เงินเฟ้อยุโรปชะลอตัว แต่ยังไม่หยุดขึ้นดอกเบี้ย
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 อัตราเงินเฟ้อประจำปีในเขตยูโรคาดว่าจะอยู่ที่ 8.5% ลดลงจาก 8.6% ในเดือนมกราคม ตามการประมาณการอย่างรวดเร็วจาก Eurostat ซึ่งเป็นหน่วยงานสถิติของสหภาพยุโรป
อาหาร แอลกอฮอล์ และยาสูบคาดว่าจะมีอัตราเงินเฟ้อในระดับสูงสุดท่ามกลางปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อภูมิภาคยุโรป
อัตราเงินเฟ้อรายปีในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่15.0% เพิ่มขึ้นจาก 14.1% ในเดือนมกราคม
ตามด้วยอัตราเงินเฟ้อบริการ อยู่ที่ 4.8% เพิ่มขึ้นจาก 4.4% ในเดือนมกราคม
อัตราเงินเฟ้อในกลุ่มผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ใช้พลังงานอยู่ที่ 6.8% เพิ่มขึ้นจาก 6.7% และราคาพลังงานอยู่ที่ 13.7% เพิ่มขึ้นจาก 18.9%
The Wall Street Journal ทำการสำรวจนักวิเคราะห์ที่คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือนกุมภาพันธ์จะลดลงเหลือที่ 8.2% ในขณะที่ราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นในแต่ละเดือนมากกว่าราคาพลังงานที่ลดลงในแต่ละเดือน
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้นเป็น 5.6% ในเดือนกุมภาพันธ์จากที่คาดการณ์ไว้ที่ 5.3% ในเดือนมกราคม มากกว่าจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ลดลงเล็กน้อย
ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ธนาคารกลางยุโรปที่ยังคงดำเนินนโยบายแบบเข้มงวดต่อไป
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ตลาดกำลังพิจารณาโอกาสนี้หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ที่ร้อนแรงเกินคาดจากฝรั่งเศส เยอรมนี และสเปน
จากข้อมูลของ Reuters เขียนไว้ว่า Christine Lagarde ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าการลดอัตราเงินเฟ้อยังคงต้องใช้เวลา และเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% เป็นสิ่งที่ธนาคารตั้งเป้าไว้
และมีการคาดหวังว่า ธนาคารกลางยุโรปจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50-basis point
นอกจากนี้ Christine Lagarde ยังย้ำอีกดำเนินการนี้ยังคงอยู่เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมาย
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์ของ Goldman Sachs ระบุว่าพวกเขาได้เพิ่มการคาดการณ์สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก ECB ที่อีก 50-basis point ในเดือนพฤษภาคม
หลังจากพิจารณาว่านโยบายการเงินที่เข้มงวดจะคงอยู่ต่อไป
อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรยุโรปได้เพิ่มระดับสูงสุดในรอบหลายปี
ขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจในยูโรโซนอยู่ที่ 0.0% ในไตรมาสที่ 4 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 และ 1.8% จากปีก่อนหน้า ซึ่งตรงกันข้ามกับประมาณการว่าจะโต 0.1% และ 1.9%
ตัวเลขยืนยันว่าเศรษฐกิจยุโรปสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยทางเทคนิคได้อย่างหวุดหวิด
อัตราการเติบโตของการจ้างงานในยูโรโซนก็ลดลงเช่นกัน
จากก่อนหน้านี้ที่ 0.4% ลดลงเป็น 0.3% QoQ
ปัจจุบันยูโรโซนจึงมีการจ้างงาน 165 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3.6 ล้านคนจากสิ้นปี 2019
ซึ่งก่อนการแพร่ระบาดของโควิด 19
ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสำหรับ ECB ในการต่อสู้เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อกลับเป็น 2%
ส่งสัญญาณโดยการเติบโตของการจ้างงานที่แข็งแกร่ง
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดแรงงานตึงตัวเพียงใด
อัตราการว่างงานคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในช่วงเศรษฐกิจถดถอย
ซึ่งคาดว่าจะทำให้ตลาดแรงงานลดความร้อนแรงลง และควบคุมการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างได้
แต่ธุรกิจซึ่งมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการจ้างคนใหม่หลังจากเกิดโรคระบาด
ดูเหมือนจะยังคงรักษาพนักงานเอาไว้แม้จะธุรกิจชะลอตัวก็ตาม
ผู้เขียน : ณิศรา วาดี Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:
- ●
- ●
- ●
เครดิตภาพ : Informal Meeting of EU Finance Ministers
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
