10 มี.ค. 2023 เวลา 07:07 • ไลฟ์สไตล์

7 เทรนด์ฮิตใหม่ นทท.จีนนิยมทำเมื่อมาเที่ยวไทย

หลังอัดอั้นเพราะโควิดมานานหลายปี ตั้งแต่ต้นปีนี้เราจะเห็นว่า #นักท่องเที่ยวจีน เริ่มหลั่งไหลกลับมาเที่ยวไทยอย่างไม่ขาดสาย บ่งบอกถึงความนิยมชมชอบสยามเมืองยิ้มที่ยังเหนียวแน่นหนึบของอาหมวยอาตี๋แดนมังกร…โดยชาวจีนที่เข้ามาไทยช่วงนี้ส่วนมากเป็นหนุ่มสาววัยทำงานหรือครอบครัวคนจีนรุ่นใหม่ ซึ่งมักมาเที่ยวด้วยตนเอง มีกำลังจับจ่ายสูง และที่จะเล่าสู่กันฟังในวันนี้ก็คือ พวกเขาหลายคนมาเที่ยวไทยโดยเน้นการ ‘ทำคอนเทนต์‘
คอนเทนต์ที่ว่านี้คือองค์ประกอบใดๆ ก็ตามที่มีความเป็นไทยสูง ทั้งวัดวาอาราม อาหารการกิน ไปจนถึงชุดนักเรียนไทยที่เป็นกระแสฮอตอยู่ในตอนนี้ มาค่ะ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาอัปเดต 7 เทรนด์ใหม่ที่นทท.จีนมักทำเมื่อมาเที่ยวไทยกัน
1.ย้อนวัยไปกับชุดนักเรียนไทยสุดฟรุ้งฟริ้ง
เข้าใจว่าความน่ารักและสวยงามสมวัยของ #ชุดนักเรียน ไทยในซีรีส์ต่างๆ คงไปโดนใจชาวจีนเข้าอย่างจัง ตั้งแต่หนังดังในอดีตอย่าง “สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก” เทรนด์ใส่ชุดนักเรียนถ่ายรูปตามที่ต่างๆ ในไทย จึงมีมาสักพักแล้วและกำลังมาแรงมากในหมู่นักท่องเที่ยวจีนตอนนี้ ไม่เว้นแม้แต่ดาราดังอย่าง #จวีจิงอี้ แถมยังเพิ่มกิมมิกเก๋ๆ ด้วยการปักชื่อของตัวเองเป็นภาษาไทยลงไปบนเสื้อ โอ้โหคอนเทนต์คอนใจ ซอฟต์พาวเวอร์ไม่ไหว ไวรัลสุดๆ
2.แมตช์ชุดไทยกับวิววัดอรุณฯ
ธุรกิจเช่าชุดไทยถ่ายรูปยังคงมาแรงไม่แพ้กัน น่าจะฟีลเดียวกับที่คนไทยฮิตใส่ฮันบกถ่ายในโซล นอกจากวัดพระแก้วที่เป็นจุดหมายยอดนิยมตลอดกาลแล้ว วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร หรือ วัดแจ้ง ที่โดดเด่นด้วยพระปรางค์ทำจากปูนประดับกระจกเคลือบสีสันสดใส ก็ยังปรากฎอยู่ในรีวิวของบล็อกเกอร์ชาวจีนจำนวนมาก ใครที่เคยไปถ่ายรูปที่นี่ย่อมทราบกันดีว่าวิวสวยเป๊ะดูดีมีสไตล์อวดเพื่อนได้แน่นอนว่าไปเที่ยวไทยมา
3.เช่าเรือ แช๊ะภาพสวยคู่กับหลวงพ่อสด #วัดปากน้ำ
ต่อให้ต้องเสียตังค์เจอแดดเปรี้ยงๆ ยังไงคนจีนก็จะไม่พลาดทำคอนเทนต์นี้เด็ดขาด นั่นก็คือ ถ่ายรูปคู่กับพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ที่รู้จักกันในชื่อพระพุทธธรรมกายเทพมงคล หรือหลวงพ่อสด ซึ่งกำลังฮิตมากติดเทรนด์ไม่แพ้กัน โดยเหล่าก๊วนชาวจีนจะพากันเช่าเรือ ให้อาหารปลา และถ่ายรูปสวยๆ บริเวณคลองด้านหน้าพระพุทธรูปสีทององค์ใหญ่มหึมา ซึ่งก็จะมีช่างภาพเป็นคนขับเรือนั่นเอง ชิคมากไม่อยากจะบอก! ส่วนค่าเช่าเรือก็ราคาเที่ยวละ 600 บาทเท่านั้น
4.เปย์หนุ่มหล่อที่ร้านอาหารสุดแซ่บ
(ที่มาภาพ : https://rb.gy/zav6gp )
นาทีนี้ไม่มีร้านอาหารไหนดังในหมู่สาวจีนเท่าร้านอาหารงานขาวจั๊วะ เอ้ย งานดี ร้านนี้อีกแล้ว เพราะหลังจากมีคลิปสาวแจกติ๊บให้บรรดาหนุ่มไทยนุ่งน้อยห่มน้อยถูกแชร์ออกไปบนออนไลน์ ก็ทำเอาทั้งชาวเน็ตไทยและจีนอิจฉาตาร้อนกันเป็นแถบๆ ชื่อเสียงร้านย่านรามอินทราแห่งนี้โด่งดังจนแม่บุญทุ่มชาวจีนต่างพากันบุกมาที่ร้าน เพื่อสัมผัสประสบการณ์เปย์หนุ่มแบบจัดหนัก งานนี้ชาวเน็ตจีนถึงกับโอดครวญว่า
“พวกหล่อนที่ไปก่อนน่ะ อย่าเปย์ให้มันหนักมากสิ รักษาราคาตลาดด้วย เดี๋ยวพอฉันไปบ้างราคาจะโหดจนจ่ายไม่ไหว คนจีนด้วยกันต้องช่วยกันนะ”
1
5.ถ่ายรูปกับยีราฟที่สวนสัตว์กาญจนบุรี รูปสวยราคาดี
(ที่มาภาพ : https://rb.gy/xgo5ot )
แม้จะต้องนั่งรถออกไปไกลจากกรุงเทพ 2 ชม. นทท.ชาวจีนก็ต้องเดินทางไปสวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค ที่กาญจนบุรีให้ได้ เพราะค่าเข้าถือว่าไม่แพงหากเทียบกับประสบการณ์สัมผัสความน่ารักของน้องยีราฟและน้องม้าลายอย่างใกล้ชิด จะให้อาหารหรือถ่ายรูปเซลฟี่คู่ก็ได้ และบางครั้งน้องๆ อาจโผล่หัวเข้ามาเซอร์ไพรส์ถึงในรถเลย ค่าเข้าสำหรับชาวต่างชาติอยู่ที่ 550 บาท แต่ถ้าอยากได้รูปถ่ายกับน้องยีราฟแบบแนบเนื้อก็เพิ่มแค่คนละ 1,000 บาทเท่านั้น คอนเทนต์ดีๆ ในราคาที่จับต้องได้แบบนี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
6.ใช้แอปเรียกรถแทนโบกแท็กซี่
ใครว่าคนจีนมาไทยจะโบกแท็กซี่เป็นอย่างเดียว เดี๋ยวนี้เขาใช้แอป grab หรือแอป bolt กันแล้วนะ เพราะเชื่อว่าบริการดีกว่าแท็กซีทั่วไป ราคาก็ไม่ต่างกันมาก ไม่ต้องกังวลเรื่องการสื่อสาร ปลอดภัยและส่งถึงที่ แถมยังสะดวกสามารถเรียกรถผ่านแอป Alipay ได้เลย จึงถูกอกถูกใจบรรดานักท่องเที่ยวชาวจีนนักแล จึงไม่แปลกที่คนจีนจะนิยมใช้กันมากขึ้น
7.ระวังตัวเรื่องกัญชา พลาดมาอาจติดคุกหัวโต
นอกเหนือจากการแนะนำให้ไปทำอะไรที่ไทยบ้างแล้ว ช่วงนี้คนจีนยังแนะนำสิ่งที่ “อย่าทำในไทย” ด้วย หลายคนอาจเดาได้แล้ว สิ่งนั้นก็คือ อย่าได้ไปลองกินอาหารทีมีส่วนผสมของกัญชาเป็นอันขาด เนื่องจาก #กัญชา เป็นสิ่งผิดกฎหมายในจีน คนจีนจึงไม่ค่อยมีความรู้เรื่องกัญชามากนัก บางคนไม่เคยเห็นว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ชาวเน็ตจีนจึงเตือนกันว่าของอะไรก็ตามที่เป็นรูปใบไม้สีเขียวต้องระวังไว้ก่อน เลี่ยงกินหรือซื้อเป็นของฝากได้ให้เลี่ยง เพราะหากต้องติดคุกเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์คงไม่คุ้ม
จากที่แอดมินค้นมา ตอนกลับจีนหากโดนตรวจและพบว่ามีสารTHC ในกระแสเลือด แต่ไม่ได้มีพฤติการณ์อื่นที่ผิดกฎหมาย จะต้องถูกควบคุมตัวนาน 15 วัน ก่อนจะพิจารณาว่าต้องส่งไปทำการบำบัดเพื่อเลิกยาหรือไม่ หรือกรณีที่พบว่ามีการนำสินค้าจากกัญชาเข้าประเทศก็จะถูกลงโทษตามกฎหมายอาญา
1
รับชมบทความเต็มได้ที่ : https://www.jeenthainews.com/china-news/69536_20230309
โฆษณา