Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Mamaya Writer
•
ติดตาม
11 เม.ย. 2023 เวลา 06:47 • บันเทิง
บทที่ 9 เสียงเรียกที่สามีไม่มีวันได้ยิน II
เป็นอีกคืนที่จรีภรณ์ไม่ได้นอน แม้จะบอกว่าหลับตาสนิทแต่ทว่าในใจกลับคิดหวาดระแวงมากจนเกินไป แม้กระทั่งเดินไปเข้าห้องน้ำกลางดึกยังไม่กล้าด้วยซ้ำไป จนต้องอดกลั้นรอถึงตะวันพ้นขอบฟ้า แล้วรีบจัดการกิจวัตรส่วนตัวในตอนเช้าให้เสร็จอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวไม่ได้แต่งหน้าตามที่มารวีสอนเลยสักนิดเพียงแค่ทา แป้งตลับก็มากเกินพอแล้ว หลังจากจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยก็เดินลงมาจากห้องพร้อมกับชายหนุ่มเพื่อรับประทานอาหารเช้า
“พริม...เมื่อคืนไม่ได้นอนหรือลูก ทำไมตาคล้ำแบบนั้น” บวรลักษณ์เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง นั่นเพราะว่าเมื่อคืนวานก่อนก็ไม่ได้นอน พอกลับมาเมื่อคืนก็ถูกวิญญาณของพริมมาหลอนจนไม่ได้นอนทั้งคืนอีก
จรีภรณ์ยิ้มเจื่อนๆ โดยไม่ปริปากพูดอะไรทั้งสิ้น
“แล้วแบบนี้จะไปทำงานไหวหรือคะคุณแม่ ? ให้ยัยพริมพักอีกสักวันจะดีไหม ?” มารวีเอ่ยขึ้นพลางมองน้องสะใภ้อย่างเห็นใจ ใบหน้าคล้ำซีดเซียวแทบไม่มีแรง
“ก็ดีนะ ส่วนเรื่องงานที่เราบอกว่าต้องรอพริมตัดสินใจเพื่อประชุม เลื่อนไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้ยัยพริมใช่ว่าจะจำอะไรได้ด้วย” บวรลักษณ์พูดขึ้นลูกชายทั้งสองจึงตอบรับและทานข้าวเช้ากันอย่างเงียบๆ ในขณะที่จรีภรณ์กำลังคิดอยู่ว่าไปทำงานนี่คืองานอะไรแล้วพริมมาเรียนอะไรมา !! จะให้เธอนั่งแยกเชื้อในห้องทดลองหรือไม่ หรือว่าให้เธอเลี้ยงเจ้าราน้อยให้โต...
“งั้นโครงการที่ร่างก็ต้องถูกพักไปก่อนเหรอคะ ? ความจริงแล้วไม่มียัยพริมก็ตัดสินใจได้นี่คะ เพราะพริมกับไม้ก็เป็นเหมือนคนในครอบครัว ทำไมคุณอาถึงไม่ยอมง่ายๆ” มารวีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย
“เอาน่า เขาคงมีเหตุผล อาธีทัตเป็นถึงเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ของพ่อเชียวนะ ยังไงเขาพูดแบบนี้ออกมาคงมีเหตุผลนั่นแหละ แม่ว่าพักไว้ก่อนก็ไม่เสียหายอะไร” บวรลักษณ์พูดขึ้นทว่าจรีภรณ์ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ เพียงจับใจความได้ว่า พริมมาจะต้องมีตำแหน่งใหญ่ในบริษัทสักอย่าง
“นั่นสิครับ” กันตภณเห็นด้วยกับที่มารดาพูด
จรีภรณ์ได้แค่ฟังบทสนทนาบนโต๊ะอาหารที่ตนเองไม่เข้าใจจนกระทั่งชายหนุ่มทั้งสองออกไปทำงานและมารวีก็ออกไปทำงานด้วยเช่นกัน วันนี้เป็นอีกวันที่เธอต้องอยู่บ้าน แต่ก็ดีแล้วจะได้นอนให้เต็มอิ่มเสียทีเพราะไม่ได้นอนมาสองวันแล้ว
หญิงสาวเดินกลับมาที่ห้องนอนอีกครั้งหนึ่ง ทว่าจิตใจก็กระวนกระวายไม่หยุดคิดมากนอนไม่หลับ สุดท้ายแล้วจึงหยิบเสื้อผ้าที่ใส่แล้วดูสุภาพออกมาเปลี่ยนและเตรียมของเดินออกจากห้องไปทันที
จรีภรณ์เหมือนเดินลงมาไม่ได้สนใจคนรอบตัวมากนักเมื่อได้ยินเสียงของบวรลักษณ์เอ่ยทักขึ้นก็รีบหันไปหาทันที
“จะออกไปไหนหรือหนูพริม” บวรลักษณ์เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง เพราะสีหน้าของลูกสะใภ้นั้นยังไม่หายเป็นปกติ
“จะไปวัดทำบุญให้เพื่อนหน่อย…ค่ะ” จรีภรณ์สบสายตามองราวกับต้องการบอกว่า ‘เธอสามารถไปเองคนเดียวได้’
“เอาเถอะ ยังไงถ้ากลับไม่ไหวหรือไม่สบายโทรบอกแม่นะ แม่จะได้ให้คนขับรถไปรับ” บวรลักษณ์พูดพลางมองด้วยความเป็นห่วง ทว่าสำหรับ จรีภรณ์เเล้วเเค่ไม่ได้นอนสองวันไม่ตายมากเท่าไหร่นักหรอก เพราะตอนทำการทดลองเฝ้าผลสมัยอยู่มหาวิทยาลัยเธอแทบไม่ได้นอนทั้งอาทิตย์ เเค่นี้เบามาก เพียงเเต่ว่าขออย่าเจอพริมมาแบบสยองขวัญอีกก็...ไม่งั้นเธอคงบ้าแน่ๆ
ถึงจะพูดว่าอย่าให้เจออีก แต่พริมมาคือเจ้าของร่างที่เเท้จริง ส่วนเธอจริงๆ เเล้วถ้าไม่มาอยู่ร่างพริมมาอาจจะกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนไปเเล้วก็ได้
“ค่ะ คุณแม่…” จรีภรณ์ยิ้มให้ก่อนจะเดินไปที่หน้าประตูสวมรองเท้าเดินออกจากบ้านไป โดยที่ไม่รู้ว่าวิญญาณของพริมมานั้นมองอยู่ตลอด
‘คุณแม่คะ ! พริม…พริมอยู่นี่ยังไงคะ’ วิญญาณสาวพยายามส่งเสียงร้องให้แม่สามีได้ยินทว่ามีเเต่ความว่างเปล่า เพราะบวรลักษณ์เดินผ่านตัวของหล่อนไปราวกับธาตุอากาศ
‘คุณแม่…’
พริมมาได้เเค่มองด้วยใบหน้าแสนเศร้า เเม้จะทำอย่างไรก็ไม่มีใครเห็นเธอ ไม่มีใครรู้ว่าเธอนั้นทุกข์ทรมานมากเเค่ไหน หยดน้ำตาไหลอาบที่ใบหน้า เสียงร้องสะอื้นดังออกมาทว่าเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ไม่มีใครได้ยิน
แสงแดดในตอนเที่ยงร้อนและอบอ้าว เเต่ยังดีที่มีร่มเงาของต้นไม้และลมพัดผ่านบ้างเป็นระยะ จรีภรณ์ยืนอยู่ต่อหน้าหลุมฝังศพต่อร่างของเธอ น้ำตาที่เก็บกักไว้ก็อดจะไหลออกมาไม่ได้ หญิงสาวโน้มตัวลงวางดอกไม้ลงก่อนจะขยับออกห่างพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ
“หลังจากนี้…คงไม่มีไอ้ต๋อมอีกเเล้ว” เเม้จะพูดออกมาเเบบนั้น ทว่าความทรงจำเก่าๆ ในอดีตก็หลั่งไหลเข้ามาในหัว อิสระชีวิตสาวโสด หรือเเม้กระทั่งเพื่อนสมัยเรียน…มันก็จบเเล้วด้วยเช่นกัน
จรีภรณ์หันหลังกลับราวกับว่าวันนี้เธอได้ตัดสินใจทิ้งอดีตไปเเล้ว ต่อให้จะใช้ร่างของพริมมาอยู่ในฐานะที่เป็นไอ้ต๋อม ทุกคนคงไม่เชื่อเเละสิ่งที่ทุกคนรับรู้ตอนนี้…จรีภรณ์ได้จากโลกนี้ไปเเล้ว
หญิงสาวเดินออกจากสุสานด้วยจิตใจที่เหม่อลอย คำพูดของวิญญาณพริมมายังคงดังก้องในใจตลอด จะทำอย่างไรเพื่อคืนร่างที่ไม่ใช่ของเธอ…เพียงเเค่คิดเเต่ไม่สามารถรู้วิธีจริงๆ
เกือบเที่ยงหลังจากทำบุญเเละไปเยี่ยมหลุมฝังศพของเธอเเล้ว จรีภรณ์ยังไม่ได้กลับบ้านเเต่อย่างใด เธอนั่งรถมาจนกระทั่งถึงห้างสรรพสินค้าใกล้บริษัทที่เคยทำงาน พลันก็นึกถึงความทรงจำเก่าๆ ที่เคยเกิดขึ้นที่นี่
หญิงสาวแวะรับประทานอาหารมื้อกลางวัน ก่อนจะเดินเล่นไปเรื่อยโดยไม่มีจุดหมาย จรีภรณ์มองไปรอบๆ แล้วหยุดชะงักลง พินิจมองชายหนุ่มใบหน้าคุ้นเคยในระยะไกลจากร้านอาหารหรูฝั่งตรงข้าม
ไม่ผิดเเน่…นั่นสามีของพริมมาที่กำลังอยู่กับผู้หญิงอีกคน ใบหน้า ขี้เก๊กนิ่งขรึมเวลาอยู่กับเธอหรือคนในครอบครัว ทว่ามันไม่มีในตอนนี้เลยสักนิด กตตน์ยิ้มให้ผู้หญิงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างมีความสุข
นี่คือสาเหตุเเท้จริงใช่หรือไม่ ? ช่างน่าสงสารพริมมาเสียเหลือเกิน
จรีภรณ์เพียงมองห่างๆ โดยไม่คิดจะเข้าไปทักทายอีกฝ่าย จ้องอยู่นาน จนกระทั่งทั้งสองคนต่างลุกขึ้นเดินออกจากร้าน หญิงสาวจึงรีบหันตัวหนีเเละเดินจากไปทันที
“ไม่ทำท่าเก๊กก็ได้นี่หว่า” พึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะหันกลับมองอีกครั้ง เเต่ก็ไม่เจอทั้งสองคนเสียเเล้ว
จรีภรณ์ไม่สนใจคนทั้งสองมากกว่าการเดินไปที่ร้านเสื้อผ้าสตรีและซื้อกางเกงหรือเสื้อที่เหมาะกับตนใส่กลับมา รวมถึงชุดชั้นในที่ไม่ใช่ลายลูกไม้และชุดนอน
เพราะความไม่ชินกับการเลือกซื้อเสื้อผ้าต้องใช้เวลานานมากกว่าจะเสร็จ หากเป็นเมื่อก่อนเเล้วทั้งหมดนี้เพียงหนึ่งชั่วโมงก็คงเสร็จเพราะรู้ขนาดเสื้อผ้าตัวเอง เเต่นี่รูปร่างของพริมมาดูผอมบางราวกับนางเเบบ เวลาผ่านไปมาก็เกือบเย็น จรีภรณ์ก้าวออกจากร้านขายรองเท้า ถือของเต็มไม้เต็มมือเดินออกจากห้างสรรพสินค้าขึ้นรถแท็กซี่ทันที
หากชอบฝากติดตามและสนับสนุนผลงานด้วยนะคะ
อ่านเพิ่มเติม
mebmarket.com
มายาปฏิพัทธ์:: e-book นิยาย โดย เฌอรินทิพย์
มายาปฏิพัทธ์:: e-book นิยาย โดย เฌอรินทิพย์
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
มายาปฏิพัทธ์
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย