7 เม.ย. 2023 เวลา 14:02 • ประวัติศาสตร์

ฉายาของประเทศต่าง ๆ EP.5 Southern Europe

สวัสดีครับ มาถึง EP.5 กันแล้ว วันนี้ Kang's Journal ขอพาทุกท่านไปยังยุโรปตอนใต้กันบ้างนะครับ ภูมิภาคที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มีอากาศสดใส ชายหาดสวยงาม และอาหารแสนอร่อย ไปดูกันว่าประเทศในแถบนี้เค้าจะมีฉายาอะไรกันบ้าง
1. สเปน : Spain, The Bull Skin
พูดถึงยุโรปตอนใต้ ประเทศสเปนน่าจะเป็นประเทศแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง และสำหรับคนไทย น่าจะคุ้นเคยกับฉายาของประเทศสเปนว่าแดนกระทิงดุ ซึ่งก็น่าจะมาที่จากการที่วัฒนธรรมหลาย ๆ อย่างของสเปนมีความเกี่ยวข้องกับวัวกระทิง
เมือง Ronda หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญของสเปน (Source: https://meetmeindepartures.com)
และสำหรับชาวสเปนเองนั้น บางทีพวกเขาจะเรียกประเทศตนเองว่า La Piel de Toro ซึ่งแปลว่า “The Bull Skin : หนังวัวกระทิง” ซึ่งชื่อนี้เป็นชื่อที่นิยามโดยนักภูมิศาสตร์ชาวกรีกโบราณนามว่า Strabonis เพราะบริเวณพื้นที่ของประเทศสเปนในปัจจุบันมีลักษณะเหมือนหนังของวัว ที่ถูกขึงออกตากแดด เพื่อนำไปทำเป็นเครื่องนุ่งห่ม
แผนที่ประเทศสเปนที่รูปร่างเหมือนกับหนังวัวถูกขึง (Source: World Atlas)
และก็เหมือนกับคนไทย การที่วัฒนธรรมสเปนมีความเกี่ยวข้องกับวัวกระทิงก็ยิ่งทำให้ฉายานี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก สเปนคือประเทศที่คิดค้นกีฬาสู้วัวกระทิงอันโด่งดัง ที่จะมีมาทาดอร์วิ่งถือผ้าสีสด ล่อวัวกระทิงตัวผู้ไปมา ในขณะที่จะมีคนเอาหอกแทงที่บริเวณโหนกวัว ซึ่งกีฬาชนิดนี้ได้รับความนิยมถึงขนาดที่ชาวสเปนจะเรียกกีฬาชนิดนี้ว่า La Fiesta Nacional หรือ The National Fiesta ถ้าแปลเป็นไทยตรง ๆ ก็คือ การละเล่นประจำชาติ
กีฬาสู้วัวกระทิง การละเล่นประจำชาติของสเปน (Source: Tumblr)
หลายคนบอกว่ากีฬานี้เป็นกีฬาที่โหดร้ายและทารุณสัตว์ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง แต่นักวิจารณ์ที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้ล้วนบอกว่า กีฬาชนิดนี้คือศิลปะชั้นสูง ที่มาทาดอร์จะต้องคอยสะบัดผ้าไปมา พร้อมอ่านทิศทางของวัวกระทิงว่าจะเข้ามาในทิศทางไหน และเป็นศิลปะไม่กี่อย่างที่ถ้าผิดพลาดเพียงนิดเดียว ความตายก็จะมาเยือนทันที และตามประวัติแล้วก็มีมาทาดอร์หลายคนที่ต้องแพ้พ่ายให้กับเจ้าวัวกระทิงที่แสนดุร้าย
นอกจากนี้สเปนยังมีเทศกาลวิ่งวัวกระทิงอันโด่งดังที่เมือง Pamplona ซึ่งมีที่มาจากการที่ในสมัยก่อน บรรดาคนเลี้ยงสัตว์จะพยายามพาวัวของพวกเค้าจากฟาร์มไปขึ้นเรือให้เร็วที่สุด ด้วยการใช้สุนัขไล่บ้างหรือแส้ฟาดบ้าง ซึ่งก็มักจะมีชายหนุ่มวัยกำหนัด พยายามวิ่งแซงวัวเหล่านั้นเพื่อจะเอาชนะ จนสุดท้ายก็กลายมาเป็นประเพณีวิ่งวัวในที่สุด
เทศกาลวิ่งวัวที่เมือง Pamplona (Source: Euro Weekly News)
และในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ของสเปนที่มีวัวกระทิงต้องเสียชีวิต ร้านอาหารหลายร้านก็จะมีเมนูเนื้อวัวกระทิงมาให้ผู้ที่ชื่นชอบได้ลิ้มลองกันอีกด้วย
แน่นอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างวัวกระทิง และประเทศสเปนน่าจะเกี่ยวดองกันโดยที่ไม่มีวันแยกออกจากกันได้ และฉายา “The Bull Skin : หนังวัวกระทิง” ก็น่าจะอยู่กับประเทศสเปนไปอีกนานแสนนาน
Barcelona หนึ่งในเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศสเปน (Source: Flickr)
2. อิตาลี : Italy, The Boot
ฉายานี้คงไม่ต้องพูดพรำ่อะไรมาก เพราะรูปร่างของประเทศอิตาลีดูยังไงก็เหมือนรองเท้าบูทจนได้รับฉายา “The Boot : รองเท้าบูทแห่งยุโรป”
แผนที่ของประเทศอิตาลี กับฉายา “The Boot : รองเท้าบูทแห่งยุโรป” (Source: Tripsavvy)
และถ้าไปถามคนอิตาลี พวกเค้าอาจจะบอกว่าถ้าจะให้ถูก ต้องบอกว่าประเทศของพวกเค้ารูปร่างเหมือนรองเท้าบูทกำลังเตะฟุตบอลอยู่ต่างหาก และลูกฟุตบอลก็คือเกาะซิซิลี (Sicily) เกาะที่เต็มไปด้วยชายหาดแสนสวย และโบราณสถานมากมายที่ถูกเก็บรักษาไว้มาตั้งแต่ยุคกรีกโรมัน
รูปร่างที่มีลักษณะเป็นรองเท้าบูทนั้นเกิดจากการที่แผ่นดินของทวีปแอฟริกา ดันตัวขึ้นไปทางเหนือ ทำให้แผ่นดินบางส่วนยุบลงจนกลายเป็นทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และแผ่นดินบางส่วนถูกดันขึ้นเป็นเทือกเขาหลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือเทือกเขาแอลป์ทางตอนเหนือของประเทศ และเทือกเขาแอเพนไนน์ที่ทอดยาวจากด้านเหนือ ผ่ากลางประเทศอิตาลีลงมาจนเกือบสุดประเทศ จนดูเหมือนกระดูกสันหลังของประเทศนั่นเอง
ส่วนสีน้ำตาลกลางประเทศอิตาลี คือเทือกเขาแอเพนไนน์ ที่เปรียบเสมือนกับกระดูกสันหลังของประเทศ (Source: Maps Italy)
ในส่วนของปลายรองเท้านั้นคือแคว้นคาลาเบรีย ที่มีชื่อเสียงในชื่อของเมืองริมชายหาดที่สวยงาม และเห็ดพอร์ชินี่ ส่วนส้นของรองเท้าคือแคว้นพูเกลีย แคว้นที่เป็นแหล่งกำเนิดของอาหารอิตาลีหลายอย่างเช่น ชีสบูราต้า พาสต้าหลากหลายชนิด และ 40% ของน้ำมันมะกอกที่ผลิตในอิตาลี มาจากแคว้นนี้
เห็ดพอร์ชินี่ เห็ดชื่อดังจากแคว้นคาลาเบรีย (Source: Adobe Stock)
รองเท้าสำหรับคนไทยอาจจะดูไม่ใช่ของที่น่าอภิรมย์ แต่สำหรับชาวอิตาลีนั้น ความภาคภูมิใจในภูมิประเทศที่แสนเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา ทำให้บางทีพวกเขาก็เรียกประเทศตัวเองว่า Stivale ซึ่งแปลว่า รองเท้าบูท นั่นเอง
3. ไซปรัส : Cyprus, The Island of Love
ไซปรัส ประเทศที่อยู่บนเกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เกาะไซปรัสในปัจจุบันถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ด้านหนึ่งจะเป็นของสาธารณรัฐไซปรัส ส่วนอีกด้านจะเป็นของเขตปกครอง Northern Cyprus ที่อยู่ภายใต้การปกครองของประเทศตุรกี ในสมัยก่อนทั้งสองส่วนเคยเป็นประเทศเดียวกันมาก่อน แต่เนื่องจากปัญหาเรื่องเชื้อชาติ ที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน ทำให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น จนประเทศถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนในที่สุด
แผนที่ของไซปรัสที่แสดงการแบ่งแยกเกาะออกเป็นสองส่วน (Source: World Atlas)
ในปัจจุบันประเทศทุกประเทศในโลกนิยามให้เกาะไซปรัสทั้งเกาะ เป็นของสาธารณรัฐไซปรัส ธงชาติของไซปรัส ก็ยังแสดงถึงแผนที่ของเกาะไซปรัสทั้งเกาะอย่างเต็มภาคภูมิ
อย่างไรก็ตามความขัดแย้งระหว่างไซปรัสและตุรกียังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และแขตแดนของทั้งสองด้านก็จะมีทหารจาก UN เฝ้าประจำการอยู่ แม้จะมีการเซ็นสัญญาสงบศึกกันชั่วคราวแล้วก็ตาม
ท่าอากาศยานนิโคเซียเดิม ที่ถูกทิ้งร้าง และอยู่ตรงส่วน Buffer Zone พอดี (Source: The Atlantic)
แล้วทำไมเกาะที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยความขัดแย้งถึงมีฉายาสุดโรแมนติคว่า “The Island of Love : เกาะแห่งความรัก” จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ต้องย้อนเวลากลับไปหลายศตวรรษเลยทีเดียว
ตามตำนานของชาวกรีก เทพีแอโฟรไดที หรือที่เรารู้จักกันในนามของ วีนีส ถือกำเนิดขึ้นมาจากฟองทะเลที่เมือง Paphos ที่อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะไซปรัส และเทพีองค์นี้คือเทพแห่งความงาม การให้กำเนิด และที่สำคัญที่สุดคือความรัก
ซากวิหารอะโฟรไดทีที่เมือง Paphos (Source: Pinterest)
ตอนนี้ซากของวิหารของเทพีอะโฟรไดทีก็ยังคงอยู่ที่เมือง Paphos ทุก ๆ ปีจะมีการจัดงานเทศกาลอะโฟรไดที และยังมีหินชื่อหินอะโฟรไดที ที่มีความเชื่อว่าเทพีแห่งความรักเดินขึ้นมาจากทะเลที่บริเวณนี้เป็นครั้งแรก และถ้าใครสามารถว่ายน้ำวนรอบหินก้อนนี้ได้ครบรอบ ก็จะได้พบกับรักนิรันดร์
หินอะโฟรไดที (Source: PADI)
ในปัจจุบันไซปรัส เป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางชาวยุโรปที่ต้องการหนีอากาศที่หนาวเย็น มาสัมผัสกับแสงแดดอบอุ่นบนชายหาดอันสวยงามของประเทศ และยังเป็นสถานที่ยอดฮิตในการจัดงานแต่งงาน และฮันนีมูนสำหรับคู่รักอีกด้วย ดังนั้นถึงจะมีการไม่ลงรอยกันบนเกาะอยู่บ้าง แต่ฉายา The Island of Love จะไม่หายไปไหนอย่างแน่นอน
ความสวยงามของเกาะไซปรัส ทำให้คู่รักหลายคู่เลือกที่นี่เป็นสถานที่ฮันนีมูน (Source: https://www.myidealwedding.co.uk)
4. มอลตา : Malta, The Land of Honey
ประเทศมอลตา อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักของคนไทยมากนัก ประเทศเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อยู่ทางตอนใต้ของเกาะซิซิลีอีกทีหนึ่ง
เมือง Valetta เมืองหลวงของประเทศมอลตา (Source: Pinterest)
ฉายา “The Land of Honey : ดินแดนแห่งน้ำผึ้ง” มีที่มาตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ ในตอนนั้นชาวกรีกเรียกเกาะแห่งนี้ว่า Melite ซึ่งมีความหมายว่า หวานปานน้ำผึ้ง ซึ่งก็มาจากการที่บนเกาะมอลตาจะมีผึ้งชนิดหนึ่งที่หายากอาศัยอยู่ และชาวเกาะมักจะมีอาชีพผลิตน้ำผึ้งกัน
น้ำผึ้งเหล่านี้ทำรายได้มหาศาลให้กับชาวเกาะ เพราะในสมัยที่ยังไม่มีอุตสาหกรรรมการผลิตน้ำตาล เครื่องปรุงที่จะให้ความหวานในสมัยก่อนก็มีเพียงน้ำผึ้งเท่านั้น และขี้ผึ้งยังถือเป็นส่วนประกอบสำคัญในงานศิลปะ และการผลิตเทียนอีกด้วย
ผึ้งมอลตา หรือ Maltese Honey Bee ซึ่งตอนนี้อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ (Source: Flickr)
ในสมัยก่อนชาวเกาะจะทำรังผึ้งด้วยการใช้ดินเหนียวทำเป็นช่อง ๆ ลักษณะคล้ายอุโมงค์เพื่อให้ผึ้งได้เข้าไปอาศัยอยู่ หรือใช้หม้อดินเผาแขวนไว้ใต้ต้นไม้ ซึ่งวิธีทั้งสองเป็นวิธีที่ชาวเกาะใช้เก็บน้ำผึ้งมาจนถึงปี 1950 เลยทีเดียว และสำหรับชาวมอลตานั้นจะเก็บน้ำผึ้งกันปีละครั้งเท่านั้น
รังผึ้งโบราณ (Source: Taste History)
ในปัจจุบันอุตสาหกรรมผลิตน้ำผึ้งไม่ใช่อุตสาหกรรมหลักของมอลตาอีกต่อไป อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการถูกนำมาแทนที่ พร้อมกับการค่อย ๆ สูญพันธุ์ไปของผึ้งมอลตา (Maltese Honey Bee) จากการรุกรานของตัวต่อเข้ามาจากฝั่งเอเชียเราเนี่ยแหละ เราก็คงได้แต่หวังว่าทางรัฐบาลจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะรักษาเผ่าพันธุ์ของเหล่าบรรดาแมลงตัวน้อยที่ครั้งหนึ่ง เคยทำรายได้อย่างมหาศาล และมอบฉายา The Land of Honey ให้กับประเทศนี้มาก่อน
ความงดงามของประเทศมอลตา (Source: CNN)
จบไปแล้วนะครับกับอีก EP หวังว่าทุกท่านคงจะชอบกัน ครั้งหน้า Kang's Journal จะพาทุกคนไปทางยุโรปตอนเหนือกันบ้าง ดินแดนที่ขึ้นชื่อเรื่องความหนาว และสภาพความเป็นอยู่ของประชากรที่ดีที่สุดในโลก ไปดูกันว่าพวกเค้าจะมีฉายาว่าอะไรกันบ้าง ฝากติดตามกันด้วยนะครับ
สามารถติดตามซีรี่ย์ฉายาของประเทศต่าง ๆ ได้ที่นี่นะครับ
ฉายาของประเทศต่าง ๆ EP.1 East Asia
ฉายาของประเทศต่าง ๆ EP.2 Southeast Asia
ฉายาของประเทศต่าง ๆ EP.3 The Rest of Asia
ฉายาของประเทศต่าง ๆ EP.4 Eastern Europe
Source:

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา