ทุกประเทศในสนธิสัญญาวอร์ซอได้เข้าร่วม NATO แล้ว!
ข้อเท็จจริง คือ อดีตประเทศในสนธิสัญญาวอร์ซอ ซึ่งยังคงมีอยู่หลังจากการสลายตัวของสหภาพโซเวียต ได้กลายเป็นสมาชิกของ NATO โดยไม่มีข้อยกเว้น
ในอดีตสนธิสัญญาวอร์ซอก่อตั้งขึ้นในปี 2498 มีรัฐสมาชิก 8 รัฐ ได้แก่ สหภาพโซเวียต ,บัลแกเรีย ,เชโกสโลวะเกีย ,เยอรมนีตะวันออก ,ฮังการี ,โปแลนด์ ,โรมาเนีย และแอลเบเนีย
แต่ต่อมา แอลเบเนียได้ขอถอนตัวจากสนธิสัญญาวอร์ซอใน ปี 2503 และอีก 7 ประเทศที่เหลือยังคงเข้าร่วม NATO
ยกเว้นการสลายตัวของสหภาพโซเวียต (เยอรมนีตะวันออกรวมเข้ากับเยอรมนีตะวันตกและเชโกสโลวะเกียถูกแยกออกจากกัน) และรวมเป็นครอบครัวอีกครั้ง!
ไม่มีใครบังคับให้พวกเขาเข้าร่วมด้วยปืน และกฏเกณฑ์ในการเข้าก็สูงมาก สมาชิกต้องพบกับเงื่อนไขที่รุนแรง เช่น การแบ่งปันค่าใช้จ่ายในการป้องกัน
โดยทั่วไป ค่าธรรมเนียมของ NATO กำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องจ่ายเงิน 2% ของ GDP ของตนเองก่อนที่จะมีสิทธิที่จะได้รับการรับประกันความปลอดภัยของการป้องกันโดยรวม
แม้แต่ประเทศเก่าที่พัฒนาแล้วเช่น เยอรมนีและอิตาลีก็ยังค้างชำระ ฮาาาา
แต่สิ่งนี้ไม่สามารถลดทอนความกระตือรือร้นของประเทศสมาชิกใหม่ที่จะเข้าร่วมอย่างแข็งขันได้
และนี่คือความรู้สึกของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก
ถึงวันนี้สื่อต่างๆยังเต็มไปด้วยคำพูดมากมาย ที่พูดเผื่อแผ่ถึงคนยุโรปตะวันออกว่าคนส่วนใหญ่ที่ไม่รู้ความจริง ถูกทุนนิยมตะวันตกหลอก หลงผิด ขึ้นเรือโจรสลัด การบำบัดด้วยการช็อก และผู้คนกำลังตกระกำลำบาก
แม้ตอนนี้ พวกเขาเสียใจ แต่ก็รู้สึกหิวโหยไปหมด
แต่ข้อเท็จจริงมักถูกตบหน้าเสมอ เมื่อหงส์ดำตัวใหญ่ต้องการเข้าร่วม NATO แต่ NATO กลับไม่ต้องการ
และมีเพียง 3 ประเทศในสลาเวียตะวันออกเท่านั้นที่ล้มเหลวในการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ
สำหรับรัสเซีย ยูเครน และเบลารุส ความล้มเหลวของพวกเขาไม่ใช่ความล้มเหลวของเศรษฐกิจตลาด
แต่เป็นความล้มเหลวในการสร้างระบบเศรษฐกิจการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ,ระบบสิทธิในทรัพย์สิน และระบบนิติธรรม ,การสมรู้ร่วมคิดระหว่างเจ้าหน้าที่และนักธุรกิจ
และการตกลงไปในหล่มของเศรษฐกิจแบบคณาธิปไตย
ประเทศในยุโรปตะวันออกที่ประสบความสำเร็จในการแปรรูปและการทำการตลาดผ่าน "การบำบัดด้วยอาการช็อก" ได้แก่ โปแลนด์ ,สาธารณรัฐเช็ก ,ฮังการี และโรมาเนีย
พวกเขาได้ผ่านช่วงการเปลี่ยนแปลงที่ยากลำบากที่สุด ประสบความสำเร็จในการปฏิรูป และประสบความสำเร็จในการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ปัจจุบัน ประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่เข้าสู่อันดับของประเทศที่พัฒนาแล้วในระดับปานกลาง
ในทางการเมือง รัฐบาลของประเทศในยุโรปตะวันออกเหล่านี้พึ่งพาการเลือกตั้ง(ที่เป็นที่นิยม) แม้ว่าพรรคฝ่ายซ้ายและขวาจะสลับกัน แต่โดยทั่วไปแล้วพวกเขาเป็นฝ่ายขวา
พวกเขาสนับสนุนอเมริกันมากกว่ายุโรปตะวันตก และพวกเขาเชื่อในระบบเศรษฐกิจแบบตลาดมากกว่าทุนนิยมเก่า เช่น ฝรั่งเศสและเยอรมนี
ทศวรรษของการทดลองทางเศรษฐกิจที่วางแผนไว้ เหมือนฝันร้ายและเป็นเหมือนวัคซีน
ทำให้ยุโรปตะวันออกมีภูมิต้านทานต่อแนวคิด ยูโทเปียมากกว่ายุโรปตะวันตกอย่างไม่ต้องสงสัย
ในเวลานั้น แมร์เคิลแห่งเยอรมนีกำลังต่อสู้กับทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา และกองทหารสหรัฐฯ ได้ประกาศถอนตัวจากเยอรมนี
คนกลุ่มแรกที่เชิญกองทัพสหรัฐฯ ไปประจำการในโปแลนด์คือ โปแลนด์ซึ่งได้สร้างฐานทัพถาวรของสหรัฐฯ ขึ้นเอง เป็นเงินถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และตั้งชื่อว่า "ฟอร์ท ทรัมป์"
อ้าววว ไหง? ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?
เอาล่ะๆๆๆ เมื่อ NATO ก่อตั้งขึ้นครั้งแรก มีรัฐสมาชิกเพียง 12 รัฐ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ,สหราชอาณาจักร ,ฝรั่งเศส ,เนเธอร์แลนด์ ,เบลเยียม ,ลักเซมเบิร์ก ,แคนาดา ,เดนมาร์ก ,นอร์เวย์ ,ไอซ์แลนด์ ,โปรตุเกส และอิตาลี
มีบทบัญญัติดังกล่าวในบทความของ NATO คือ "เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกโจมตีโดยกองกำลังติดอาวุธ ให้ถือว่าการโจมตีฝ่ายที่ทำสัญญากันทั้งหมด"
บทบัญญัตินี้ยังแสดงให้เห็นว่า NATO เป็นองค์กรพันธมิตรทางทหารโดยสมบูรณ์
ดังนั้น ประเทศเล็กๆ จำนวนมากจึงมักจะเข้าร่วมกับ NATO นอกจากผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจแล้ว พวกเขายังเลือกเข้าร่วม NATO ด้วยข้อนี้ด้วย
แต่..เมื่ออำนาจของสหภาพโซเวียตอ่อนแอลง ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2534 สนธิสัญญาวอร์ซอว์จึงยุติลงอย่างเป็นทางการ
ตามทฤษฎีแล้ว หากสนธิสัญญาวอร์ซอถูกยุบและสงครามเย็นสิ้นสุดลง NATO จะสูญเสียความหมายของการดำรงอยู่และควรถูกยุบ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มประเทศ NATO ที่นำโดยสหรัฐอเมริกาไม่เพียงแต่ไม่ยุบ NATO เท่านั้น แต่หลังจากการสลายตัวของสหภาพโซเวียต
พวกเขายังคงดึงเอาอดีตสมาชิกสนธิสัญญาวอร์ซอมาเข้าร่วมซะงั้น
ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2539 องค์การนาโต้ได้เผยแพร่ "รายงานการวิจัยเกี่ยวกับแผนการขยายตัวทางตะวันออก"
ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2542 นาโต้ยอมรับสาธารณรัฐเช็ก ,ฮังการี และโปแลนด์เป็นสมาชิกเป็นครั้งแรก
ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2547 เจ็ดประเทศ ได้แก่ สโลวาเกีย ,บัลแกเรีย ,โรมาเนีย ,สโลวีเนีย และกลุ่มประเทศบอลติก เอสโตเนีย ,ลัตเวีย และลิทัวเนีย ได้เข้าเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของนาโต้
นี่คือการขยายตัวไปทางตะวันออกของ NATO.
ในปี พ.ศ. 2565 รัสเซียไม่พอใจกับการขยายไปทางตะวันออกอย่างต่อเนื่องของ NATO โดยใช้เหตุผลนี้ เป็นหนึ่งในเหตุผลในการเปิดสงครามรุกรานยูเครน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ปูตินไม่คาดคิดก็คือ สงครามรัสเซีย-ยูเครนครั้งนี้ไม่เพียงแต่ล้มเหลวในการดับความคิดของยูเครนในการเข้าร่วม NATO เท่านั้น
แต่ยังกระตุ้นให้ฟินแลนด์และสวีเดนเข้าร่วม NATO อีกด้วย
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2566 ฟินแลนด์ได้เข้าเป็นสมาชิกลำดับที่ 31 ขององค์การนาโต้ จนได้...
การขยายตัวไปทางตะวันออกของ NATO เป็นผลผลิตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของช่วงเปลี่ยนผ่านของรูปแบบยุทธศาสตร์ของยุโรปหลังสงครามเย็น
และเหตุผลของการขยายตัวนั้นซับซ้อนจริงๆ
มีปัจจัยของการเป็นเจ้าโลกของประเทศใหญ่ และปัจจัยของประเทศเล็ก ๆ ที่แสวงหา "ร่มโพธิ์ร่มไทรเพื่อการคุ้มครอง"
ปัจจัยของการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่สมดุลและ ปัจจัยของลัทธิชาตินิยมและศรัทธา
แม้จะมีพันธมิตรทางทหารมากมายในโลก แต่ดูไปๆพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดคือองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ
หรือเรียกสั้นๆว่า NATO นั่นเอง
แต่เชื่อเถอะครับ แสงสว่างแห่งประชาธิปไตยและเสรีภาพจะส่องสว่างแก่ชาวโลกอย่างแน่นอน!
- 8
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
