17 เม.ย. 2023 เวลา 05:00 • ไลฟ์สไตล์

5 วิธีจัดการงาน ไม่ให้ยุ่งเท่าเดิม

เวลาแห่งความสุขผ่านไปไว และก็กลับมาสู่โลกของการทำงานอีกครั้ง...
.
เชื่อว่าหลายคนน่าจะมีลิสต์งานที่ต้องสะสางอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่ไม่เป็นไรค่ะ ทุกอย่างจะจัดการได้ด้วยดี ถ้ารู้วิธีจัดการที่เหมาะสมและถูกทาง
วันนี้เลยขอมาแชร์เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำแล้วเวิร์ก
ช่วยจัดการงานต่างๆ ได้ดี เสร็จทันเดดไลน์ ในแบบที่ไม่เหนื่อยเกินไป
เริ่มจาก....
1. ตั้งสติก่อน
ก่อนอื่นเลย อย่าเพิ่งเคร่งเครียดกับงานที่กำลังจ่อคิวอยู่ตรงหน้า เพราะจะทำให้เราจับต้นชนปลายไม่ถูก และอาจรู้สึกท้อตั้งแต่งานยังไม่เริ่ม เลยแนะนำว่าขั้นตอนแรก หายใจลึกๆ ค่อยๆ คิดถึงงานต่างๆ ที่ต้องทำ และเชื่อมั่นว่า ไม่ยากเกินไปที่จะจัดการมัน ถ้าเรา Manage อย่างถูกวิธี และเหมาะกับสไตล์การทำงานเรา
2. ลิสต์แค่งานที่ต้องทำให้เสร็จในสัปดาห์นี้
ถ้าเรามองถึงงานทั้งหมดจริงๆ อาจจะพบว่ามันมากมายก่ายกอง แต่อยากจะบอกว่า จริงๆ แล้ว ในท่ามกลางงานมหาศาล มันจะมีแค่ไม่กี่อย่างที่สำคัญจริงๆ ค่ะ แนะนำว่าให้ลิสต์แต่งานสำคัญที่ต้องทำให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ออกมาก่อน งานประเภทที่ถ้าไม่ทำภายในวีคนี้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงกับชีวิตเราแน่ๆ นั่นแหละค่ะ คือสิ่งที่เรียกว่า Priority
1
“ถ้าทุกอย่างสำคัญหมด แสดงว่าไม่มีอะไรสำคัญอย่างแท้จริง”
.
ดังนั้น เราต้องหาสิ่งที่สำคัญจริงๆ ให้เจอ ความจริงแล้ว คนเราทำทุกอย่างในวันเดียวไม่ได้ เลยจำเป็นต้องจัดลำดับความสำคัญ ก่อน-หลังให้ดี เพื่อให้เราไม่ล้า และงานยังมีคุณภาพที่ดี
1
3. แบ่ง Theme แต่ละวัน
พอลิสต์งานสำคัญในสัปดาห์นี้ออกมาแล้ว อย่าเพิ่งยัดทุกอย่างไปทำในวันเดียว เพื่อหวังว่าวันต่อไปจะได้ว่างมากขึ้นนะคะ การทำแบบนี้จะยิ่งทำให้เราล้าได้ง่าย ประสิทธิภาพการทำงานน้อยลง และจบด้วยการทำไม่เสร็จ แล้วต้องผัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ ทางที่ดี โฟกัสน้อยอย่าง แล้วเสร็จชัวร์ดีกว่า
สิ่งที่แนะนำเลยคือ ให้เริ่มคิดจากแบ่ง Theme งานแต่ละวันค่ะ เช่น วันจันทร์จะเคลียร์ report วันอังคารจะทำ planning วันพุธเน้นคุยอัปเดต performance กับทีมต่างๆ เป็นต้น
ทริคที่อยากแนะนำเพิ่มก็คือ ให้ “กินกบ” ก่อนค่ะ ก็คือทำงานยากๆ ก่อน เช่น ถ้าเรารู้สึกว่า งาน report มันยากมาก ต้องใช้สมาธิ และการคิดวิเคราะห์สูง ก็จัดการตั้งแต่วันจันทร์ไปเลยค่ะ
และทริคอีกข้อคือ ถ้าออฟฟิศของเพื่อนๆ ยังมีนโยบาย WFH อยู่ ให้จัดงานที่เป็นไทป์ Execute หรือต้องใช้สมาธิ ทำในวันที่ WFH จะได้ไม่มีใครมากวน ทำให้งานเสร็จได้ไวกว่าที่คิด ส่วนวันที่ไปออฟฟิศให้เน้นการประชุม หรือ brainstroming จะได้เห็นหน้าเห็นตาเพื่อนร่วมงาน คุยกันได้ Effective มากขึ้น
1
4. ใส่ลิสต์งานไม่เกิน 3-5 อย่างต่อวัน
พอเรามี Theme รายวันแล้ว สิ่งที่ต้องวางแผนต่อคือ สิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน หรือที่เรารู้จักกันดีว่า To-do-list ค่ะ ซึ่ง Ti-do-list ที่ว่าเนี่ย มันก็มีกฎอยู่เล็กน้อย ควรใส่ประมาณ 3-5 งานต่อวันค่ะ
คัดแค่งานที่สำคัญจริงๆ เท่านั้น
1
อย่างที่บอกไปว่า การโหมทำงานหนักรวดเดียว อาจทำให้เราล้าได้ง่าย และกลายเป็นงานไม่เสร็จตามที่หวัง ทำน้อยงาน แต่เน้นโฟกัสดีกว่าค่ะ แล้วก็เฉลี่ยๆ ไปให้ครบ 5 วัน แล้วเราจะพบว่า พอกระจายงานไป 5 วัน งานที่ต้องทำแต่ละวันจริงๆ มันไม่ได้หนักอย่างที่คิด
(แต่ถ้ากระจายแล้วยังหนักอยู่
อาจจะต้องพิจารณาเรื่อง Workload เพิ่มเติมค่ะ)
5. ตัด Distraction ที่ควบคุมได้จากตัวเรา
ตัวการสำคัญที่ทำให้เราทำงานไม่เสร็จตามแผนที่วางไว้ ก็คือ Distraction ค่ะ
- สิ่งที่ควบคุมยาก มักเป็นปัจจัยภายนอก หรือจากคนอื่นก็อาจจะควบคุมยาก แต่ก็ยังพอมีวิธีค่ะ เช่น หากเจองานด่วน ให้เจรจาเรื่องเดดไลน์ไปก่อน หรือกระจายงานให้ลูกน้องทำแทน
- สิ่งที่ควบคุมได้ หรือ Factor ที่มาจากตัวเราค่ะ เช่น งดไถ่หน้า feed social media ตอนทำงาน ไม่เหม่อลอย คิดเรื่องอื่นเวลาทำงาน โฟกัสให้มากขึ้น ทำงานให้เสร็จเป็นอย่างๆ ไป เป็นต้นค่ะ
นี่ก็คือเทคนิคการบริหารเวลาแบบง่ายๆ ที่ทำได้เลย ในวันเริ่มต้นทำงานของสัปดาห์ค่ะ คีย์หลักก็คือ การ prioritize งานแบบรายสัปดาห์ และกระจายง่ายในแต่ละวันให้เท่าๆ กัน เพื่อให้ได้ทำสิ่งที่สำคัญ และ impact กับชีวิตเราจริงๆ ค่ะ
❤️ หากใครชื่นชอบเรื่องการ Planning หรือ Time Management ฝากติดตามเพจ To Do Less ของเราไว้ด้วยนะคะ จะมาแชร์เคล็ดลับ และเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับการบริหารเวลา เพื่อให้ทุกคนมีเวลาเหลือไปทำสิ่งที่สำคัญในชีวิตต่อไปอย่างมีความหมายและสนุกมากขึ้นค่ะ 🙂
1
โฆษณา