EP.8 สรุปภาวะตลาดและมุมมองการลงทุน โดย บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) - เมษายน 2566
ภาพรวมตลาดในเดือนที่ผ่านมา – วิกฤติภาคธนาคารสหรัฐฯ ส่งแรงกระเพื่อมต่อภาวะการลงทุน และเศรษฐกิจโลก
- ภาพรวมตลาดกลับเข้าสู่สภาวะ Risk-off (ความเสี่ยงสูง) ในเดือนมีนาคม หลังจากวิกฤติที่เกิดขึ้นกับภาคธนาคารของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนมองความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในระยะต่อไปมีสูงขึ้น และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้ตลาดตราสารหนี้ให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดตราสารทุนในเดือนที่ผ่านมา
- สำหรับวิกฤติในภาคธนาคารของสหรัฐฯ ในครั้งนี้ เกิดจากวิกฤติความเชื่อมั่นในธนาคารพาณิชย์หลายแห่งที่มีฐานะทางการเงินแย่ลง ซึ่งเป็นผลพวงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างรวดเร็วของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ฝากเงินแห่ถอนเงินจากธนาคารที่มีปัญหาอย่าง Silicon Valley Bank (SVB), Silvergate Bank, Signature Bank จนเกิดสภาวะ Bank-run ขาดสภาพคล่องและถูกเข้าควบคุมกิจการโดยบรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC)
- แม้ว่าหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐฯ จะมีการออกนโยบายเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อภาคธนาคาร อาทิ การรับประกันเงินฝากทั้งหมดในภาคธนาคารเต็มจำนวน, การเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารที่มีปัญหา, และการชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ลง แต่ความไม่แน่นอนต่างๆทำให้สภาพคล่องยังคงตึงตัว ส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯในระยะถัดไป
- สำหรับเศรษฐกิจไทย ยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังจากช่วงโควิด แม้ภาคการส่งออกจะหดตัวจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง แต่ภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงเติบโต รวมถึงการบริโภคภายในประเทศที่ยังขยายตัวได้ เป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไป และมีมติเอกฉันท์ในการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 1.75% เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ตลาดตราสารหนี้ :
- แม้ว่า ธปท. จะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง 0.18% จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ที่ถูกกดดันจากวิกฤติที่เกิดขึ้นกับภาคธนาคารของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาล ด้านส่วนต่างอัตราผลตอบแทน (credit spread) อายุ 5 ปี อันดับความน่าเชื่อถือ A ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.02% ปิดที่ 1.26%
- สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้น 0.45% ปิดที่ระดับ 3.47% เป็นผลจากวิกฤติในภาคธนาคารของสหรัฐฯ ที่ทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่แย่ลงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะถัดไป ประกอบกับ Fed ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากเสถียรภาพของระบบการเงินที่แย่ลง ทำให้นักลงทุนคาดว่า Fed อาจจำเป็นต้องกลับมาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในช่วงครึ่งหลังของปี
ตลาดตราสารทุน :
- SET Index ณ สิ้นเดือน มี.ค. ปิดที่ระดับ 1,609 จุด ปรับลดลง 0.8% (จากเดือนก่อนหน้า) โดยช่วงครึ่งแรกปรับตัวลดลงอย่างมีนัยฯ จนทำระดับต่ำสุดของเดือนที่ 1,518 จุด ณ วันที่ 14 มี.ค. จากความกังวลเรื่องวิกฤติภาคธนาคารในฝั่งตะวันตก
อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งหลังของเดือน มี.ค. ดัชนีฯ เริ่มฟื้นตัวกลับมา หลังจาก Fed และธนาคารแห่งชาติสวิสต่างเข้ามาช่วยเหลือทางการเงินอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน ธปท. ได้ออกมายืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบจำกัดต่อธนาคารพาณิชย์ไทย ซึ่งมีฐานะทางการเงินแข็งแกร่งมาก จึงสร้างความมั่นใจกับนักลงทุนได้ในระดับหนึ่ง
- ■มุมมองการลงทุน
มุมมองการลงทุนตราสารหนี้ :
AIA Investments ยังคงให้น้ำหนักในการลงทุนในตราสารหนี้มากกว่าดัชนีชี้วัด เนื่องจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่มากขึ้นประกอบกับอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลงในระยะต่อไป อย่างไรก็ดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากแล้วในช่วงที่ผ่านมา และความผันผวนของตลาดตราสารหนี้ที่ปรับสูงขึ้นมาก จึงแนะนำให้รอและหาจังหวะเข้าซื้อเพิ่มเติมในช่วงที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับเพิ่มขึ้นไป
มุมมองการลงทุนตราสารทุน :
- มุมมองการลงทุนหุ้นในตลาดต่างประเทศ : AIA Investments ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงชะลอตัว ท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง นอกจากนี้ วิกฤติภาคธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรปล่าสุดได้เพิ่มโอกาสที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยมากขึ้น เนื่องจากธนาคารจะระมัดระวังต่อปัญหาหนี้เสีย ทำให้ลดการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อการใช้จ่ายโดยรวม ดังนั้น ยังคงมุมมองเชิงระมัดระวังต่อการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ
- มุมมองการลงทุนหุ้นในตลาดไทย: มองเป็นโอกาสซื้อสะสมหากดัชนีฯ ต่ำกว่า 1,600 จุด ซึ่งเป็นกรอบล่างที่ AIA ประเมินไว้ (1,550-1,750 จุด) โดยเชื่อว่าภาคการท่องเที่ยวยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักในการผลักดันให้เศรษฐกิจไทยปีนี้เติบโตต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ได้แก่ การเลือกตั้งรัฐบาลไทยที่จะเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2566 รวมถึงนโยบายหาเสียงของพรรคการเมือง
- ■คำแนะนำการลงทุน
ตราสารทุน : รักษาวินัยการลงทุน สะสมการลงทุนในตราสารทุนเพื่อเป้าหมายการลงทุนระยะยาว โดยทยอยปรับสัดส่วนการลงทุนเข้าสู่เป้าหมายระยะยาว
ตราสารหนี้ : ตลาดยังมีความผันผวนสูง ควรรักษาสภาพคล่องเพื่อหาจังหวะทยอยลงทุนในตราสารทุน ในขณะเดียวกัน ยังควรถือตราสารหนี้เพื่อจำกัดความผันผวนของพอร์ตการลงทุน
แหล่งข้อมูล: “สรุปภาวะตลาดและมุมมองการลงทุนประจำเดือนเมษายน 2566” โดย AIA Investments และ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ทั่วไป ผู้ใช้ต้องใช้ความระมัดระวังด้วยวิจารณญาณและรับผิดชอบในความเสี่ยงต่างๆ ด้วยตนเอง
เริ่มวางแผนการเงินระยะยาว กับบริการผู้เชี่ยวชาญช่วยดูแลการลงทุน AIA InvestPro และ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย)
ผ่านกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน เอไอเอ ยูนิต ลิงค์ ที่เหมาะกับคุณได้แล้ววันนี้
ติดต่อตัวแทน เอไอเอ หรือดูรายละเอียดได้ที่ : https://www.aia.co.th/th/our-products/save-invest/unit-linked
คำเตือน:
ผู้ขอเอาประกันภัยควรทำความเข้าใจรายละเอียด เงื่อนไข ความคุ้มครองและข้อยกเว้นก่อนตัดสินใจทำประกันภัย รวมทั้งศึกษาทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต / ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
ติดตาม Community AIA Thailand ได้ที่ https://www.blockdit.com/topics/6322a4b8ae66c7433c8d5007
- 6
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
