27 ก.พ. 2023 เวลา 02:09

ภาพลวงตา 🆚 ภาพหลอน

🔸 ถ้าเราเห็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง อย่าง ม้ายูนิคอน วาฬบินได้ หรือเกาะลอยฟ้า ในโลกแห่งความจริง น่าจะทำให้แฟนภาพยนตร์และการ์ตูนแนวแฟนตาซี ตื่นตาตื่นใจนะครับ แต่สิ่งเหล่านี้มันไม่มีอยู่จริงนี่สิ ถ้าเราเห็นจริง ๆ หล่ะก็เราคงเห็นภาพลวงตาหรือเห็นภาพหลอนแน่ ๆ
🔸 ที่น่าสนใจคือการเห็นภาพลวงตา และอาการประสาทหลอนทางการมองเห็นหรือภาพหลอนนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้คนเรามองเห็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงได้ทั้งคู่ และยังมีหลายคนที่สับสนกับความหมายของการมองเห็นที่ผิดเพี้ยนเหล่านี้ บทความนี้จะมาทำความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างภาพลวงตาและการประสาทหลอนทางการมองเห็นกันครับ
++++++++ภาพลวงตา++++++++
🔸 ภาพลวงตา (Optical Illusion) คือภาพที่เกิดขึ้นจากการมองเห็นและรับรู้ที่ผิดพลาดจากความเป็นจริง ทำให้คนเราเห็นรูปทรง ขนาด และสี ผิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง เช่นการมองเห็นม้าธรรมดากลายเป็นม้ายูนิคอนเนื่องจากแสงสะท้อนจากสิ่งรอบข้างทำให้เหมือนม้าตัวนั้นมีเขา
สาเหตุที่ทำให้เกิดภาพลวงตา
1. การรบกวนจากสิ่งเร้าที่อยู่รอบข้างสิ่งที่เราต้องการรับรู้
🔸 ในบางครั้งถ้าวัตถุที่อยู่รอบข้างนั้นมีขนาดใหญ่ก็อาจทำให้เรารับรู้ว่าวัตถุอีกชิ้นที่อยู่ข้างๆดูเล็กกว่าความเป็นจริง หรือในทางตรงกันข้ามกันถ้าวัตถุที่อยู่ข้าง ๆ และมีขนาดเล็กเราก็อาจจะรับรู้ว่าวัตถุอีกชิ้นมีขนาดใหญ่กว่าความเป็นจริงได้ เช่นภาพลวงตาแบบขนาดสัมพัทธ์ (Relative size) หรือการมีเส้นตรงที่มีมุมองศาเหมาะสมมากระทำกับเส้นตรงที่เราต้องการรับรู้ ทำให้เรารู้สึกว่าเส้นตรงที่เราต้องการรับรู้นั้นมีความโค้งงอ หรือมีความยาวที่ผิดเพี้ยนไป
เช่นภาพลวงตาแบบพอนโซ (Ponzo Illusion) แบบมุลเลอร์ไลเออร์ (Muller Lyer Illusion)
2. การรับรู้ที่ไม่สมบูรณ์
🔸 เมื่อเรามีการรับรู้สิ่งเร้าบางสิ่งที่ไม่สมบูรณ์ ขาดรายละเอียด สมองคนเราก็จะมีการเติมเต็มส่วนประกอบที่ขาดขึ้นจากประสบการณ์ที่สั่งสมอยู่ในจิตใต้สำนึก (Law of Closure) เช่น เมื่อเราอยู่ใต้ต้นไม้ตอนกลางคืนแล้วทันใดนั้นมีเชือกเส้นหนึ่งหล่นลงมาจากต้นไม้ ด้วยความมืดและความเร็วที่เชือกหล่นลงมาทำให้เรารับรู้ไม่สมบูรณ์ ถ้าหากสมองเรารับรู้ได้ลักษณะรูปร่างยาว ๆ ของเชือก สมองของเราก็อาจเติมเต็มจากประสบการณ์และตีความว่านั่นคืองูได้ครับ
3. การหักเหแสงและข้อจำกัดในการรับรู้ของมนุษย์
🔸 สมองของมนุษย์มีข้อจำกัดในการรับรู้อีกมากจนบางครั้งทำให้มีการตีความแสงสะท้อนจากวัตถุที่ผิดพลาดไป เช่นห้องที่มีลักษณะผิดเพี้ยนแบบห้องเอมส์ (Ames room) ที่สร้างขึ้นเพื่อหลอกตามนุษย์โดยเฉพาะ หรือการวาดภาพให้มีลักษณะพิเศษในพิพิธภัณฑ์ 3 มิติที่มีหลายแห่งในประเทศไทย ที่เมื่อเราไปยืนในตำแหน่งที่เหมาะสมแล้วถ่ายรูปออกมาก็เหมือนเราหลุดเข้าไปอยู่ในรูปภาพนั้น
และสิ่งที่คนใช้รถใช้ถนนในประเทศที่โคตรร้อนอย่างประเทศไทยมักเคยพบเห็นคือปรากฏการณ์มิราจ (Mirage Illusion) ที่ไอความร้อนทำให้แสงหักเหจนเห็นเหมือนมีแอ่งน้ำบนพื้นถนนแห้ง ๆ
ปรากฏการณ์มิราจ (Mirage Illusion)
++++++++ภาพหลอน++++++++
🔸 ภาพหลอน (Visual Hallucination) คือการเห็นวัตถุหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ที่วัตถุหรือเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีอยู่จริง และไม่มีสิ่งเร้าที่ทำให้เกิดการรับรู้ที่ผิดพลาด จนนำมาสู่การเห็นวัตถุหรือเหตุการณ์ดังกล่าวได้ เช่นการมองเห็นม้ายูนิคอนในห้องทั้ง ๆ ที่ในห้องนั้นว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดอยู่เลย
สาเหตุของการเห็นภาพหลอน
1. อาการป่วยทางจิต
🔸 โรคทางจิตเวชหลายโรคที่ทำให้ผู้ป่วยเห็นภาพหลอนได้ เนื่องจากผู้ป่วยมีความผิดปกติของระดับของสารสื่อประสาทในสมอง หรือมีความผิดปกติที่โครงสร้างสมอง เช่น โรคจิตเภท (Schizophrenia) และผู้ป่วยที่มีอาการเพ้อ (Delirium)
2. อาการป่วยทางกาย
🔸 ผู้ที่มีอาการของโรคทางสมองและระบบประสาทหลายๆโรคก็ทำให้เห็นภาพหลอนได้ เช่น โรคไมเกรน (Migraines) อาการนำก่อนเป็นไมเกรนทำให้ผู้ป่วยมองเห็นแสงระยิบระยับที่ไม่มีอยู่จริงได้ ผู้ป่วยบางรายจะมีการทำงานของสมองที่ผิดปกติขณะเป็นไมเกรนก็ทำให้เห็นภาพหลอนได้ ผู้ป่วยที่มีเนื้องอกในสมอง (Brain Tumor) และผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม (Dementia) ประเภทต่าง ๆ เช่น โรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน เมื่อสมองบางส่วนเสื่อมหรือเสียหายก็ทำให้เห็นภาพหลอนได้เช่นกัน
3. การใช้ยาและสารเสพติด
🔸 การดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก และการใช้สารเสพติดที่ผิดกฎหมายหลายชนิด เช่น แอมเฟตามีน โคเคน แอลเอสดี สามารถทำให้เห็นภาพหลอนได้ นอกจากนี้หากใช้สารเสพติดพวกนี้ติดต่อกันเป็นเวลานานก็สามารถทำให้สมองเสียหายหรือเป็นโรคจิตได้อีกด้วย
4. ภาวะสมองตื่นตัวไม่เต็มที่
🔸 ขณะที่คนเรากำลังจะเคลิ้มหลับ และตอนที่เพิ่งตื่นนอนใหม่ ๆ ยังตื่นนอนยังไม่เต็ม (Hypnagogic hallucination และ Hypnopompic hallucination) ก็สามารถทำให้คนทั่วไปที่สุขภาพกายและสุขภาพจิตแข็งแรงดีมีอาการประสาทหลอนได้ และมักเกิดร่วมกับอาการผีอำอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้การ อดนอนเป็นเวลานานหลายวันก็ทำให้เห็นภาพหลอนได้ด้วยครับ
++++++++ความแตกต่างระหว่างภาพลวงตากับภาพหลอน++++++++
🔸 การมองเห็นภาพลวงตาจำเป็นต้องมีสิ่งเร้าที่เรามองเห็น แต่มีปัจจัยบางอย่างมาทำให้เกิดการรับรู้ที่ไม่สมบูรณ์ จนเกิดการตีความสิ่งที่มองผิดพลาดไป แต่การเห็นภาพหลอนนั้นไม่จำเป็นต้องมีสิ่งเร้าใด ๆ มากระตุ้น การมองพื้นที่ว่างเปล่าก็สามารถทำให้ผู้ที่เห็นภาพหลอนเห็นสิ่งต่าง ๆ เป็นรูปเป็นร่างได้
🔸 การมองเห็นภาพหลอนไม่เพียงมองเห็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริงเท่านั้น แต่ยังสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ เป็นเรื่องราวได้ราวกับดูภาพยนตร์ และผู้ที่มีอาการก็สามารถมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับเรื่องราวที่มองเห็น นอกจากนี้ผู้ที่เห็นภาพหลอนมักมีอาการประสาทหลอนด้านอื่นร่วมด้วยเสมอ ทางด้านการได้ยิน การได้กลิ่น การสัมผัส และการรับรส ซึ่งลักษณะเหล่านี้เราจะไม่พบในการเห็นภาพลวงตา
🔸 ผู้ที่เห็นภาพหลอนโดยส่วนใหญ่แล้วมักเป็นผู้ที่ป่วยด้วยโรคทางจิตหรือโรคทางกายลักษณะใดลักษณะหนึ่ง แต่การเห็นภาพลวงตานั้นใคร ๆ ก็สามารถเห็นได้ และยังสามารถนำไปใช้เพื่อความบันเทิงได้อีกด้วย เช่นพิพิธภัณฑ์ 3 มิติ ที่เราสามารถถ่ายรูปสวย ๆ ได้อย่างกับเราหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแฟนตาซีจริงๆ
แต่ถ้าวันนึงคุณผู้อ่านเจอผี ไม่ว่ามันจะเป็นผีจริง ๆ เป็นภาพลวงตา หรือเป็นภาพหลอน แมวส้มขอแนะนำว่่า อย่าไปสนใจเลยว่าเป็นภาพลวงตาหรือเป็นภาพหลอนรึเปล่า วิ่งก่อนเถอะครับ วิ่งงงงงง!!
โฆษณา