วิทยาศาสตร์ของ “รักแรกพบ”
(วิทยาศาสตร์ของการตกหลุมรัก ตอนที่ 2 (ตอนจบ))
(หมายเหตุ : เนื้อหาย่อและเรียบเรียงมาจากบางส่วนของบทที่ 15 หนังสือ “500 ล้านปีของความรักเล่ม1” และหนังสือ “เรื่องเล่าจากร่างกาย” แต่ย่อแล้วก็ยังยาวหน่อยนะครับ )
สิ่งมีชีวิตในธรรมชาติชนิดใดก็ตาม ที่ตัวเมียไม่สามารถเลี้ยงลูกด้วยตัวเองได้ (อาจะเพราะบริเวณนั้นอาหารหายาก ลูกช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือผู้ล่ารอบตัวเยอะต้องช่วยกันระวังภัย) ก็จะพิจารณาด้วยว่าคู่ผสมพันธุ์จะสามารถช่วยเลี้ยงลูกได้ดีแค่ไหน
ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการช่วยเลี้ยงลูกคือ ตัวผู้ต้องหาอาหารเก่ง สร้างที่พักได้แข็งแรงปลอดภัย
ดังนั้น การจีบในสัตว์บางสปีชีส์ เช่น ชะนี ชิมแปนซี และนกส่วนใหญ่ ตัวเมียจะเพิ่มบททดสอบเพื่อดูความสามารถในการหาอาหาร การหาที่อยู่ และปกป้องถิ่นหากินของตัวผู้เข้าไปด้วย
ชิมแปนซีตัวผู้จะจีบตัวเมียด้วยการโชว์ให้เห็นว่าหาอาหารเก่ง โดยการล่าเนื้อสัตว์มาวางให้ตัวเมีย
สิงโตตัวผู้แม้จะไม่ช่วยหาอาหารแต่มันจีบด้วยการโชว์ความแข็งแรงเพื่อให้ตัวเมียมั่นใจว่ามันสามารถทำหน้าที่ปกป้องถิ่นหากิน และป้องกันไม่ให้ตัวผู้อื่นเข้ามาทำร้ายลูกๆ สิงโตได้
นกเพนกวินอะเดลีตัวผู้ในขั้วโลกจีบตัวเมียด้วยการหาก้อนหินซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยาก (ในดินแดนที่มีแต่ดินโคลน และหิมะ) แต่จำเป็นในการสร้างรังมาให้ตัวเมีย
มนุษย์โฮโม เซเปียนส์ก็ให้ก้อนหินเหมือนกัน แม้ว่าจะนำไปสร้างบ้านไม่ได้แต่ก็เป็นก้อนหินหายากที่เรียกว่าเพชรหรือพลอย การขับรถสปอร์ตแพงๆ ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม ซื้อดอกไม้ไปให้ หมั่นไปรับไปส่ง ก็เป็นการโฆษณา (ในแบบยุคหิน) ว่าจะเป็นพ่อที่มีอาหารให้ มีทรัพยากรให้ และจะเป็นพ่อที่มีความใส่ใจ
14 กุมภาพันธ์
สาวสวยเดินเข้ามาในลิฟต์ เธอเป็นใครกันนะ ทำไมเขาไม่เคยเห็นเธอมาก่อน
สัญชาตญานมนุษย์ถ้ำที่หลับไหลในร่างกายของทศเริ่มทำงาน
ทศเองก็ไม่ต่างจากผู้ชายส่วนใหญ่ เขาเริ่มต้นเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงด้วยสายตา
สิ่งแรกสุดที่มนุษย์อยากรู้คือ ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าอยู่ในวัยสืบพันธุ์หรือไม่ สัตวอื่นๆ สามารถประเมินภาวะสืบพันธุ์ได้จากสัญญาณทางกาย เช่น ก้นแดง กลิ่นฟีโรโมน แต่ในคนผู้หญิงจะซ่อนสัญญาณที่บ่งว่าพร้อมจะสืบพันธุ์เหล่านี้ไว้จนเกือบมิด
ผู้ชายทุกวัฒนธรรมทั่วโลก จึงต้องอาศัยสัญญาณบอกใบ้อื่นๆ เพื่อประเมินความสามารถในการมีลูก และสุขภาพของผู้หญิง
สายตาของทศจับจ้องไปที่ผิวหน้าสวยใสไร้ริ้วรอย เขามองไปที่ริมฝีปากอวบอิ่ม และอดไม่ได้ที่จะหลบตาลงต่ำมองไปที่ร่องอก และประเมินขนาดหน้าอกของเธอ
สายตาไล่ยาวจากอกลงมาที่เอวสะโพก และเรียวขา หน้าอกที่เต่งตึง เอวคอด ความโค้งจากเอวไปที่สะโพกที่ผาย ล้วนแล้วแต่บ่งถึงระดับของฮอร์โมนเพศหญิงที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการมีลูก
เด็กสาวที่ยังไม่เข้าวัยเจริญพันธุ์ หรือหญิงที่เลยวัยเจริญพันธุ์ไปแล้ว ลักษณะที่ดึงดูดเพศชายเหล่านี้จะหายไป
สายตาเจ้าชู้ และดูเหมือนจะลวนลามของทศนี้ เป็นกลไกในสมองที่ใช้พยายามจะเก็บข้อมูลเพื่อประเมินความสามารถในการมีลูกของน้องก้อย
ความรู้สึกสวย เซ็กซี่ หรือความชอบ เป็นเรื่องของอารมณ์ไม่ใช่เหตุผล อารมณ์เหล่านี้เกิดขึ้นมาเองอย่างอัตโนมัติโดยเราไม่ต้องคิด
เช่นเดียวกัน เมื่อน้องก้อยมองพี่ทศ สัญชาตญานมนุษย์ถ้ำในสมองน้องก้อยก็เก็บรายละเอียดต่างๆ ของทศโดยที่น้องก้อยไม่รู้ตัว
ความสูง อกพายไหล่พึ่ง บุคลิก พฤติกรรม เป็นข้อมูลที่สามารถนำไปประเมิน ความน่าเชื่อถือ สถานะทางสังคม ความสามารถในการหาอาหาร และทรัพยากร
ทั้งสองคนมองเพศตรงข้ามในมุมที่ต่างกันเพราะ “กลไกในสมองที่ใช้ประเมินเพศตรงข้าม” ของสมองของผู้หญิง และผู้ชายออกแบบมาให้มองหาสิ่งที่ต่างกัน
เรียวขาที่ยาว และผมที่ดำเงางามของน้องก้อย บ่งให้มนุษย์ถ้ำในสมองทศ เรียนรู้ถึงภาวะโภชนาการในอดีตของสาวสวยคนนี้
ภาวะโภชนาการในช่วงก่อนเข้าวัยสาวจะมีผลต่อความยาวของขา และคุณภาพของเส้นผมได้ การขาดอาหารในวัยเด็กจะทำให้ขาสั้นกว่าที่ควรจะเป็น ภาวะขาดสารอาหารมีผลทำให้ผมแห้งกรอบหรือสีเปลี่ยนไปได้
ใบหน้าจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อย ระยะจากจมูกถึงคาง และจากปากถึงคางที่สั้น เป็นลักษณะใบหน้าของเด็กซึ่งลักษณะเช่นนี้ภาษาวิทยาศาสตร์เรียกว่า neoteny นี้ สามารถกระตุ้นให้รู้สึกใจอ่อน เอ็นดู อยากปกป้องดูแล
ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะปิ๊งง่าย ปิ๊งได้จากระยะไกล และตกหลุมรักเร็วกว่าผู้หญิง เพราะสิ่งที่ (มนุษย์ถ้ำในสมองของ) ผู้ชาย มองหาคือ ‘ความสามารถในการมีลูก’ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถประเมินได้จากลักษณะภายนอก
แต่มนุษย์ถ้ำในสมองของผู้หญิงมองหาสิ่งที่อยู่ลึกลงไปมากกว่านั้น ทำให้ต้องใช้เวลาในการค้นหา
2 มีนาคม
หลังจากกล้าๆ กลัวๆ อยู่หลายวัน ทศก็ตัดสินใจเดินเข้าไปคุยกับน้องก้อย “งานยังไม่เสร็จหรือครับ มีอะไรให้ผมช่วยไหม?”
แม้ว่าทศจะไม่รู้ตัวแต่มนุษย์ถ้ำภายในสมองทศรู้ว่าการแสดงความใส่ใจ หรือเป็นห่วงนี้ นี่เป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลกับโฮโม เซเปียนส์เพศเมียมาแล้วนับเป็นแสนๆ ปี
สิ่งมีชีวิตที่ตัวเมียไม่สามารถดูแลลูกได้แต่เพียงลำพัง ตัวเมียจะมองหาตัวผู้ที่ลักษณะของพ่อที่ดี
ในโลกยุคหินที่ไม่มีตลาด ไม่มีซูเปอร์มาร์เกต ยาคุม ถุงยาง หรือปฎิทิน (เพื่อนับรอบเดือน) การมีเพศสัมพันธุ์ที่ไม่ระวังอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความตายของลูกได้
การมีลูกกับตัวผู้ที่ได้แล้วหายหัวไปไม่ยอมอยู่ช่วยหาอาหาร ปกป้อง และเลี้ยงดู โอกาสเสียชีวิตของลูกจะสูงมาก
อารมณ์ทางเพศของผู้หญิงจึงออกแบบมาให้มีแนวโน้มจะ ‘จุดติดยากกว่า’ โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้าที่ยังไม่ไว้ใจ แต่ผู้ชายส่วนใหญ่สามารถมีอารมณ์ทางเพศกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักมาก่อนได้อย่างไม่มีปัญหา
การแสดงออกถึงความใส่ใจ เป็นห่วงเป็นไยของทศ จึงเป็นการเริ่มต้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาให้ความสำคัญและใส่ใจก้อยเป็นพิเศษ
เมื่อทั้งคู่สนิทกันมากขึ้น ทศก็ยังส่งสัญญาณว่า ‘ผมจะเป็นพ่อที่ดี’ อย่างต่อเนื่องด้วยการไปรับไปส่ง คอยถามไถ่ เอาอกเอาใจ ไลน์ไปหาเช้า สาย กลางวัน บ่าย เย็น และก่อนนอน
6 มีนาคม
“น้องก้อยครับ...ข้างๆ บริษัทมีร้านอาหารเปิดใหม่ เย็นนี้เลิกงานแล้วไปทานข้าวด้วยกันดูไหมครับ?”
ทศไม่ได้เลือกร้านนี้เพราะว่าอยู่ใกล้บริษัท แต่เขารู้ว่าร้านนี้เป็นร้านหรู ราคาแพง บริกรใส่สูท โต๊ะปูด้วยผ้าลินินสีขาว มีเทียนอยู่ตรงกลาง
การแสดงออกถึงฐานะ สถานภาพทางสังคม หรือความขยันทำมาหากิน เช่นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการจีบสาวในเกือบทุกวัฒนธรรมทั่วโลก และไม่ต่างไปจากตัวผู้สปีชีส์อื่น (ที่ตัวเมียต้องพึ่งตัวผู้ในการหาอาหาร)
การสร้างความประทับใจด้วย นาฬิกาฝังเพชร รถสปอร์ต ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม เป็นพฤติกรรมที่ธรรมชาติพอๆ กับที่เพนกวินตัวผู้หาหิน หรือชิมแปนซีล่าเนื้อมาให้ตัวเมียที่มันต้องการผสมพันธุ์ด้วย
การแบ่งปันอาหารระหว่างกัน และกินอาหารร่วมกันก็เป็นพฤติกรรมที่พบได้ในสัตว์หลายชนิด
ในธรรมชาติสัตว์ที่ไม่ใช่ญาติกันจะไม่แบ่งปันอาหารให้แก่กัน การแบ่งปันอาหารระหว่างกันถ้าจะพบได้บ้างก็จะเกิดขึ้นระหว่าง แม่กับลูก พ่อกับลูก ญาติในฝูง
กรณีเดียวที่สัตว์จะแบ่งอาหารให้สัตว์แปลกหน้าคือ เมื่อมันจับคู่เพื่อที่จะผสมพันธุ์กันแล้วเท่านั้น
ถ้าเราพามนุษย์ถ้ำนั่งไทม์แมชชีนมาในโลกปัจจุบัน มนุษย์ถ้ำเพศชายจะดูออกทันทีว่า การชวนน้องก้อยไปกินข้าวของทศ หรือการชวนอีขวัญมาจกข้าวเหนียวร่วมกันของไอ้เรียม (ในหนังแสนแสบ) มีเจตนาอะไรซ่อนอยู่ เพราะไม่ว่าจะเป็นผู้ชายยุคไหน วัฒนธรรมไหน หรือตัวผู้ไหนๆ (ที่อยู่เป็นคู่) ต่างก็ใช้วิธีการเดียวกัน
ภาษาพูดเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ผู้ชายใช้จีบ บทสนทนาระหว่างน้องก้อยและทศแม้ว่าทั้งคู่จะไม่รู้ตัว และคิดว่าสิ่งที่คุยมีแต่เรื่องไร้สาระ แต่การหยอกล้อกันไปมาระหว่างกัน เป็นกระบวนการที่ต่างฝ่ายใช้เพื่อประเมินระดับสติปัญญาของคู่เดทว่าอยู่ในระดับที่ใกล้กันหรือไม่
วิธีการพูด คำที่เลือกใช้ ลักษณะการใช้ภาษา เรื่องราวที่สนทนา มีผลต่อความรู้สึกชอบ หรือไม่ชอบอีกฝ่าย
มุกเสี่ยวๆ ที่ทศปล่อย มุกคำพ้องเสียงที่น้องก้อยใช้ การเล่าเรื่องตลกหักมุม (ให้ฟังดูฉลาดนิดๆ) รวมไปถึงวัฒนธรรรมเกี้ยวพาราสีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น การต่อเพลง ต่อกลอน ล้วนแล้วแต่เป็นการทดสอบไหวพริบระหว่างกัน
ผู้ชายหลายคนสังเกตว่าตัวเองจะคุยสนุกกว่าปกติ ลื่นไหลกว่าปกติ และคิดมุกใหม่ๆ ได้เป็นพิเศษเมื่อคุยกับสาวสวย (หรือสาวน่ารัก)
บทสนทนานอกเหนือไปจากการพูดจาเพื่ออวดความรวย ความเก่ง ความฉลาดของตัวเองแล้ว (โฆษณาแบบเนียนๆ แต่ผู้ชายหลายคนก็มากเกินไปจนน่ารำคาญ) ฝ่ายชายจะแสดงถึงความสนอกสนใจในเรื่องราวของผู้หญิงมากกว่าปกติ
การแสดงออกถึงการเป็นคนมีน้ำใจ ใจดี ใจอ่อน รักเด็ก ชอบช่วยเหลือคน ก็เป็นอีกหนึ่งการโฆษณาคุณสมบัติของการเป็นพ่อผู้ให้ที่ดี
จากวินาทีเป็นนาที จากนาทีเป็นชั่วโมง เวลาช่วยเปลี่ยนจากคนแปลกหน้าให้รู้สึกคุ้นเคยกันมากขึ้น
ความเชื่อใจ และความรู้สึกบางอย่างค่อยๆ ก่อตัวขึ้นช้าๆ ทุกอย่างเป็นไปอย่างง่ายดาย ลื่นไหล ไม่ต้องคิด ไม่ต้องพยายาม แต่ลึกลงไป สมองทำงานอย่างหนัก เพื่อที่จะรับข้อมูล ประมวลผลและตอบสนอง
การอ่านอารมณ์ อ่านสีหน้า ปล่อยมุกเสี่ยว รับมุกตลก ล้วนแล้วแต่เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ที่เรารู้สึกว่าง่ายเป็นธรรมชาติ เหมือนไม่ต้องพยายาม เพราะมันเป็นกลไกดึกดำบรรพ์ที่อยู่ในสมองของบรรพบุรุษมนุษย์มาช้านาน
กลไกนี้ทำงานในระดับใต้จิตสำนึก เราไม่รู้ว่ามันทำงานอย่างไร เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันทำงาน เราบอกไม่ได้ว่าความรู้สึกเกิดขึ้นเมื่อไร เรารู้แค่ว่าความรู้สึกของเราบางอย่างมันเปลี่ยนไป
บทสนทนากุ๊กกิ๊กระหว่างหนุ่มสาวนี้จึงแอบแฝงไปด้วยบทสัมภาษณ์ บททดสอบ เพื่อประเมินความเหมาะสมของกันและกันอยู่เกือบตลอดเวลา การพูดคุยที่ไม่ลื่นไหลเป็นสัญญาณแรกๆ ที่อาจจะบอกว่า ‘เขาอาจจะไม่ใช่คนนั้นสำหรับเรา’
ผู้ชาย และผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะเลือกคู่ที่อยู่ในระดับ ‘ลีก’ ของตัวเอง
แม้ว่าผู้หญิงสวยระดับนางแบบ หรือนางเอก จะดึงดูดความสนใจจากผู้ชายได้มาก แต่ในชีวิตจริงเมื่อต้องเลือกคู่จริงจัง เสน่ห์ของนางเอกต่อชายไทยบ้านๆ อาจสู้เสน่ห์จาก ‘สาวข้างบ้าน’ (หรือ girl next door) ไม่ได้
หล่อขั้นเทพอาจจะเรียกเสียงกรี๊ดได้มาก แต่เมื่อถึงเวลาต้องเลือกคู่ชีวิตจริงๆ หล่อขั้นเทพอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่น่าสนเท่าหล่อแบบพี่ที่ทำงาน
อย่างไรก็ตามหน้าตาก็เป็นแค่หนึ่งปัจจัยที่ใช้ในการจัดลีกเท่านั้น คนที่หน้าตาไม่ดีก็สามารถทดแทนได้ด้วยคุณสมบัติอื่น เช่น สถานะทางสังคมที่ดี สถานะทางการเงิน และสถานะการงาน
แต่ในบางครั้งถ้าเราประเมินคุณค่าของเราน้อยไป (น่าจะพบในผู้หญิงบ่อยกว่า) เช่น ผู้หญิงที่มีความรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง หรือคิดว่าตัวเองไม่มีคุณค่าพอ ก็มักจะเลือกแฟนที่ใครๆ ก็ดูออกว่านิสัยไม่ดี หรือไม่คู่ควรซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ทศและน้องก้อย พอจะอ่านกันออกว่า ต่างฝ่ายต่างรู้สึกพอใจกันมากน้อยแค่ไหน มากกว่า 90% ของการอ่านอารมณ์เหล่านี้เกิดขึ้นผ่านภาษากาย ท่าทางตั้งใจฟังของทศ สีหน้ามีความสุขของน้องก้อย รอยยิ้มเอียงอายของน้อยก้อย การโน้มตัวเข้าใกล้กัน การเล่นหูเล่นตา การเล่นผมตัวเอง ท่าจับคอและเอียงคอผยให้เห็นต้นคอ เหล่านี้คือการส่งข้อมูลระหว่างคู่สนทนา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้มนุษย์ถ้ำในสมองจะนำไปประเมินและตัดสินออกมาเป็นความรู้สึกว่า
‘ฉันว่าฉันชอบเขาแล้วนะ และดูเหมือนว่าเขาก็คงจะชอบฉันเช่นกัน’
หลายชั่วโมงผ่านไป ....
บริกรยืนตบยุงอย่างเบื่อหน่าย และกำลังนึกในใจว่าเมื่อไหร่ชายหญิงคู่นี้จะเรียกคิดเงินแล้วกลับบ้านซะที คุยก็ไม่เห็นคุย เอาแต่นั่งจ้องตากัน
หลังจากนั่งคุยกันมาหลายชั่วโมง ทศและน้องก้อยก็เริ่มคุยกันน้อยลง แต่สื่อสารกันด้วยสายตามากขึ้น ต่างฝ่ายต่างจ้องลึกเข้าไปในตาเหมือนดังว่าจะจ้องลึกเข้าไปให้เห็นถึงก้นบึ้งหัวใจกันและกัน
เอ่อ ... ขอโทษที่ขัดจังหวะครับ แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น การที่ทั้งคู่จ้องตากันนั้น เป็นการสื่อสารทางสายตาที่เป็นสัญชาตญาณแบบหนึ่ง
กลไกที่ทำให้การจ้องตาคนรักรู้สึกดีมันมีอยู่สองกลไกด้วยกัน
กลไกแรก โดยปกติเมื่อเรามองอะไรก็ตามแล้วเราชอบสิ่งนั้น ม่านตาของเราจะขยายใหญ่ขึ้น (ตาจะดูแวววาวเหมือนตัวการ์ตูนญี่ปุ่น)
ที่เป็นเช่นนั้นเชื่อว่าเป็นการขยายม่านตาเพื่อรับแสงให้มากยิ่งขึ้น กลไกเดียวกันนี้จะทำงานเมื่อเรามองคนที่เราชอบ
ในทางตรงกันข้ามเมื่อผู้ชายมองตาผู้หญิงที่ม่านตาขยายใหญ่ สมองผู้ชายจะตีความว่า ‘ผู้หญิงคนนี้มองเราแล้วม่านตาขยาย แสดงว่าเขาชอบเรา เรารู้สึกดีกับเขาจัง’ ทั้งหมดเป็นการทำงานนอกจิตสำนึก
กลไกที่สอง ตาดำที่ดูมีขนาดใหญ่เป็นลักษณะที่เรียกว่า neoteny คำนี้หมายถึงลักษณะต่างๆ ที่เป็นลักษณะของเด็กทารก ได้แก่ ตาดำใหญ่ หัวกลมโต จมูกนิด ปากหน่อย คางสั้น เป็นต้น ซึ่งลักษณะนี้จะกระตุ้นสมองของทั้งผู้ชาย และผู้หญิงให้เกิดภาวะ โอ๋..น่ารักจังเลย หมั่นเขี้ยวจริงๆ หรือภาวะเอ็นดู
กลไกที่รู้สึกเอ็นดู นี้จะทำงานข้ามสปีชีส์ได้ และยังทำงานกับสิ่งไม่มีชีวิตหรือภาพวาดได้ด้วย (ใส่รูป ลูกลิง ลูกหมา หมา neoteny ตุ๊กตา) ตาดำที่ขยายนี้ก็เช่นกัน สามารถกระตุ้นให้ผู้ชาย และผู้หญิงให้รู้สึกเอ็นดูเพศตรงข้ามขึ้นมาได้ (และนี่ก็คือคำอธิบายของ คอนแทนเลสน์ big eye หรือการหยอดตาให้ม่านตาขยายของดาราหลายคนในอดีต)
หลังจากเก็บข้อมูลระดับแรกไปแล้ว การเดทก็ก้าวไปอีกขั้น ทศและน้องก้อยไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น กินข้าวด้วยกัน ไปดูหนังด้วยกัน ทั้งคู่เดินจูงมือกัน คล้องแขนกัน โอบเอวกัน ใส่เสื้อเหมือนกัน
พฤติกรรมเหล่านี้เป็นการแสดงออกไปถึงคนอื่นๆ ในสังคมว่าการจับคู่เริ่มขึ้นแล้ว อย่างมายุ่งกับคู่ของฉันนะ ซึ่งพฤติกรรมหวง แสดงความเป็นเจ้าของนี้พบได้ในสิ่งมีชีวิตหลายชนิด เรียกว่า tie sign ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่บอกให้โลกรู้ว่าจองแล้วนะ ห้ามยุ่ง
นอกไปจากนี้ทศ และน้องก้อยยังมีพฤติกรรมแปลกๆ เกิดขึ้นคือ เมื่ออยู่ด้วยกันสองต่อสองทั้งคู่จะมีพฤติกรรมที่เหมือนเด็กๆ เรียกชื่อเล่นที่คิดขึ้นกันเอง น่ารักๆ พี่ทศ กลายเป็น โต๊ะโตะคุง ที่ชอบให้นู๋ก้อยนั่งตัก คลอเคลียออดอ้อนกันด้วยภาษาเด็ก พูดเสียงสูงๆ (หรือที่เรียกว่าเสียงปัญญาอ่อน) ป้อนอาหารกัน นั่งพิงและโคลงตัวกันไปมา จุ๊บๆ กัน หอมแก้มกัน
พฤติกรรมทั้งหมดนี้ถ้าสังเกตจะดูคล้ายกับพฤติกรรมที่แม่ทำกับลูกน้อย ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ช่วยให้เกิดความผูกพันระหว่างกันมากขึ้น
และเมื่อความสัมพันธ์ทางใจพัฒนาถึงจุดหนึ่ง ความสัมพันธ์ทางกายก็พัฒนาตามมา ....
แต่นั่นเป็นเรื่องของอนาคตครับ แค่นี้ก็ยาวมากแล้ว สำหรับวันวาเลนไทน์นี้ เราคุยแค่นี้กันก่อนครับ
สุขสันต์วันแห่งความรักทุกๆ คนนะครับ
🧠 อยากเข้าใจวิทยาศาสตร์ของความรัก แนะนำอ่านหนังสือ Bestseller “500 ล้านปีของความรัก เล่ม 1-2” และ “เรื่องเล่าจากร่างกาย”
💝 โปรโมชันเดือนแห่งความรัก หนังสือ “500 ล้านปีของความรัก” ลด 10%
500 ล้านปีฯ เล่ม 1 : https://bit.ly/3HkIvVF
500 ล้านปีฯ เล่ม 2 : https://bit.ly/3jbnvsK
Boxset รวมเล่ม 1-2 : https://bit.ly/3DMKQIn
หรือกดสั่งซื้อได้เลยทั้ง 3 ช่องทาง
🧡 Shopee : https://shp.ee/2a6fk9f
💜 Lazada : https://s.lazada.co.th/s.iSkHT
💚 Line My Shop : https://bit.ly/3FBx0bx
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
