อีก​ 10% ขับออกทางอุจจาระ​
▪️ผู้ที่เป็นโรคตับ​ให้ใช้ยาในขนาด​ 50 มิลลิกรัม​ ทุก​ 12 ชั่วโมง
🔹ผู้ที่ CrCl > 30 mL/min ไม่จำเป็นต้องปรับขนาดยา
▪️ผู้ที่เป็นโรคไต CrCl < 30 mL/min ให้กินยาทุก​ 12 ชั่วโมง​ โดยขนาดยาสูงสุดวันละ​ 200​ มิลลิกรัม​
ผู้ที่ฟอกเลือดสามารถ​ใช้ยาได้​ เนื่องจาก​มียาเพียง​ 7% เท่านั้นที่ถูกกำจัดออกไป
😀มีปัญหา​เรื่อง​การ​ใช้​ยา​เชิญ​ปรึกษา​เภสัชกร
.
.
💢
.
ภาพ​ cover จาก
.
อ่านเพิ่มเติม
การใช้ยาระงับปวดในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
.
.
.
.
POSTED 2023.01.02
บทความอื่น
ไ ต เ สื่ อ ม
💊กินยาอย่างไร ไตไม่พัง?
NSAIDS กับโรคไต
💊การใช้ยาต้านฮิสทามีนรุ่นที่สอง (second generation antihistamine) ในกรณีที่เป็นโรคตับหรือโรคไต
โฆษณา