13 ก.พ. 2023 เวลา 08:48 • สุขภาพ
วิธีที่ปล่อยวาง เราก็เห็นอยู่ว่า กายที่เราเอาศัยนั่นไม่คงที่ วัตถุสิ่งของในโลก ก็เป็นของอาศัย กายที่นั่นหิวกระหาย ก็มีอารมณ์เกิดขึ้น ต้องไปหากิน หากินเพื่อให้กายนั่นมีกำลังจิตจะได้อาศัยกาย .อาศัยไปเรื่อยจนแก่ ความเจ็บปวดเจ็บป่วย ก็เกิดขึ้นในกายที่อาศัย ต้องให้คนนั่นคนนี้ช่วย ดูแลรักษากาย กายก็ส่วนกาย มีความปกติ
(เมื่อกายมันเจ็บปวดเจ็บป่วย ก็ไปเป็นภาระ ให้ผู้อื่นเค้าเหน็ดเหนื่อย ทำความทุกข์ยากให้ผู้อื่นต้องมาดูแล สังขารหรือเรือนกายที่ไม่เที่ยง) เวลาเจ็บป่วย พอดูแลไหว..เราก็ทนเอาปล่อยวาง ..ดูซิจิตมันจะปล่อยวางของไม่เที่ยงได้หรือไม่ ..เมื่อปล่อยวาง ..เจ็บป่วยก็ต้องทำตนให้เป็นปกติ อย่างอแง..เพราะนั่น จิตมันอ่อนแอ ปล่อวางไม่ได้..แม้ทุกขเวทนาของกายเล็กๆน้อยๆ การเจ็บปวดเจ็บป่วย มีนก็เนื่องมาจากกรรม ก็นำกายมาสร้างให้เกิดเป็นบุญกุศล ปฏิบัติธรรมคลี่คลายทุกข์ ปลดปล่อยกรรมนั้นออกไป แปรสภาพเป็นบุญให้เจ้ากรรมนายเวร
เมื่อเกิดขึ้นมาก็ต้องแก่เฒ่าชรา จิตที่มาอาศัยกายก็ต้องถูกจองจำในเรือนกายนี้แหละไปจนตาย จะยากดีมีจน เป็นเศรษฐี จิตก็ต้องรับทุกสุข อารมณ์ที่ปรุงแต่ง ยึดเอาอารมณ์นึกคิดนั้นเป็นจิต
เมื่อจะปลดปล่อย ..ปล่อยวาง เค้าก็เอากายมานั่งนิ่ง ๆ บังคับกายให้นิ่ง ทำจิตเฉยๆ ไม่นึกคิดอะไร มีอะไรนึกคิดเข้า จิตมันไปยึดเป็นนิสัย ก็ให้ภาวนาพุทโธขึ้น
สมมุติว่านั่งพับเพียบ ก็นั่งตัวตรงๆ ทำกายนิ่ง จิตเฉยๆ นั่งสักสิบนาที ครึ่งชั่วโมง ไปจนถึง ชั่วโมง มีทุกข์เจ็บปวดกาย ก็บังคับกายให้นิ่ง มีอารมณ์นึกคิด ก็ภาวนาพุทโธ สกัดกั้นอารมณ์นึกคิด กายนิ่ง จิตนิ่งๆเฉยๆ ไม่ไปยึดทุกขเวทนาของกาย
เพราะเราจะปล่อยวาง ไม่ไปยึดทุกข์ เราทำเพื่อปลดปล่อยทุกข์ของกาย ทุกข์ของอารมณ์นึกคิด ..เราก็นั่งนิ่งๆเฉยๆ ปล่อยวาง ..ไม่ขยับเขยื้อนกายไปตามอารมณ์อะไร..ปล่อยวางเวทนากาย เวทนาอารมณ์ เพราะมันไม่ใช่ของเรา แล้วจิตเราไปยึดทำไม ยึดความเจ็บปวดกายทำไม เมื่อจิตเราไปยึดทุกข์ จิตมันก็ต้องทุกข์ ไม่มีปัญญาละทุกข์ได้เลย
การที่จะให้จิตเรารู้จักทุกข์ เค้าจึงพยายาม ทำใก้กายนั่นลำบาก ไปนั่งนิ่งๆเฉย ดูไม่น่าลำบาก ..พอกายนั่งนิ่ง เฉยๆ อารมณ์มันก็มาวุ่นวาย ..ไม่ให้นั่ง จะดูลมหายใจ..อารมณ์มันก็ขัดขวาง ..ชวนจิตไปยึด เรื่องนั่นเนื่องนี้ ฟุ้งไปหมด คิดเรื่องนั่นเรื่องนี้ นั่นแหละคือ จิตที่นิ่งไม่ได้ จิตนั่นก็ต้องถูกกระแสบอารมณ์ ดูดจิตนั้นไป ..ไปอยู่กับเรื่องนั่นเรื่องนี้ ทั้งที่ว่า เวลานี้เราตั้งใจ นำกายมานั่งนิ่งๆ จิตมันก็ไหลไปตามอารมณ์ เค้าจึงมีคำพูดว่า ให่นั่งจนตูดเน่า ก็ปลดปล่อยวางอารมณ์ วางกายวางให้นิ่งไม่ได้เลย
บางคนก็บอกว่า ปล่อยวางๆ แต่เวลาอารมณ์มันเกิด ..โมโห ไม่ชอบใจ ไม่พอใจ .
มันก็ก็เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก..เป็นเพราะอะไร ..กันน่ะ เวลาปกคิก็พูดว่าปล่อยวางได้ แต่เวลามีเหตุเข้ามาให้ไม่พอใจ ไม่ชอบใจ ใจเป็นปกติ ปล่อยวางได้จริงหรือ. หากปล่อยวางได้ จิตนั่นก็เป็นปกติ..
นั่นก็คือ การปล่อยวาง..อารมณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องที่ต้องฝึกหัด กระทำให้รู้จักคำว่าจิต คำว่าอารมณ์ จิตก็จะได้เข้มแข็ง เท่าทันอารมณ์ ปล่อยวางอารมณ์ ด้วยการอยู่นิ่งเฉยๆ ให้อารมณ์นั้นผ่านไป นั่นจะเป็นเรื่องของจิตของผู้นั้นต้องทำเอง รู้จักตัวตนของตนเองว่ากระได้หรือไม่ได้ การกระทำของกายวาจาใจจะบ่งบอกเอง ว่าทำได้หรือไม่ได้
โฆษณา