19 เม.ย. 2023 เวลา 08:06 • ไลฟ์สไตล์

%$&(#@..

..
.
.
ตามนี้.... และบทสรุป....
.
ดั่งหนามตำใจ
ไม่มีชีวิตใครในโลกใบนี้ที่ราบรื่นตลอดชีวิต
ไม่มีชีวิตใครในโลกใบนี้ที่มีแต่ความสุขตลอดชีวิต
คนที่พบปะกับคุณมีมาก แต่ที่รู้ใจคุณจริงๆมีน้อย
คนที่พูดคุยกับคุณมีมาก แต่ที่ค้ำจุนคุณมีน้อย
คนที่เข้าใจคุณมีมาก แต่ที่เชื่อมั่นในตัวคุณมีน้อย
เพราะอย่างนี้
เจ็บเองก็รักษาเอง
ร้องไห้ก็ปลอบใจตัวเอง
ไม่มีใครเข้าใจก็เข้าใจตัวเอง
ไม่มีใครช่วยเหลือก็จงเป็นผู้อุปถัมภ์ตัวเอง
รู้ว่าเวลาไหนควรพูด รู้ว่าเวลาไหนควรเงียบ คือลักษณะหนึ่งของคนมีปัญญา
รู้ว่าเวลาไหนควรทำ รู้ว่าเวลาไหนควรถอย คือลักษณะหนึ่งของคนมีสติ
ของที่ดีที่สุด วันหนึ่งก็ต้องสูญเสียมันไป
ความรู้สึกที่ดีที่สุด วันหนึ่งมันก็ลืมกันไป
คนที่รักที่สุด วันหนึ่งก็ต้องพรากจากกันไป
เพราะต่อให้ฝันดีแค่ไหนก็ต้องตื่น
เรื่องบางเรื่อง อย่าใส่ใจให้มันมากนัก ปล่อยให้มันผ่านไปเหมือนลมพัด
ผ่านแล้วก็ผ่านเลย
เรื่องบางเรื่อง อย่าพิสูจน์ให้มันแจ่มแจ้งมากนัก เพราะมันเหมือนตอหนาม
ชัดมาก ก็เจ็บมากตาม
เพราะเรื่องบางเรื่อง เมื่อรู้ความจริง ก็ใช่ว่าจะทำใจยอมรับได้
คนบางคน เมื่อรู้ความจริงว่าเป็นอย่างไร ก็อย่าไปเสียใจร้องไห้ฟูมฟาย
ร้องไห้ไปก็ใช่จะหนีความจริงพ้น จงยอมรับแล้วเดินหน้าต่อ
คนที่รักคุณ จะทิ้งคุณไปทำไม?
คนที่ไม่รักคุณ จะอยู่กับคุณได้อย่างไง?
ประสบการณ์ จะสอนคุณว่าควรทำอย่างไร?
เวลา จะสอนคุณเข้าใจโลกมากยิ่งขึ้น ✌️
Cr:นุสนธิ์บุคส์
สิ่งที่ยากคือ "ใจคน"
ที่ยากกว่า คือ "ใจเรา"
สิ่งที่ไม่เคยรู้ก็คือ "หัวใจของคน"
แต่สิ่งที่ต้องเรียนรู้ และรู้ให้ซึ้งคือ "หัวใจของเรา" เอง
สิ่งที่ควรดู คือ "อารมณ์ตน"
สิ่งที่ควรลด คือ "อัตตาตนเอง" ลดในสิ่งที่คนอื่นลดไม่ได้
สิ่งที่ควรเพิ่ม คือ "ความอดทน" ทนในสิ่งที่คนอื่นทนไม่ได้
สรุปทั้ง
1. ลด "อัตตา" ในตน= มอง+ยอมรับ+เห็นทางเลือก+รอด คือ คำแนะนำตักเตือนจากคนอื่นรอบด้าน
2. ควบคุม "อารมณ์" ในตน = มอง+ยอมรับ+เห็นพร้อมปรับทัศนคติตนให้ผิดไปถูก ก้าวไปข้างหน้าพัฒนาศักยภาพตนเอง เปลี่ยนตนเองให้เป็นคนที่อยากเป็นจากข้างใน เพิ่มความมั่นใจและคุณค่าให้ตนเอง (คนอื่นก็ใจ+อารมณ์ของเขา รับผิดชอบแค่ส่วนของเราพอ)
3. เพิ่ม "อดทน" ในตน= คนเราต่างกันตรงความอดทน ใครทนได้มากคนนั้นก็ชนะ ซึ่ง "ทน" ในที่นี่คือ ทั้งทุกข์กาย และ ทุกข์ใจ ซึ่งคนส่วนใหญ่ทนได้ยาก ดั่งนี้คนเราจึงประสบความสำเร็จต่างกัน
4. ให้ "เวลา" ในตน = "สติ" โดยที่ "ไม่มีอคติ" เพื่อพิจารณา+เมตตา+อภัยตนเอง พร้อมทบทวนเรื่องราวเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมา เรียบเรียงใหม่ ตั้งต้นใหม่ หากแก้ไขอะไรไม่ได้ อย่างน้อยสติก็ช่วยเราได้ไม่ให้ซ้ำเติมเหตุการณ์ให้มันแย่ลงกว่าเดิม แถมยังช่วยเรียกใจที่จมกับอดีต หรืออนาครมาอยู่กับปัจุจุบันได้ด้วย ทางรอดทางเลือกก็อยู่ ณ ปัจจุบันนี่ละ ชุ้นว่านะ จะเอางัยต่อดี...
หากคิดไรไม่ออก ก็แค่ทำอะไรหลายอย่างที่เราควบคุมด้วยสติเราได้เหมือนกัน เช่น การได้ทำในสิ่งที่มีคุณค่าต่อตัวเราเองและคนที่รักเรา กวาดบ้านถูบ้าน เข้าสปา นั่งสมาธิ โยคะ ฯลฯ ชุ้นก็ไม่ได้บอกให้เลิกคิด หรือละทิ้งปัญหาที่มี แค่บางทีเราแค่พักทานอาหารว่างเท่านั้น มีแรงก็มาลุยต่อ แค่เปลี่ยนจุดโฟกัสเล็กน้อยแค่นั้น
ภาพ youcanbehappynow.com
ปัญหาทุกอย่างย่อมมีทางออก ใจที่มีแผลย่อมมีวันหาย เรื่องบางเรื่องไม่สามารถแก้ได้ในเวลานี้ ก็ยังไม่ต้องแก้ รำลึกอยู่เสมอว่าทุกวินาทีคือการเปลี่ยนแปลง รอเวลาที่เหมาะสม แล้วค่อยแก้ หรือเวลาอาจช่วยเราแก้ไขได้โดยไม่เปลืองแรง คิดแล้วคิดอีกก็แก้ไม่ได้ ก็วางเถอะ
เรื่องใหญ่อาจกลายเป็นเรื่องเล็ก เรื่องเล็กอาจมลายหายไปเลย หรืออาจไม่ใช่สิ่งที่เราจะต้องใส่ใจก็เป็นได้ เรามีหน้าที่แค่สร้างเหตุให้ดี เมื่อสร้างเหตุดี อนาคตก็จะดีเอง แค่อย่าลืมว่าสิ่งที่เพิ่มนั่นคือ "ความอดทน" สิ่งนี้จะเป็นเกราะหุ้มใจเราอย่างดี เหมือนนักรบที่มีดาบ และโล่ เป็นกัปตันอเมริกาไปเลย
อะไร ๆ ชุ้นก็รอดมา(มั้งนะ อิอิ) พังได้ ลุกได้ สบักสบอมได้ ฟ้าถล่มทลายก็ยังได้ (ใช่ว่าไม่เคยๆ อยู่) ทุลักทุเลก็มี แซดอย่างบ่อย ร้องไห้? ร้องไปชุ้นถือว่าเป็นการให้เวลากับตนเองเช่นกัน เป็น"การตั้งตัว" พรีแพร์ก่อน ค่อยมูฟออนแต่ฟูมฟายนี้ขอนะอย่า (55)
ที่สำคัญคือ ไม่เอาใจไปในอนาคตหรืออดีตที่ไม่หวนคืน อนาคตยังไม่แน่ อย่าคิดเผื่อได้ของแถมว่าจะเกิดโน้นนี้นั่น มีแต่พาลจะประสาทกินเร็วกว่าอายุที่ควรเป็นด้วยซ้ำ พอ...เลิกคร๊ะ อยู่ ณ ปัจจุบันขณะ คือ here and now และเมื่อสารเอ็นโดรฟินหลั่ง ความเครียดย่อมหาย เราก็อายุยืนไปอีกหลายปี (เพราะสารความเครียดมันหลั่งพร้อมกันไม่ได้)
ชีวิตเราสั้นเกินไปสำหรับทุกเรื่อง... บวกกับพลังงานชีวิตที่แสนจำกัด ยังไม่นับเมมโมรี่การ์ดในสมองอันน้อยนิดของชุ้นทั้งรอม (rom) และแรม (ram) ต่างก็ต่ำ ดังนั้นอย่าสิ้นเปลืองพลังงานชีวิตไปกับสิ่งที่สุดท้ายแล้วเราก็เปลี่ยนแปลงอะไรมันไม่ได้อยู่ดี ...
ชุ้นก็แอบคิดแบบนี้นะบางทีทุกวันนี้ก็เพราะคำว่า ทนได้อดได้นี้ (พยามนะมากด้วย) เลยได้เกราะคุ้มใจมา ดั่งเช่นครูบาอาจารย์ย้ำเสมอว่า ท้ายสุดมันจะกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่า "ขันติบารมี" ของเราเอง และเราเท่านั้นที่จะเข้าใจ...
.
.
เพราะ.. สิ่งไหนถ้าควบคุมไม่ได้ ทำเต็มที่แล้วก็ต้องยอมรับมัน.. อย่างอดทนเช่นกัน แม้แต่ใจคน หากแต่วันและเวลาผ่านไปใจคนย่อมเปลี่ยนตาม
ปล. ส่วนใครที่ล่าความฝันยิ่งต้องอดทน ๆ บางคนต้องทนในสิ่งที่คนอื่นปรามาสเราไว้ด้วย ยิ่งต้องอดและทน คนที่ประสบความสำเร็จก็ล้วนมีนิสัยอดทนด้วยกันทั้งนั้นไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นไงก็ตาม.. เราโชคดีที่โอกาสตามฝัน...
ชุ้นคนหนึ่งที่ทำตามที่ชุ้นอยากเป็นและอยากทำ ที่เลิกไปก็มีเยอะ เพราะลองดูแล้วไม่เหมาะกับตัวเอง หรือไม่ก็สังขารไม่น่าจะให้ (55) ที่ฝันใหม่ก็มีมาก และความฝันที่กัดไม่ปล่อยก็มี... ซึ่งฝันของเราแต่ละอย่างใช้ระยะเวลาประสบความสำเร็จนั่นแตกต่างกันอยู่ ดังนั้นก็ก้าวต่อ.. ชุ้นรู้แต่ว่าวันนี้โชคดีที่ยังมี "ลมหายใจ" จึงยังมีโอกาสได้ตามฝันของตัวเอง.. ต่อไป
#บันทึกของชุ้น
#MindAttitude
#keepyourpositivethoughts
ภาพ lessons taught by life

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา