The Super Mario Bros. Movie (2023) – ลุงนักซ่อมท่อ ขอผจญภัยในดินแดนเห็ด
จากแต่ก่อน ที่วิดีโอเกมเคยเป็นของแสลมหรือของแรงเปี่ยมอาถรรพ์ ที่ไม่เคยประสบความสำเร็จในฐานะการดัดแปลงในรูปแบบภาพยนตร์ ในช่วงทศวรรษใหม่ วิดีโอเกมหลายชิ้น ก็เริ่มประสบความสำเร็จมากขึ้น ทั้งในแง่รายได้และคำวิจารณ์ หากแต่จะพูดถึงสุดยอดเกมแสนคลาสสิคที่ไม่เคยโลดแล่นในรูปแบบแอนิเมชันมาก่อน ก็คือผลงานการร่วมพันธมิตรล่าสุดของ Illumination + Nintendo ที่จับมือร่วมกันสร้างแอนิเมชันอย่าง The Super Mario Bros. Movie
The Super Mario Bros. Movie เล่าเรื่องของสองพี่น้อง มาริโอ้ และ ลุยจิ ที่มาอาศัยในเมืองบรูคลิน นิวยอร์ค และเปิดเพิ่งธุรกิจนักซ่อมท่อมาหมาด ๆ แต่แล้ว ในขณะที่เมืองน้ำท่วม ทั้งคู่กลับถูกดูดโดยท่อวาร์ปใต้ดิน ที่ทำให้พวกเขาไปอีกมิตินึง โดยที่มาริโอ้ถูกส่งไปยังอาณาจักรเห็ด ที่ซึ่งเขาได้พบกับเจ้าหญิงพีช และ โท้ด เห็ดน้อยผู้กล้าหาญ ด้วยภารกิจอันสำคัญที่พวกเขาต้องปกป้องดินแดนจากเงื้อมมือบาวเซอร์ผู้ชั่วร้าย และช่วยเหลือลุยจิที่หลุดหลงไปยังอีกดินแดนนึง
เรื่องราวเปิดประเดิมมาด้วยความชั่วร้ายของคิงบาวเซอร์ ราชันย์ของเหล่าคูปป้า ที่หวังจะกรีฑาทัพไปประกาศศึกกับเจ้าหญิงพีชของอาณาจักรเห็ด ก่อนที่ตัวหนังจะย้ายมาเล่าด้วยศูนย์กลางของเรื่องอย่าง มาริโอ้ ที่โดดเข้าสู่โลกแห่งการผจญภัยที่เต็มไปด้วยสีสัน และเล่าเป็นเส้นตรง พลางคั่นด้วยจังหวะมุกบ๊อง ๆ สร้างเสียงหัวเราะจากเหล่าตัวละครที่เราล้วนคุ้นชินจากเกมชื่อก้อง
รูปแบบการเล่าของหนัง แทบจะเข้าใจไม่ยาก ดูง่ายและไม่สลับซับซ้อนอะไรเลย หากพูดสั้น ๆ มันก็เหมือนเป็นการผจญภัยที่ถอดแบบมาจากเกมโดยตรง ทั้งการหยิบยกเกมรูปแบบต่าง ๆ มาจัดวาง ผ่านโครงสร้างของเรื่อง ทั้งการนำพาตัวละครที่ไร้ทักษะ มาฝึกปรือด้วยการกระโดดผ่านด่านแบบสั้น ๆ ก่อนนำไปสู่อีกดินแดน ที่มาพร้อมด่านและตัวละครหน้าใหม่ที่น่าท้าทาย และนำพาพวกเขาเหล่านั้น ไปสู่การเดินทางที่ชวนหวนรำลึกถึงอีกเกมที่แสนโฉบเฉี่ยว
บรรยากาศของหนัง จึงเต็มไปด้วยสีสันสดใสน่าตื่นตา ในการนำเอาโลกแห่งการผจญภัยของแฟรนไชส์มาริโอ้ มาดัดแปลงลงบนจอเงิน แถมยังขยันใ่ส่มุก เพื่อสร้างเสียงหัวเราะจากผู้ชมทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในรายของ แจ็ค แบล็ค ที่ให้เสียงพากย์เป็น คิงบาวเซอร์ ที่มาพร้อมน้ำเสียงแสนชั่วร้าย แต่ก็ยังซ่อนทีท่ามาดกวน จนแทบจะเป็นดาวเด่น ขโมยซีนของเรื่องเลยทีเดียว
ในขณะเดียวกันกับที่เรารู้สึกดีใจ ในโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลของมาริโอ้ ถูกหยิบยกมาดัดแปลงบนจอเงินเสียที เรากลับรู้สึกว่าโลกใบนั้น มันดันเล็กเสียเหลือเกิน อาจเป็นเพราะโครงสร้างทางบท ที่ออกแบบมาให้เหมือนเป็นผจญภัยเป็นด่าน ๆ แทนที่เราจะได้เชยชมรายละเอียดพื้นหลัง หรือภูมิหลังตัวละครแต่ละตัว เรื่องราวก็ขับเคลื่อนไปข้างหน้า เพื่อผลักดันให้ตัวละครและผู้ชมมุ่งไปสู่ด่านต่อไป โดยไม่มีเวลาให้เราได้เชยชมมันเสียจริง ๆ
อีกทั้งตัวแอนิเมชัน ยังแทรกไปด้วยศักยภาพมากมาย ทั้งการจัดวางให้มาริโอ้-ลุยจิ เป็นผู้อพยพมาอาศัยยังเมืองบรูคลิน และมาพร้อมปมในใจที่อยากจะเอาชนะครอบครัว แต่ตัวหนังก็ไม่ได้ขยับขยายไปมากกว่านั้น นอกเหนือจากผลลัพธ์ในช่วงท้าย หรือกระทั่งการใส่ฉากรถแข่งบนถนนสีรุ้ง ก็ดูรีบเร่งและรวบรัดกว่าฉบับที่เห็นตัวอย่าง จนเราไม่อาจจะรู้สึกตื่นเต้นหรือตื่นตาไปกับมันได้เท่าที่ควร
หากเปรียบเทียบแบบตรงไปตรงมา The Super Mario Bros. Movie ก็อาจจะเป็นหนังที่มาพร้อมภาพลักษณ์น่าตื่นตา มาพร้อมด่านมากมายที่ชวนรำลึกถึงเกมในวัยเด็ก หากแต่มันมาพร้อม replay value (มูลค่าของการเล่นซ้ำ) ที่น้อยมาก จนเป็นการผจญภัยที่ผ่านรอบเดียวพอ และก็ไม่ได้น่าจดจำแต่อย่างใด
สรุปแล้ว The Super Mario Bros. Movie คือการจับเอาวิดีโอเกมชื่อก้องมาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นครั้งแรก ลำดับจัดวางตัวละครและด่านเกมมากมายที่เราคุ้นหน้า ผ่านเรื่องราวการผจญภัยที่ออกแบบราวกับเกมผ่านด่าน มาพร้อมมุกบ๊อง ๆ สร้างเสียงหัวเราะและการให้เสียงพากย์แสนขโมยซีนของแจ็ค แบล็ค ถึงแม้เรื่องราวแสนรีบเร่งโดยรวมจะไม่น่าจดจำ และไม่อาจทำได้ถึงศักยภาพเท่าที่ควรเลยก็ตาม
หากแต่อยากเห็น ลุงมาริโอ้ มาโลดแล่นบนจอเงินแล้วล่ะก็ ไปดูเถอะ
เล็ท-สะ-โก
3 / 5
The Super Mario Bros. Movie (2023)
Directed by Aaron Horvath & Michael Jelenic
Written by Matthew Fogel
Based on "Super Mario" by Nintendo
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
