2 พ.ค. 2023 เวลา 01:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เมียนมาเร่งเครื่อง GDP ผลักดันยอดผลิตภัณฑ์มวลรวม

รัฐบาลเมียนมาได้ออกกฎหมายการวางแผนแห่งชาติปี 2566-2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศเมียนมาต่อหัว (GDP Per Capita) มีมูลค่ามากกว่า 2.45 ล้านจ๊าตต่อปี (ประมาณ 29,500 บาท : อัตราแลกเปลี่ยน 83 จ๊าตต่อ 1 บาท
ผลิตภัณฑ์มวลรวมเฉลี่ยของประเทศเมียนมา (GDP) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 400,000 จ๊าต ในปีงบประมาณ 2565-2566 ซึ่งรวมอยู่ในกฎหมายการวางแผนแห่งชาติที่ลงนามเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 และได้ประกาศบังคับใช้โดยประธานสภาบริหารแห่งรัฐ นายพลอาวุโส มิน อ่อง หล่าย
กฎหมายการวางแผนแห่งชาติมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2566 คาดว่าจะสามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์และบริการมวลรวมภายในประเทศเมียนมา (GDP) ร้อยละ 4.1 โดยในส่วนของภาครัฐจะลงทันโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชน มูลค่ามากกว่า 8,300 พันล้านจ๊าต
ในร่างล่าสุดของกฎหมายการวางแผนแห่งชาติปี 2565-2566 นี้ มีเป้าหมายให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเมียนมาโดยเฉลี่ยของแต่ละบุคคล (GDP ต่อหัว) เพิ่มขึ้นจาก 2,052,528 จ๊าต เป็น 2,222,230 จ๊าตต่อปี
ในกฎหมายการวางแผนแห่งชาติฉบับปัจจุบัน กำหนดอัตราส่วนมวลรวมของภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการ มีมูลค่ารวมของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศเมียนมาและบริการต่อปีสูงขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 2.5 ร้อยละ 4.8 และร้อยละ 6.7 ตามลำดับ
นอกจากนี้ กฎหมายการวางแผนแห่งชาติระบุไว้ว่า หากรัฐบาลเมียนมาตรวจสอบว่าโครงการใดไม่ก่อให้เกิดรายได้แก่ประเทศ โครงการนั้นอาจจะถูกปฏิเสธ ระงับ หรือได้รับการอนุมัติงบประมาณที่น้อยลง
ข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา
รัฐบาลเมียนมาตั้งเป้าหมายให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศเมียนมา (GDP ต่อตัว) เพิ่มขึ้นในแต่ละปี โดยออกกฎหมายการวางแผนแห่งชาติ และลงทุนในโครงการที่จะสร้างผลประโยชน์ต่อประเทศ ถือเป็นนโยบายสำคัญที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศเมียนมา
การที่รัฐบาลเมียนมาพยายามเข้ามาลงทุนในโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนชาวเมียนมา จะเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชน ซึ่งจะสอดคล้องกับกฎหมายการวางแผนแห่งชาติที่มีเป้าหมายให้รายได้ต่อหัว (GDP Per Capita) ของเมียนมาสูงขึ้นในอนาคต
Reference
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา
โฆษณา