3 ก.พ. 2023 เวลา 05:00 • ธุรกิจ

โรงงานผลิตยาสมุนไพรแถวหน้า ก้าวที่กล้าของทายาท GEN 3 ‘อ้วยอันโอสถ’

สมุนไพรไทย เป็นของคู่เรือนคนไทยมาช้านาน เช่นเดียวกับ ‘อ้วยอันโอสถ’ จากร้านขายยา 1 คูหา กลายมาเป็นบริษัทผลิตยามาตรฐานสูงที่สุดสำหรับยาแผนโบราณ และได้รับความไว้วางใจให้จำหน่ายในร้านขายยากว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศ ด้วยความมุ่งมั่นจากผู้บุกเบิกรุ่นปู่สู่ทายาทรุ่นที่ 3 ที่มุ่งติดปีกยาสมุนไพรแผนโบราณ ให้ทะยานไปข้างหน้าด้วยการพลิกโฉมยาแผนโบราณด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
📌กว่าจะมาเป็น ตำนานยาสมุนไพร 7 ทศวรรษ
‘อ้วยอันโอสถ’ คือหนึ่งในธุรกิจยาแผนไทยที่อยู่คู่คนไทยมานานถึง 76 ปี คุณชนรรค์ สมบูรณ์เวชชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด ย้อนความหลังให้ฟังว่า คุณปู่เดินทางมาจากเมืองจีนที่กวางโจว เริ่มจากการเป็นลูกจ้างร้านขายยา เรียนรู้จนสามารถสอบเป็นแพทย์ และเภสัชกรแผนโบราณจนได้ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบการโรคศิลป์ยาจีน
เมื่อเก็บเงินได้มากพอ ก็เปิดร้านขายขนาด 1 คูหา บริเวณเชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้า จำหน่ายยาแผนปัจจุบัน และแผนโบราณ มาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2490 โดยตั้งชื่อว่า ‘อ้วยอันโอสถ’ ในภาษาจีน แปลว่า สะอาด และ ปลอดภัย และนั่นกลายเป็นสิ่งที่พวกเขายืดมั่นในการทำธุรกิจตลอดมาจนทุกวันนี้
“...คุณปู่เก่งเรื่องการรักษาด้วยวิธีแมะ จับชีพจร แล้วจ่ายยาลูกกลอนรักษาโรค สิ่งสำคัญท่านจะเอาใจใส่ลูกค้า ถ้ามีใครมาให้ช่วย หรือเด็กมีอาการชักมา ไม่ว่าจะดึกดื่นมืดค่ำแค่ไหน ท่านจะเปิดประตูรับเสมอ และหากยาสูตรไหนที่จ่ายไปแล้วได้ผลดี ก็จะนำไปจดทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นตำรับของตัวเอง”
📌จากร้านขายยาเล็กๆ กลายเป็นโรงงานผลิตยาสมุนไพร ได้อย่างไร?
เมื่อความต้องการสูงขึ้น จนแรงงานหลังร้านทำไม่ทัน ประกอบกับช่วงนั้น รัฐบาลสนับสนุนเรื่องสมุนไพรไทยตามบัญชียาหลักแห่งชาติ เช่น ฟ้าทะลายโจร แก้ไข้ร้อนใน ขมิ้นชันที่ช่วยบรรเทาท้องอืดท้องเฟ้อด้วย จึงเป็นโอกาสเหมาะที่ร้านขายยาเล็ก ๆ แห่งนี้จะขยับขยายกิจการ
ด้วยความมุ่งมั่นของคุณพ่อ ซึ่งเป็นทายาทรุ่น 2 เมื่อเข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัว ก็ตัดสินใจก่อตั้ง บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด ในปี 2529 ยกระดับจากอุตสาหกรรมยาในครัวเรือน มาเป็นโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน เปลี่ยนจากยาต้ม ยาลูกกลอนเม็ดดำ ๆ ที่ลำบากใจคนกิน มาเป็นแคปซูลที่กินง่าย ไม่ต้องสัมผัสรสขมของยาโดยตรง นอกจากนี้ยังคิดค้นยาน้ำสูตรต่าง ๆ ยาอมสมุนไพร ที่นิยมอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน
📌ทายาทรุ่น 3 รับไม้ต่อธุรกิจ ขับเคลื่อนภารกิจสำคัญ
ในอดีตหากเอ่ยชื่อ ‘อ้วยอันโอสถ’ หลายคนอาจคุ้นหู แต่ไม่รู้ว่าขายอะไร เแม้จะเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน สินค้าตอบโจทย์ตลาด ยอดขายก็ดีมาตลอด โดยไม่ต้องทำการตลาด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ อ้วยอันโอสถ กลายเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าไม่รู้จัก แต่ซื้อสินค้าจากการแนะนำของร้านขายยา ส่วนใหญ่ จำชื่อแบรนด์ไม่ได้ แถมยังติดภาพว่าเป็นแบรนด์ที่ดูเชย ดังนั้น ภารกิจสำคัญนี้จึงเป็นความท้าทายของผู้สืบทอดธุรกิจรุ่นต่อไป
คุณชนรรค์ คือ ทายาทรุ่น 3 ที่เข้ามารับไม้ต่อธุรกิจครอบครัว สิ่งที่พกติดตัวมาด้วย คือ ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์อาหาร โดยคว้าปริญญาตรีและปริญญาโท ด้าน Food Science and Technology ที่ The Ohio State University, Columbus สหรัฐอเมริกา
“...ผมเริ่มเข้ามาทำงานในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายเทคนิคและฝ่ายต่างประเทศ ดูแลด้านการควบคุมคุณภาพ มาตรฐานโรงงาน คิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ รวมถึงการนำเข้าและส่งออกสินค้า ต่อมาคุณพ่อเลื่อนตำแหน่งให้เป็น กรรมการผู้จัดการ ดูแลทุกด้านในฝ่ายผลิต ควบคุมคุณภาพ กฎหมาย การขึ้นทะเบียนยา และการคิดค้นสูตรยาใหม่ ๆ”
โดยภารกิจสำคัญที่ได้รับมอบหมายเป็นอันดับแรก คือ การพัฒนายาสมุนไพร ให้ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนยุคนี้ จับกลุ่มตลาดเฉพาะทางมากขึ้น วันนี้ อ้วยอันโอสภ ไม่ได้มีแค่ยาฟ้าทะลายโจรแก้หวัด หรือขมิ้นชันแก้ท้องอืด แต่มียาที่ทำให้นอนหลับลึกขึ้น ยาที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องสายตา ยาที่คิดมาเพื่อให้นักวิ่งฟื้นตัวได้ดีขึ้น รวมถึงยาสมุนไพรสำหรับเด็ก ไปจนถึงครีมบำรุงผิวจากขมิ้น
ดูเหมือนว่าการที่เขาเลือกศึกษาทางด้านนี้ ช่วยเขาได้มากเมื่อกลับมาพัฒนาธุรกิจของครอบครัว ทำให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทถูกพัฒนาขึ้น ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญเลยทีเดียว
คุณชนรรค์ สะท้อนภาพต่อว่า อีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ ถ้าเปรียบเทียบ อ้วยอันโอสถ เป็นคน ด้วยอายุของแบรนด์ก็ไม่ต่างกับผู้สูงวัย แต่หลังจากรีแบรนด์ครั้งใหญ่ ปรับเปลี่ยนตั้งแต่โลโก้ เน้นตัวอักษร “อ้วยอัน” ให้โดดเด่นขึ้น เพื่อสร้างความจดจำ ‘ชื่อแบรนด์’ ให้กับผู้บริโภค เปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งให้ดูดี แม้เป็นของโบราณ แต่อยู่ในรูปลักษณ์ทันสมัย
“...ผมอยากลบภาพที่คนมักคิดว่า สมุนไพรต้องขม เก่า โบราณ แต่เขาอยากทำให้สมุนไพรใช้ได้กับทุกเพศ ทุกวัย อยากให้คนหันกลับคืนสู่ธรรมชาติ ปรับทัศนคติใหม่ว่า กินยาสมุนไพรแล้วไม่เชย...”
ต้องยอมรับว่า หลังจากทายาทรุ่น 3 เข้ามาพลิกโฉมใหม่ วันนี้ ‘อ้วยอันโอสถ’ ธุรกิจยาสมุนไพร ในวัย 76 ปี กลับมาดูสดใส อ่อนวัย มีชีวิตชีวาและทันสมัยขึ้น ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตาสินค้าเท่านั้น แต่ยังสร้างแบรนด์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ทำการตลาดออนไลน์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุค ‘โซเชียล’ มากขึ้น
📌เปลี่ยนยาแผนโบราณที่ดูเชยให้ทันสมัยด้วยเทคโนโลยี
จากรุ่นปู่ปั้นยาลูกกลอนอยู่หลังบ้าน มารุ่นพ่อพัฒนาใส่ในแคปซูล มีโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐานและทันสมัย มาถึงรุ่นลูกได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีออโตเมชั่นเข้ามาปรับใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตัวยา และพัฒนา “แบรนด์” ให้เข้าไปอยู่ในหัวใจคนยุคนี้ไปพร้อม ๆ กัน
ปัจจุบัน บริษัทอ้วยอันโอสถ นำเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยมาใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มผลผลิต และเพิ่มมูลค่าให้สินค้า เช่น เครื่องบรรจุแคปซูลจากประเทศอิตาลี ซึ่งสามารถบรรจุแคปซูลได้ 40,000 แคปซูลต่อชั่วโมง เครื่องบรรจุยาน้ำแก้ไอ ที่บรรจุและปิดฝาขวดยาน้ำได้ 3,000 ขวดต่อชั่วโมง และการนำเครื่องปิดฝายาอมสมุนไพร มาใช้แก้ปัญหาการผลิตไม่ทัน ลดการใช้แรงงานคนกว่า 75% เป็นต้น
วันนี้ เราจึงเห็นผลิตภัณฑ์จาก อ้วยอันโอสถ ยุคใหม่ ที่ครอบคลุมผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน ตั้งแต่ ยาบำรุง และอาหารเสริม อย่าง กลุ่มยาลดไข้สำหรับเด็ก (แบรนด์ Mr. HERB) ยาอมสมุนไพร ยาสามัญประจำบ้าน (แบรนด์ อ้วยอัน) และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม (แบรนด์ HERBAL ONE) ที่ดูทันสมัย พกพา สะดวก ทานง่าย ไม่ต้องรับประทานเยอะเหมือนสมัยก่อน
📌ใช้ช่องทางออนไลน์สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า
คุณชนรรค์ บอกอีกว่า บริษัทมีการพัฒนาเทคโนโลยีทางการบริการและการค้า เพื่อการประชาสัมพันธ์ข้อมูลของสินค้า และมาตรฐานการผลิตของบริษัทให้กับลูกค้าได้รับรู้ โดยปรับปรุง เว็บไซต์ www.ouayun.com ให้ดูทันสมัยขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนการที่จะวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี Interactive Traditional Clinic โดยมีคุณหมอมาตอบคำถามผู้บริโภคผ่านเว็บไซต์ ซึ่งผู้บริโภคสามารถบอกอาการหรือ โรคที่เป็นหรืออยากจะรักษาและบรรเทาเพื่อให้คุณหมอแนะนำยาสมุนไพรและจ่ายยาได้อย่างถูกต้อง ถือเป็นช่องทางการสื่อสารและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
📌ตรวจสอบคุณภาพของสมุนไพรได้อย่างไร ?
คุณชนรรค์ อธิบายถึงที่มาของวัตถุดิบว่า ประเทศไทยมีผู้ผลิตยาสมุนไพรกว่า 1,000 ราย แต่ที่ได้มาตรฐานเดียวกับเรามีเพียง 20 กว่าบริษัทเท่านั้น หากผู้บริโภคซื้อของไม่ดีมากินแล้วไม่หาย เขาจะมีความรู้สึกที่ไม่ดีกับยาสมุนไพร ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยใช้ของที่ดีมีคุณภาพ เราจึงเข้มงวดเรื่องวัตถุดิบ ที่มีมาตรฐาน
โดยบริษัทเรามี Contract กับเกษตรกร เช่น ขมิ้นชัน จะมาจากฟาร์มที่ได้มาตรฐานการเกษตรแบบ GAP (Good Agricultural Practices) ที่สำคัญที่สุดคือ เรามีการสุ่มตรวจสารสำคัญ ซึ่งเป็นตัวสร้างสรรพคุณในสมุนไพรที่กล่าวอ้าง บริษัทจึงลงทุนสูงมากเพื่อซื้อเครื่องวิเคราะห์สารสำคัญ
ซึ่งจริง ๆ แล้วไม่จำเป็น เพราะไม่ได้อยู่ในข้อกำหนด แต่เราให้ความสำคัญกับคุณภาพ เพราะเราระบุข้างขวดว่า กิน 2-3 แคปซูล ถ้าเราไม่ควบคุมวัตถุดิบ สารไม่ตรงกัน ครั้งนี้กิน 2 แคปซูลหาย ครั้งต่อไปกิน 2 แคปซูลไม่หาย ต่อไปลูกค้าจะไม่เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของเรา
📌สร้างมาตรฐานการผลิต เพิ่มความเชื่อมั่นผู้บริโภค
คุณชนรรค์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานมากว่า 76 ปี ‘อ้วยอันโอสถ’ มุ่งมั่นที่จะผลิตยาจากสมุนไพรที่มีคุณภาพเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทย จึงให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบการเกษตรตามมาตรฐานคุณภาพ ที่มีการตรวจวิเคราะห์ยาด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น High Performance Liquid Chromatography (HPLC) การตรวจสอบสาร Andrographolide ในฟ้าทะลายโจร และCurcumin
รวมในขมิ้นชัน Sennoside B ในมะขามแขก เป็นต้น รวมไปถึงการสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพในแต่ละสาขาการผลิต ที่มีความชำนาญงานเฉพาะด้าน โดยยึดหลักการในการผลิตที่รักษาคุณภาพมาตรฐานตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและกระบวนการผลิตที่ได้รับมาตรฐานผ่านระบบ GMP PIC/S (Good Manufacturing Practice Pharmaceutical Inspection Cooperation Scheme) ซึ่งเป็นระบบประกันคุณภาพ ที่มีการปฏิบัติและพิสูจน์แล้วจากนักวิชาการด้านอาหารและยาทั่วโลก และเป็นมาตรฐานสูงสุดของหมวดสมุนไพร ผู้บริโภคจึงเชื่อมั่นได้ถึงความสะอาดและปลอดภัยในผลิตภัณฑ์
📌ดูแลกันเหมือนครอบครัว ผู้บริหารเข้าถึงพนักงานได้
ธุรกิจครอบครัว ถือเป็นความท้าทาย เพราะการเปลี่ยนพฤติกรรมเดิม ๆ เป็นสิ่งที่ยาก แต่ด้วยประสบการณ์และความเป็นนักวิทยาศาสตร์ ที่ทายาทธุรกิจแบบเขาต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น คุณชนรรค์ ได้เข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัวหลังไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกนานกว่า 15 ปี แต่ช่วงเวลาที่ห่างหายไป เขาไม่ได้ลืมคุณค่าขององค์กรที่คนรุ่นเก่าได้สร้างไว้ โดยย้ำว่า
“...ผมจะไม่เปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร แม้จะนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วย ก็ยังดูแลกันเปรียบเสมือนครอบครัว ผู้บริหารต้องทำงานกับทุกคนได้ เข้าถึงพนักงานได้ ช่วยลดช่องว่างในการทำงาน การสื่อสารก็จะดีขึ้น งานก็จะดีตามไปด้วย ผมมองว่า คนที่จะมาสานต่อธุรกิจครอบครัว ต้องมีความเข้าใจในองค์กรอย่างถ่องจริง และเก็บรักษาคุณค่านี้ไว้ให้ได้ นั่นคือ หัวใจสำคัญในการบริหารธุรกิจครอบครัว...”
📌Key Success สูตรความยั่งยืน 7 ทศวรรษ ของ ‘อ้วยอันโอสถ’
คำสอนของรุ่นคุณปู่ ที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น คือ ยาสมุนไพรของ อ้วยอันโอสถ จะต้องเป็นสมุนไพรที่มีคุณภาพ ราคาที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้ ถ้าจะขยายความสำเร็จของ อ้วยอันโอสถ คือ การพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง ทั้งคุณภาพผลิตภัณฑ์และการผลิต และการหาโอกาสในตลาดทั้งนำเข้าและส่งออก สู้ตลาดโลกด้วยสมุนไพรไทยและนวัตกรรม รักษาสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และรักษาคุณค่าองค์กรไว้ให้ได้ ที่สำคัญคือ ต้องรับมือและปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ สะท้อนให้เห็นว่า การจะทำธุรกิจให้เติบโตได้ ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง เพื่อพาธุรกิจก้าวไปอีกขั้นหนึ่ง ต้องเรียนรู้และพัฒนาธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ เพื่อยกระดับคุณภาพสินค้า และสร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์ แต่ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงไป สิ่งเดียวที่ ‘อ้วยอัน โอสถ’ ยังคงมุ่งมั่นและยืดถือไม่เคยเปลี่ยน คือ การผลิตยาสมุนไพรที่ ‘สะอาดและปลอดภัย’ เหมือนดั่งชื่อ ‘อ้วยอันโอสถ’ ที่ยืนหยัดยาวนานกว่า 76 ปี
รู้จัก ‘บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด’ เพิ่มเติมได้ที่
โฆษณา