13 มี.ค. 2023 เวลา 09:25 • สุขภาพ

รู้ป่ะว่า...ผมเป็นสมาธิสั้นในวัยผู้ใหญ่ คุณก็อาจจะใช่

ในทุกๆวัน บ่อยครั้งที่ผมมักจะรู้สึกอึดอัด ครั่นเนื้อครั่นตัว อยู่ไม่นิ่ง จนต้องหาทางออกด้วยการกระดิกเท้าตลอดเวลา...หากอยู่นิ่งๆแล้วความรู้สึกมันเหมือนเส้นเลือดกำลังอุดตันแถวๆขา
ผมไม่สามารถทำอะไรซ้ำๆ นานๆ ได้ เช่น การสับหมู ปอกกระเทียม ปั่นจักรยานอยู่กับที่
ผมจับใจความขณะกำลังนั่งประชุมไม่เคยได้ เดินออกมาจากห้องประชุมด้วยความไม่เข้าใจ เหมือนคนที่หัวตื้อๆ
ผมมักจะส่ายหน้าทุกครั้งพร้อมคำพูดที่ว่า “ไม่มีครับ” เมื่อหัวหน้าถามว่ามีอะไรจะเสนอไหมหลังการประชุม จะให้เสนออะไรหล่ะก็ผมไม่ได้ฟังอะไรมาตั้งแต่ต้น ใจผมมันคิดถึงแต่เรื่องอื่นๆ
ผมมักจะลืมว่าเมื่อวานผมได้ทำอะไรไปแล้วบ้างและวันนี้จะต้องทำอะไร ใช่...มันไม่มีแผนการใดๆ
ผมไม่ชอบทำงานที่ต้องใช้ความคิด การวิเคราะห์หรืองานวางแผน
ผมรู้สึกว่าความคิดของผมมันมักจะไม่เหมือนคนปกติ เปรียบได้กับหากขับรถจากกรุงเทพไประยอง ผมน่าจะขับไปทางอยุธยา สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทราและเข้าระยอง ใช่ครับ…ถึงเหมือนกันแต่อ้อมเสียเหลือเกิน
ผมไม่ชอบให้คนอื่นต่อว่าหรือตำหนิผลงานของผม แม้ว่ามันจะไม่เรียบร้อยจริงๆนั่นแหละ
ผมมักจะทะเลาะกับคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนรัก ที่พูดอะไรไม่เคยเข้าหูผมเลยสักครั้งเดียว
ผมรู้สึกว่าสั่งข้าวเที่ยงไปนานมากแล้ว แต่พนักงานยังไม่มาเสิร์ฟสักที ทั้งที่ผมเพิ่งฟังเพลงจบไป 1 เพลง
ผมชอบทำในสิ่งที่ผมอยากทำเท่านั้น สิ่งไหนที่ผมไม่ชอบก็จะไม่สนใจ ไม่สนด้วยว่ามันจะเกิดผลกระทบอะไรกับทีมตามมา
ผมมักจะชอบฟังเพลงไปด้วย ทำงานไปด้วย สลับกับเปิดดู social media ไปด้วย ทำงานนี้ยังไม่เสร็จ สลับไปทำอีกงานนึง สุดท้ายไม่เสร็จสักงาน
ผมมักจะพูดเร็วไฟแล็บ ลิ้นรัวจนพันกัน บางทีก็รวบคำ จนคนฟังต่างพากันงงแล้วหัวเราะครืน รู้ไหมผมรู้สึกโมโหมากและไม่อยากคุยกับคนนั้นอีกต่อไป
ผมมักจะชอบอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว เพราะรู้สึกว่าผมควบคุมมันได้ตามที่ใจต้องการ ไม่ต้องมีใครมากวนใจ
ผมรู้สึกเบื่อที่ทำงานที่เดิมนี้แล้ว อยากไปที่ใหม่ที่เร้าใจกว่า งานที่สนุกกว่านี้
ผมเป็นเช่นนี้มาสักระยะหนึ่งแล้วโดยที่ไม่รู้สึกตัว ที่รู้สึกได้มีเพียง คำถามในหัว “ทำไมผมถึงเปลี่ยนงานบ่อยจัง”
ผมเปลี่ยนงานทุกๆ 6 เดือน คงเป็นเพราะผมยังไม่เจองานที่ใช่ต่างหาก ไม่ใช่เพราะตัวผมหรอก...
ลองค้นหาในอินเตอร์เน็ตดูตามอาการที่ผมเป็น ผลลัพธ์ที่ได้ส่วนมากก็จะมีแต่ผู้หวังดี ที่ปลอบใจกันเอง เช่น
  • 1.
    เพราะวัฒนธรรมองค์กรมันห่วยไง
  • 2.
    เพราะงานที่นั่นไม่เหมาะกับคุณ ยังมีที่อื่นที่รอคุณอยู่
  • 3.
    ไม่ใช่เพราะคุณหรอก อย่าด้อยค่าตัวเอง
  • 4.
    ตามหาหัวใจสิ แล้วคุณจะมีความสุข
  • 5.
    เพราะสังคมมันวุ่นวาย มีหลายเรื่องให้คิด คุณไม่ผิดหรอก
และอื่นๆอีกมากมาย
แต่นั่นดูเหมือนจะไม่ใช่คำตอบที่ผมต้องการ เพราะมันดูกว้างเกินไป
1
แต่มีอยู่ผลการค้นหาหนึ่งที่ผมเห็น คือคำว่า
สมาธิสั้น
มันสะดุดตาสะดุดความคิดผมเอามากๆ ภาพในหัวที่ผมคิดตอนนั้นคือ เด็กชายที่อยู่ไม่นิ่งคนหนึ่ง ดื้อ ไม่ฟังใคร
คำว่า “สมาธิสั้น” ในความคิดของผมมันเป็นโรคที่เกิดขึ้นกับเด็กสิ ไม่ใช่ผู้ใหญ่อย่างผม
ผ่านไปหลายวันคำว่า “สมาธิสั้น” ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวผม ผมร้องไห้ฮือออกมาอย่างหนัก ระหว่างทางที่ขับรถไปทำงาน
1
“ไม่ใช่สิ ไม่เอาสิ เราไม่ได้เป็น สมาธิสั้น”
ผมพยายามต่อต้านความคิดในหัว ไม่ยอมรับในสิ่งที่ผมได้อ่านมา แม้ว่าผลจากแบบทดสอบจะออกมาว่าผมเป็น “สมาธิสั้น”
ผมจึงตัดสินใจไปพบแพทย์จิตเวช เพื่อจะได้ความชัดเจนกันไปเลย ว่าผมไม่ได้เป็นตามที่อินเตอร์เน็ตบอกมา
“ครับ” เสียงตอบรับของผมมันช่างแผ่วเบา น้ำลายมันช่างหนืดเสียจนกลืนไม่ลง สายตาของผมเหม่อลอย หลังจากที่คุณหมอบอกว่า “คุณน่าจะเป็นสมาธิสั้นในวัยผู้ใหญ่ครับ”
คืนนั้นผมนอนแทบไม่หลับ มี 2 อารมณ์ปะปนกัน คือ
  • 1.
    ผมรับไม่ได้ หากใครรู้เข้า ผมคงอับอายมากๆ
  • 2.
    ดีแล้วที่รู้จะได้รักษาและชีวิตจะได้ดีขึ้น
ผมนั่งมองเม็ดยาบนฝ่ามือ ก่อนเอาเข้าปากแล้วตามด้วยน้ำหลังอาหารเช้าวันถัดมา “ยาจะเริ่มแสดงผลอีก 2 สัปดาห์ หลังจากที่คุณกินทุกวันนะครับ” เสียงคุณหมอยังฝังอยู่ในหัว เอาจริงๆผมก็ยังไม่เชื่อมั่น ว่ายาเม็ดแค่นี้มันจะช่วยให้ผมดีขึ้นได้อย่างไร แต่ก็ต้องยอมกินไปตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
2
...กี่สัปดาห์ผ่านไป ผมก็ไม่แน่ใจ ยังคงกินยาอย่างมีวินัยสม่ำเสมอไม่เคยขาด
และแล้ววันหนึ่ง!!! ผมก็สัมผัสได้ว่า มีความรู้สึกหลายๆ อย่างเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และมีความมีความรู้สึกบางอย่างที่เคยหล่นหายไปนานมากแล้วได้กลับคืนมา
สายตาของผมเริ่มพล่ามัว เพราะมีน้ำใสๆ มันปริ่มอยู่ที่ขอบตาด้วยความสุขที่เกิดขึ้น แต่ก็ต้องข่มไม่ให้มันไหลออกมามากกว่านี้เดี๋ยวคนจะสงสัยเอาได้ เพราะตอนนี้ผมนั่งอยู่กลางห้องประชุม…
ครั้งหน้าผมจะมาบอกเล่าถึงอารมณ์ ความรู้สึกและความคิด ที่เกิดขึ้น เหมือนได้ชีวิตใหม่เลยหละครับ
ปล.หากใครที่รู้สึกว่ามีอาการเป็นเหมือนที่ผมเขียน ขอให้อ่านจนจบทุกตอนก่อนนะครับ แล้วค่อยตัดสินใจไปพบจิตแพทย์
1
โฆษณา