17 พ.ค. 2023 เวลา 06:14 • ท่องเที่ยว
Mount Nemrut

Mt. Nemrut ซากเทวรูปบนยอดเขา [1]

ก่อนจะมุ่งหน้าสู่สถานที่เที่ยวที่อยากรีวิวมากที่สุด
มาเริ่มต้นกันที่มหากาพย์การเดินทางค่ะ
บทความที่แล้วเราอยู่กันที่กรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี
หลังจากเที่ยวมาทั้งวัน เย็นวันนั้นเราไม่ได้นอนหลับบนฟูกของโรงแรม
แต่นั่งรถบัสยาว 12 ชั่วโมง จาก Ankara สู่ Kahta
ที่ของจริงใช้เวลาเกือบ 14 ชั่วโมง แถมยังเกือบตกรถตั้งแต่แรกอีกต่างหาก
เรื่องราวเป็นมายังไงบ้าง มาดูกันค่ะ
จุดหมายปลายทาง Mt. Nemrut เข้ามาอยู่ในสายตาเราตั้งแต่แรกๆ ที่หาสถานที่เที่ยวทางฝั่งตะวันออกของตุรกี
แต่ว่าเคยโดนตัดทิ้งไปมากกว่าหนึ่งรอบ เพราะว่าเดินทางลำบากมากๆ
(เนื่องจากเราเริ่มต้นทริปที่แทรปซอน)
เอาเป็นว่าถ้าอยากมาเที่ยวที่นี่ เราพบว่าง่ายสุดคือต้องสตาร์ทที่อังการา เพราะที่นี่มีคมนาคมไปทั่วถึงทุกที่ ดังนั้นกรุงอังการาเลยเข้ามาในทริปเราด้วยเหตุนี้
ก่อนอื่นบอกก่อนว่าภูเขาเนมรุตเนี่ย เมืองใหญ่ที่อยู่ใกล้มันที่สุดคือเมืองชื่อ Adiyaman
การเดินทางที่รวดเร็วที่สุด คือนั่งเครื่องบินมาลงเมืองนี้ แล้วนั่งรถต่อไปยังเมือง Kahta ซึ่งเป็นเมืองฐานการเดินทาง อยู่ใกล้กับภูเขามากที่สุด
อีกตัวเลือกคือเดินทางไปยังเมืองชื่อ Malatya โรงแรมในเมืองนี้จะมีจัดทัวส์มาเที่ยวภูเขาเหมือนกัน แต่ว่ามันอยู่ห่างจากเมืองคาทามาก จะสามารถเลือกขึ้นภูเขาได้เวลาเดียว
หรืออีกทางที่เราเห็นตอนหาข้อมูล คือเห็นว่าจาก Cappadokia จะมีทัวส์ one day มาเที่ยวภูเขาอยู่เหมือนกันนะคะ ใครอยู่เมืองบอลลูนแล้วอยากแวะมาที่นี่ด้วยก็แนะนำรูทนี้เลยค่ะ แต่น่าจะได้เที่ยวเวลาเดียวเหมือนกัน
อะไรเรียกเวลาเดียว? ปกติคนที่เที่ยวภูเขาเนมรุตจะเลือกกันว่าจะไปดูพระอาทิตย์ตกดิน หรือพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ
ถ้าต้องการเก็บทั้งสองเวลา จะต้องมาพักที่เมืองคาทาเท่านั้น ไม่งั้นเดินทางไม่ทัน
แล้วจำเป็นต้องเก็บทั้งสองเวลาไหม? ถ้าเลือกได้เวลาเดียวเวลาไหนดีกว่า? สามารถอ่านความคิดเห็นของเราได้ในตอนจบของรีวิวที่เที่ยวนี้ค่ะ
ตอนนี้จบการเกริ่นเท่านี้ มาดูการเดินทางของเรากันค่ะ
เราเลือกเดินทางโดยรถบัส และเลือกที่จะจองออนไลน์มาเลยผ่านเว็บไซต์ Busbud เวลาที่บอกตามในเว็บคือเดินทาง 12 ชั่วโมง ออกเดินทางตอน 20:29 น.
เดินทางกับรถทัวส์ของ Adıyaman Ünal Turizm ค่ารถอยู่ที่ 400TRY ค่ะ
หลังจากขนกระเป๋าจากโรงแรม เราก็เดินทางสู่ท่ารถของอังการา
ท่ารถที่นี่ใหญ่มากค่ะ มี 'มากกว่า 1 ชั้น ประตูทางออกมากกว่า 100 เบอร์'
ต้องเน้นเรื่องนี้เพราะอะไร เพราะตอนแรกเราไม่รู้ค่ะ
ในใบจองตั๋วรถจากเว็บจะมีรายละเอียดทุกอย่างบอกอยู่แล้ว บอกถึงว่าต้องไปรอที่ท่ารถหมายเลขอะไร ซึ่งในตั๋วเราเขียนว่าท่ารถเบอร์ 34
แต่เราก็ไม่ได้เชื่อถือขนาดนั้น ตอนถึงท่ารถเราก็ถามที่ประชาสัมพันธ์เลยว่ามันต้องขึ้นที่ท่ารถหมายเลขนี้ใช่ไหม
เขาก็บอกเลขตัวนึงมา จะเป็นเลขเคาเตอร์ของบริษัทรถทัวส์ คือคนที่ประชาสัมพันธ์ตั้งใจให้เราไปถามกับบริษัทรถทัวส์แหละ แต่เราฟังผิด พอเดินไปตามหมายเลขที่เขาบอกเลยไม่เจอกับบริษัทรถทัวส์นั้น
เคาเตอร์รถทัวส์ที่นี่มีเยอะมากๆ ค่ะ เราหาไม่เจอ ก็เลยเดินวนหาจนทั่วด้วยตัวเอง ก็ไม่เจออยู่ดี สุดท้ายจนปัญญา เลยเดินเอาตั๋วไปสุ่มถามคนขับรถ ถามมากกว่าหนึ่งคนด้วย เขาก็บอกกันว่ารอตรงนี้แหละๆ
เราก็โอเค งั้นก็ตามนั้นนะ
แต่มันมีลางสังหรณ์บางอย่างบอกเราว่ามันไม่ใช่อะค่ะ 5555 คือนั่งไม่ติดเลย ต้องเดินออกไปดูตลอดเวลาว่ารถมาหรือยัง
และลางสังหรณ์ก็แม่นมาก เพราะถึงเวลารถมาแล้ว เลยไปมากกว่า 10 นาทีแล้ว ก็ยังไม่เห็นรถคันของเรามาเทียบท่าค่ะ
เรากระวนกระวายมากกกก ก็เลยกลับไปถามประชาสัมพันธ์อีกครั้ง
คราวนี้เขาเขียนหมายเลขลงกระดาษให้ เราเลยเจอกับเคาเตอร์ของบริษัทรถทัวส์นี้ในที่สุด
ตอนที่คนของรถทัวส์เห็นเราไปถามก็ตกใจมาก ร้อนใจกว่าเราไปอีก
หยิบตั๋วเราไปปั๊มเปลี่ยนเป็นท่ารถเบอร์ 117
แล้วบอกให้เรารีบไปหยิบกระเป๋า ตามเขาไปทันทีเลย
เราก็ลนตาม พอคว้ากระเป๋ามาถึง เขาก็พาวิ่งขึ้นไปชั้นสอง
เราถึงเพิ่งรู้วินาทีนี้นี่แหละค่ะว่าท่ารถมีสองชั้น และรถเราจอดอยู่ชั้นสอง
จังหวะที่ได้ขึ้นรถแล้วยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เราพบว่ามันเลทกว่าเวลาไปเกือบ 25 นาทีแล้วค่ะ
วินาทีนั้นคือขอบคุณรถทัวส์มากๆ ที่ยังรอ แล้วก็รู้สึกผิดกับคนอื่นมากๆ ด้วย แต่ที่มากที่สุดคือความดีใจที่สุดท้ายรอดมาได้ค่ะ
ตอนนั้นมองจันทร์พลางคิดในใจว่าทำไมรถทัวส์เรายังไม่มาอีกน้อ
รีวิวรถทัวส์นิดนึง ส่วนตัวเราว่าความสบายโอเคเลยค่ะ
บริการก็ดี จะมีพนักงานคอยเดินแจกน้ำ ชา หรือกาแฟอยู่เรื่อยๆ
ที่ไม่ได้กว้างขวางมาก ก็ขนาดตามปกติ แต่ไม่อึดอัดค่ะ
ตรงหน้าจะมีหน้าจอให้เล่นเกมได้ด้วย
หลังจากขึ้นมาไม่นานเราก็หลับแล้วค่ะ
ตื่นเป็นช่วงๆ เวลารถจอดพัก
แต่ต้องนั่งยาวมากกว่าสิบชั่วโมง ยังไงก็ทรมานมากค่ะ
ใครเอวไม่ดี กระดูกกระเดี้ยวไม่ดี หาทางอื่น อย่าทรมานตัวเองขนาดนี้เลยค่ะ
อาจเพราะว่ามีการจอดหยุดเป็นพักๆ แวะให้คนลง รับคนขึ้นตามเมืองต่างๆ
บวกกับสภาพการจราจร ดังนั้นจากจำนวนชั่วโมง 12 ชั่วโมง
เลยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมาจบลงที่เกือบ 14 ชั่วโมงค่ะ
อ้อ ลืมบอกไปเรื่องนึง
ตอนที่ขึ้นรถ จะมีพนักงานเดินมาถามเช็คเมืองที่จะลงค่ะ
ทีนี้โรงแรมที่คาทาที่เราจองไว้ บอกกับเราว่าให้บอกกับพนักงานเลยว่าให้แวะจอดหน้าโรงแรมด้วย ตอนที่พนักงานเดินมาถาม เราก็เลยบอกเขาไปตามนั้นค่ะ
เขาก็โอเครับรู้ ดังนั้นในตอนที่มาถึงในที่สุด รถทัวส์เลยจอดหยุดอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามโรงแรมให้ค่ะ
ซึ่งกว่าจะมาถึงตรงนี้ จากคนเต็มรถทัวส์ ตอนนี้เหลืออยู่แค่ 3-4 คนเท่านั้นเองค่ะ
วิวแถวเมือง แห้งแล้งมาก
เรื่องโรงแรมก็เป็นอีกประเด็นที่จะไม่พูดถึงไม่ได้
นักท่องเที่ยวที่มาเมืองคาทา หลักๆ มาเที่ยวภูเขาเนมรุตกันทั้งนั้นแหละค่ะ
ดังนั้นโรงแรมที่เมืองนี้จะเป็นโรงแรมทัวส์เนมรุตไปในตัว
เราไม่แน่ใจว่ามีกี่ที่ให้เลือก แต่ตอนที่เราหาข้อมูล เราเจอโรงแรมนี้เด่นสุดค่ะ ชื่อว่า Kommagene Nemrut Tour
การจองโรงแรมนี้ต้องทัก Whatsapp ไปนะคะ
+90 532 200 38 56
ก็บอกเขาไปว่าสนใจทัวส์ Nemrut อยากทราบข้อมูล
ในตอนที่เราไป ค่าโรงแรม + ค่าทัวส์ขึ้นเขาสองรอบ อยู่ที่ 95 EUR/คน ค่ะ
ซึ่งทัวส์ที่ว่าไม่ใช่แค่ขึ้นเขาอย่างเดียวจบนะคะ
ถ้าเป็นทัวส์อาทิตย์ตกดิน จะเริ่มทัวส์ตั้งแต่ 14:00 น. กลับถึงโรงแรมอีกทีราว 21:00 น. ส่วนทัวส์อาทิตย์ขึ้น จะเริ่มทัวส์ตั้งแต่ 04:00 น. กลับถึงโรงแรม 09:00 น.
รายละเอียดตรงนี้ เดี๋ยวจะมาเล่าอีกทีค่ะ
ตอนแรกตั้งใจว่าตอนเดียวจบเหมือนที่เที่ยวอื่น
แต่แค่รายละเอียดการเดินทางก็ยาวแล้ว
เที่ยวจริงเรายังแวะอีกหลายที่ เพราะงั้นมาต่อกันตอนหน้านะคะ
* ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2023 เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ตุรกี ถึงแม้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวจะอยู่ห่างออกไป และตัวเมืองไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ยังไงแนะนำให้หาข้อมูลให้มากนะคะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา