28 พ.ค. 2023 เวลา 04:10 • ประวัติศาสตร์

การตายอันแปลกประหลาดในยุควิกตอเรีย

คนยุควิกตอเรียหมกมุ่นและให้ความสำคัญกับการตายมาก เพราะในสมัยนั้นคนตายง่าย ตายเยอะ และตายกันตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะโลกในยุควิกตอเรียนั้นอันตรายเกินกว่าที่เราจะคาดคิด ซึ่งแตกต่างจากยุคปัจจุบันที่เรามีชีวิตอยู่
ปัจจัยที่ส่งผลต่ออัตราการตายที่สูงมาจากหลายสาเหตุ เช่น ประชากรที่อาศัยกันอยู่อย่างหนาแน่นแออัดคับแคบ หรือการไร้สุขลักษณะ จึงเป็นสาเหตุทำให้โรคแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
มิหนำซ้ำ ที่มาของความตายในยุคนั้นบางครั้งยังแปลกประหลาดเกินที่เราจะคาดถึง ซึ่งมีการจดบันทึกให้คนรุ่นหลังอย่างเราได้รับรู้เรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ยุควิกตอเรีย
มาดูกันว่าสาเหตุที่นำมาซึ่งการตายที่ประหลาด ๆ เกิดจากกรณีใดบ้าง ซึ่งคัดสรรมาให้อ่านกัน 4 กรณีพอหอมปากหอมคอ
  • ตายเพราะหนู
พอขึ้นหัวข้อเช่นนี้ คนอ่านคนจะนึกสงสัยว่าไปทำอิท่าไหนถึงตายเพราะหนู และคงจะจินตนาการไปต่าง ๆ นานา เรื่องมีอยู่ว่า…
ในปี 1875 หนังสือพิมพ์ The Manchester Evening News รายงานข่าวการเสียชีวิตของชายหนุ่มผู้หนึ่ง โดยเล่าว่าที่โรงงานแห่งหนึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของลอนดอน ประเทศอังกฤษ ได้ปรากฏมีหนูตัวหนึ่งจู่ ๆ ก็โผล่ออกมาวิ่งปรู้ดบนโต๊ะทำงาน จึงทำให้คนงานตื่นตกใจกลัวกัน และเกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายขึ้น
คนงานชายผู้กล้าหาญผู้หนึ่งพยายามคว้าจับหนูที่กำลังจะหนีไป แต่พอจับได้แล้วในจังหวะที่เขาจะกลายเป็นฮีโร่ของคนงานผู้หญิงที่พากันแตกตื่นวิ่งหนีกันกระจัดกระจาย หนูตัวนั้นดันวิ่งหนีหลุดรอดมือเขาไปได้ แต่แทนที่มันจะวิ่งหนีไปที่อื่น เจ้าหนูผู้น่าสงสารที่คงจะตกใจพอกันจึงวิ่งเข้าไปในชายแขนเสื้อของชายหนุ่มผู้นั้น แล้วมุดวิ่งเข้าไปในตัวเสื้อ และวิ่งโผล่ออกออกมาทางคอเสื้อ
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นก็คือ หนูตัวนั้นวิ่งเข้าไปในปากของชายผู้นั้นที่ที่กำลังอ้าอยู่เพราะตกใจอยู่ และที่ร้ายไปกว่านั้นคือเขาดันกลืนหนูตัวนั้นลงคอไป
มีความเชื่อกันมายาวนานว่าหนูจะอยู่ได้ไม่นานถ้าขาดอากาศหายใจหรือมีอากาศเพียงน้อยนิด ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็กลายเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะพอขาดอากาศเจ้าหนูที่น่าสงสารจึงพยายามหาทางออก มันฉีกและกัดลำคอของชายผู้เคราะห์ร้ายนั้น และพยายามกัดส่วนข้างในช่องอกออกมา
ผลลัพท์ก็คือ ชายผู้นั้นเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นานด้วยลักษณาการที่ทุกข์ทรมานอย่างน่าสยดสยอง แต่ไม่ได้มีข่าวรายงานต่อว่าชะตากรรมของหนูตัวนั้นเป็นเช่นไร
1
ที่มา: The London Death
  • ตายเพราะโลงศพ
ในปี 1872 หนังสือพิมพ์ The Illustrated Police News รายงานข่าวการตายของชายที่มีชื่อว่าเฮนรี เทย์เลอร์
ชายผู้นี้มีอาชีพถือผ้าคลุมหีบศพในสุสานที่ชื่อ Kensal Green Cemetery ของกรุงลอนดอน ซึ่งในวันที่เกิดเหตุเขาได้ทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบของตนในงานพิธีศพ
ในระหว่างทางที่หีบศพแบกเข้าไปในสุสาน บังเอิ๊ญบังเอิญเขาเดินสะดุดก้อนหินระหว่างทางล้มลง ในระหว่างที่เขากำลังจะล้มลงไปที่พื้นนั้น คนแบกโลงศพคนอื่น ๆ ดันพากันปล่อยโลง โลงจึงหล่นลงไปทับเฮนรีที่น่าสงสารที่ล้มคว่ำอยู่ (แต่อีกแหล่งข่าวบอกว่าเขาสะดุดก้อนหินล้มหงายหลังลง แล้วเหล่าคนแบกโลงคนอื่น ๆ ก็ทำโลงลื่นไปทับหัวของเฮนรี)
บรรดาผู้มาไว้อาลัยในงานศพต่างเห็นเหตุการณ์นี้ต่อหน้าต่อตาจึงพากันตื่นตกใจโกลาหล ภรรยาม่ายของชายผู้ตายที่อยู่ในโลงที่กำลังจะถูกนำไปฝังช็อกจนแทบควบคุมสติไว้ไม่อยู่
และก็เช่นเดิม แหล่งข่าวไม่ได้รายงานว่าเขาทำอย่างไรกับศพของเฮนรี ว่าถูกนำไปประกอบพิธีทางศาสนาก่อนหรือจะถูกฝังในสุสานนั้นเลย
อุบัติเหตุอันนำมาซึ่งความตายนี้มีภาพวาดจำลองเหตุการณ์ไว้ดังภาพประกอบของหนังสือพิมพ์ที่รายงานข่าวด้านบน
  • ตายเพราะผมตัวเอง
ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในเขตลินคอล์นไชร์ มีหญิงสาววัย 30 ปีผู้หนึ่งมีอาการป่วยหนัก ซึ่งแพทย์หาสาเหตุของอาการป่วยไม่ได้ และได้สร้างความงงงันให้กับแพทย์มาก
เมื่อหญิงผู้นั้นสิ้นชีวิตลงอย่างลึกลับ แพทย์จึงได้ขออนุญาตจากบรรดาญาติ ๆ ทำการชันสูตรศพ ไม่ว่าจะเดาสาเหตุการป่วยหรือสาเหตุการเสียชีวิตไปต่าง ๆ นานาอย่างไร สิ่งที่ค้นพบจากการชันสูตรศพนั้นเป็นคนละเรื่องกับที่คนคาดเดากันไป
สิ่งที่แพทย์พบในกระเพาะอาหารของหญิงสาวผู้นั้นคือก้อนสีดำแข็ง ๆ ที่เกิดมาจากผมของมนุษย์ มีน้ำหนัก 2 ปอนด์ หรือเกือบหนึ่งกิโลกรัม และมีรูปร่างหน้าตาเหมือนเป็ดสีดำที่มีคอยาวมาก ๆ
สำนักข่าว Liverpool Daily Post รายงานข่าวในปี 1869 ว่าเจ้าก้อนผมที่แข็งตัวนี้ทำให้กระเพาะอาหารหนาขึ้นและเกิดการเน่าเปื่อย และกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต
พอมีการสอบสวนเกิดขึ้น น้องสาวคนหนึ่งของผู้ตายเล่าว่าในช่วง 12 ปีที่ผ่านมาพี่สาวมีนิสัยชอบกินผมของตัวเอง เรื่องเลยเป็นเช่นนี้แล
  • ตายสองศพเพราะอยากลอง
ในปี 1881 นายจ้างผู้หนึ่งได้ขอให้คนรับใช้ของเขานำปืนที่เก็บไว้มาให้หน่อย เพราะตั้งใจจะนำไปให้เป็นของขวัญแก่คนผู้หนึ่ง
ไอ้คนรับใช้ผู้นี้มีชื่อว่า เฮก ซึ่งออกจะหัวทึ่ม จึงไปนำเอาปืนพกลูกโม่นั้นมาให้แก่นายจ้างของเขา ระหว่างที่หยิบปืนขึ้นมาเขาตัดสินใจว่าจะลองทดสอบดูสักหน่อย
แต่จะด้วยเหตุผลกลใดไม่อาจทราบได้ ซึ่งคนที่รู้ดีมีเพียงคนรับใช้ผู้นี้เท่านั้น เฮกยกปืนขึ้นหันใส่หน้าตัวเองในขณะที่ลองตรวจสอบกลไกของไกปืน เขาเหนี่ยวไกปืนจึงยิงใส่หน้าตัวเองไปโดนทางปาก ผลของการลองตรวจสอบนี้คือเขาตายทันทีเพราะพิษบาดแผลจากการถูกปืนยิง(ตัวเอง)
คนรับใช้อีกคนเห็นเหตุการณ์นี้ต่อหน้าต่อตา จึงโทรเรียกตำรวจ เมื่อตำรวจมาถึงเธอจึงหยิบปืนมาสาธิตให้ตำรวจดูว่าเกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร
เธอทำเหมือนกับที่เฮกทำเป๊ะ ๆ เธอหยิบปืนขึ้นมา ชี้ปลายกระบอกปืนไปที่หน้า และก็ลองเหนี่ยวไกดู ก็ปรากฏว่าไกปืนทำงานได้ปกติ ลูกปืนจึงยิงทะลุเข้าปากเธอไป เธอกลายเป็นศพเช่นเดียวกับเฮก
การสาธิตของคนรับใช้หญิงผู้นี้ได้สร้างความกระจ่างแจ้งแก่ตำรวจว่าเฮกตายอย่างไร แต่ไม่มีการรายงานว่าตำรวจและนายจ้างมีความเห็นเช่นไรต่อเหตุการณ์นี้ แต่ที่พอจะเดาได้คือนายจ้างคงไม่ได้นำปืนนั้นให้เป็นของขวัญใครแล้ว และคงต้องรับคนรับใช้ใหม่ทีเดียวสองคน แต่คงต้องใช้วิจารณญาณคัดคนรับใช้ให้ฉลาดขึ้นกว่าเดิม
อ้างอิง:

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา