Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
KBank Live
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
3 เม.ย. 2023 เวลา 05:40 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เงินเท่านั้นที่ Knock Everything ใช้เงินคืนภาษีอย่างไรให้ฟินฟิน
เงินเท่านั้นที่ Knock everything ธนบัตรเท่านั้นที่ทำให้เราได้โบยบิน💸 ได้เงินคืนภาษีแล้วมันฟินฟิน…แต่ว่าจะเอาเงินไปทำอะไรดีล่ะ ?
📌สิ่งหนึ่งที่หลายคนต้องทำ (และห้ามลืม) ย่อมหนีไม่พ้นเรื่องการยื่นภาษี
ในปีนี้มีการเปิดให้ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาถึงวันที่ 10 เมษายน 2566 และสำหรับใครที่ได้ทำเรื่องยื่นภาษีไปเรียบร้อยแล้ว เวลานี้คงทยอยได้รับเงินคืนภาษีกันบ้างแล้ว💰
“แล้วจะเอาเงินคืนภาษีที่ได้ไปทำอะไรดี” จะช็อปปิง จะเก็บออม หรือจะลงทุน ? แล้วอย่างไหนกันล่ะที่จะทำให้เราฟินฟินฟินมากที่สุด ?
KAsset มีคำแนะนำ และวิธีดี ๆ ในการ Knock เงินคืนภาษีแบบฟินฟิน เพื่อให้การเงินของเรามีสุขภาพที่ดีขึ้นทุกปี
ก่อนอื่นสิ่งที่เราควรรู้คือ “เงินคืนภาษี” ➡ เกิดจากการที่เราจ่ายภาษีเกินจากฐานรายได้ ดังนั้น จึงสะท้อนได้ว่า เรามีการวางแผนการเงินที่เหมาะสมแล้วระดับหนึ่ง และเงินคืนภาษีก็มีค่าเท่ากับเงินเย็น 🥶 ถือเป็นเงินส่วนต่างที่อยู่นอกเหนือจากเงินที่ต้องใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ถ้าเราปล่อยเงินคืนภาษีก้อนนี้ทิ้งไว้เฉย ๆ คงน่าเสียดาย เงินในส่วนนี้จึงเหมาะที่สุดกับการออม หรือการลงทุนนั่นเอง
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว Step ถัดมาที่ควรทำคือ “เริ่มวางแผนว่าเงินคืนภาษีจะถูกนำไปอยู่ในแผนไหน✍” ซึ่งจุดสำคัญอยู่ที่ระยะเวลา🕓 เพื่อให้สามารถวางแผนในการจัดการเงินคืนภาษีได้อย่างเหมาะสม ตรงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ เช่น
เงินเก็บระยะสั้น : เอาไว้ใช้จ่ายในกรณีฉุกเฉินอย่างการเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุนั่นเอง
เงินเก็บระยะกลาง : เอาไว้ใช้จ่ายในสิ่งที่ต้องการ หรือเพื่อสร้างความมั่นคงในอนาคต อย่างการซื้อบ้าน ซื้อรถ และทุนสำรองสำหรับครอบครัว ธุรกิจ หรือค่าเทอม เป็นต้น
เงินเก็บระยะยาว : เอาไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณ ถือเป็นส่วนที่มีความสำคัญต่ออนาคตมากที่สุด
หลังจากวางแผนเป้าหมายที่ต้องการไว้อย่างชัดเจนแล้ว Step ต่อไปคือการ “เปลี่ยนเงินก้อนเล็ก ให้เป็นเงินก้อนใหญ่” หรือการนำเงินคืนภาษีมาต่อยอดให้เติบโต โดยลงทุนตามรูปแบบระยะเวลาที่เลือกไว้แล้ว ซึ่งเมื่อทำแบบนี้ เราก็จะสามารถขยายเงินภาษีก้อนเล็ก ๆ เพิ่มเป็นเงินก้อนโตได้โดย
การลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายระยะสั้น
👉 ควรเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง ความเสี่ยงต่ำ เพื่อจะได้สามารถนำมาใช้ได้ทันที เช่น ฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ หรือลงทุนในกองทุนตลาดเงิน และตราสารหนี้ระยะสั้น เช่น K-SF
.
การลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายระยะกลาง
👉 ควรเป็นสินทรัพย์ที่ขยับความเสี่ยงมาในระดับกลาง เพื่อเพิ่มผลตอบแทนให้มากขึ้นจากเงินต้น เช่น การลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว อย่างพันธบัตรรัฐบาล สลากออมสิน และหุ้นกู้ รวมถึงลงทุนในกองทุนผสม อย่าง K-GINCOME หรือ K-PLAN
สุดท้าย การลงทุนที่เหมาะสมกับเป้าหมายระยะยาว
👉 ควรเป็นสินทรัพย์พื้นฐานดี เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น และเกิดเงินสะสมในระยะยาวให้มากที่สุด เช่น ลงทุนหุ้นสามัญ กองทุนหุ้นต่าง ๆ หรือกองทุนรวมเพื่อการออม และวัยเกษียณอย่าง SSF และ RMF ซึ่งเราก็จะได้รับประโยชน์ทางภาษีอีกต่อหนึ่งด้วย
จะเห็นได้ว่าการสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีจากเงินคืนภาษีไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าเรารู้ว่ามีเป้าหมายอะไร อยู่ในระยะไหน และควรลงทุนไปกับสินทรัพย์อะไร เราก็สามารถออกแบบความมั่นคงได้จากเงินคืนภาษีที่สามารถเกิดขึ้นกับเราให้ฟินฟินได้ทุกปีนั่นเอง
*ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
เลือกซื้อกองทุน เลือก KAsset
#KAsset #KBankLive
วางแผนการเงิน
ภาษี
การลงทุน
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย