22 พ.ค. 2023 เวลา 09:39 • การเมือง

เส้นทางของ “ปริโกซิน” จนถึงวันที่ยึดบัคมุตได้ และการงัดกับ “ชอยกู” ส่งผลอย่างไร

การสู้รบใน “สมรภูมิบัคมุต” หรือ “ปฏิบัติการเครื่องบดเนื้อบัคมุต” น่าจะได้ข้อสรุปกันแล้ว เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทางฝั่งรัสเซียได้ประกาศชัยชนะโดยสมบูรณ์เหนือ Artyomovsk “อาร์โยมอฟสค์” ชื่อในสมัยยุคโซเวียตของเมืองบัคมุต
1
เริ่มจากตอนเที่ยงของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น “ปริโกซิน” ออกมาประกาศก่อน แล้วตามด้วยคำแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมรัสเซียซึ่งมี “ชอยกู” เป็นรัฐมนตรี ในขณะที่ตอนนั้นทางยูเครนยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ แต่ในท้ายที่สุดเมื่อวันอาทิตย์ช่วงบ่ายๆ “เซเลนสกี” ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุม G7 ที่ฮิโรชิมาในญี่ปุ่น ได้ออกมาพูดเองว่า “บัคมุตจะอยู่ในใจเรา” แสดงท่าทีแล้วว่ายอมรับการพ่ายแพ้
2
สามารถอ่านเรื่องราวทั้งหมดของข้อสรุป “สมรภูมิบัคมุต” ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
ถ้าใครติดตามข่าวสงครามในยูเครนมาเป็นประจำ จะทราบดีว่ามีความไม่ลงรอยหรือ “ไม่กินเส้นกัน” ที่เห็นประจักษ์ออกสื่อ ระหว่างรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย “เซอร์เกย์ ชอยกู” กับ หัวหน้ากลุ่มวากเนอร์ “เยฟกินี ปริโกซิน” เรื่องหลักๆที่เป็นกระแสข่าวช่วงที่ผ่านมาซึ่งเกี่ยวข้องกับการรบที่บัคมุตคือ การไม่ส่งกระสุนและเสบียงมาให้เพียงพอต่อกลุ่มวากเนอร์ จนปริโกซินทนไม่ไหวต้องออกมาแฉทางส่วนกลางรัสเซียก็หลายครั้ง ทางเพจเคยเสนอเรื่องนี้เป็นระยะก่อนหน้านี้
1
พอดีไปอ่านเจอบทความหนึ่งน่าสนใจอธิบายเกี่ยวกับเรื่องเกาเหลากันของสองคนนี้ แต่ต้องบอกก่อนนะครับว่าเป็นบทความที่เขียนโดยกลุ่มสืบสวนโอเพ่นซอร์สของทางตะวันตก คือ Bellingcat จากเนเธอร์แลนด์ และ Der Spiegel สื่อของเยอรมนี ดังนั้นทางเพจอยากให้เปิดใจอ่านและย้ำอีกครั้งว่า “ฟังหูไว้หู” บทความที่อ่านอยู่นี้ไม่ใช่รายงานข่าวแต่เป็นรายงานแนวสืบสวนเชิงการเมือง
3
ความบาดหมางระหว่าง “ปริโกซิน” เจ้าของบริษัททหารรับจ้างเอกชนวากเนอร์ และผู้นำกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ลุกลามถึงจุดสูงสุดที่ผ่านมา โดยเขาได้ทำการบันทึกวิดีโอและโพสต์ออนไลน์ โดยเขาแฉและโทษทั้ง เกราซีมอฟ [แม่ทัพกองทัพที่ทำการรบในยูเครน] และ ชอยกู [รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย] สำหรับความล้มเหลวของกองทัพ และพาดพิงถึงโดยใช้คำว่า “ปู่ที่มีปัญหา” (ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นการพูดโจมตีผู้บัญชาการทหารบก)
2
ความขัดแย้งแบบออกสื่อนี้ถือเป็นจุดสูงสุดของละครการเมือง ซึ่งพ่อครัวของปูติน [ฉายาของปริโกซิน] ได้ตั้งเป้าหมายที่จะแข่งขันกับ GRU เพื่อแย่งชิงทรัพยากร [GRU คือ หน่วยข่าวกรองทางทหารของรัสเซีย] เป็นไปได้ว่าความขัดแย้งที่ปรากฏในที่แจ้งแบบนี้อาจส่งสัญญาณถึงการล่มสลายของ “ปริโกซิน”
1
  • เรื่องราวเกิดขึ้นได้อย่างไร
กว่าสิบปีที่แล้วก่อนเกิดความขัดแย้งในยูเครน กระทรวงกลาโหมมีบทบาทสำคัญในการยกระดับความแข็งแกร่งและทำให้ “ปริโกซิน” เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ในตอนนั้นบริษัทที่มีเจ้าของเป็นเชฟโนเนมให้กับปูตินได้รับสัญญาจำนวนมากจากรัฐบาลเพื่อทำการจัดเลี้ยงรับรองให้กับกองทัพ แม้จะมีคุณภาพการบริการที่ย่ำแย่ เกิดอาหารเป็นพิษจำนวนมากในกองทัพ ถึงกับทำให้หน่วยข่าวกรองรัสเซีย FSB เริ่มดำเนินคดีอาญากับบริษัทของปริโกซิน - อ้างอิง: https://theins.ru/korrupciya/155969
3
เครดิตภาพ: Sergei Ilnitsky/AP
อย่างไรก็ตามการได้รับงานจำนวนมากจากกองทัพรัสเซียทำให้ “ปริโกซิน” มีเงินทุนเพียงพอสำหรับรันกิจการส่วนตัวเพิ่มซึ่งรวมถึงฟาร์มโทรลล์ (IO ที่เข้าไปแทรกแซงทางการเมือง) และแน่นอนรวมถึงบริษัททหารรับจ้างเอกชน (PMC) ที่ก่อตั้งโดยอดีตสมาชิก GRU และมีความเป็นนีโอนาซี ชื่อ Dmitry Utkin (ซึ่งใช้ชื่อเรียกขานว่า “Wagner” โดยเป็นชื่อของนักประพันธ์เพลงชาวเยอรมัน ซึ่งนิยมชมชอบในลัทธินาซี)
3
หลังลาออกจาก GRU ในปี 2013 Utkin พยายามต่อสู้ในซีเรียแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ อย่างไรก็ตามจากจุดเริ่มต้นของการรุกรานของยูเครน เขาได้นำ PMC ที่ตั้งขึ้นใหม่ซึ่งต่อมากลายเป็นที่รู้จักในชื่อ Wagner PMC โดยมีส่วนร่วมในการยึดไครเมียและดอนบัส
2
ถึงกระนั้นนักรบของ Wagner PMC หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Musicians” ก็ปฏิบัติการภายใต้การดูแลของ GRU พวกเขาได้รับการฝึกอบรมที่ฐานทัพรัสเซียและอนุญาตให้ใช้สนามบินทหาร ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของ GRU จะดูแลการกระทำของพวกเขาโดยตรงในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เช่น การดักฟังโทรศัพท์ในยูเครน Utkin (ใช้นามแฝงว่า Wagner) ได้รับคำสั่งจากเจ้าหน้าที่ GRU ที่ชื่อ Ivannikov
2
เครดิตภาพ: NY Post
“ปริโกซิน” ไม่ได้มองว่า Wagner PMC เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเองทั้งหมด และเขาไม่ได้ตั้งวัตถุประสงค์ทางด้านทหารของบริษัทไว้อย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้มองข้ามโอกาสที่จะทำกำไรจาก PMC ตัวอย่างเช่น ในแอฟริกานักรบของ PMC ช่วยให้คุ้มกันเส้นทางแร่ธาตุและอัญมณีมีค่าได้อย่างปลอดภัย และยังสร้างผลกำไรให้กับบริษัทของเขาอย่างมาก
2
วิสัยทัศน์ของ “ปูติน” ในการให้ PMC ของ “ปริโกซิน” ดำเนินการภายใต้การควบคุมที่ครอบคลุมของกระทรวงกลาโหม แต่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพรัสเซียอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบที่จะมาถึงรัฐบาลรัสเซียโดยตรง (รวมถึงอาชญากรรมสงครามจำนวนมาก) อย่างไรก็ตามแนวคิดนี้ก็ถูกมองว่าเริ่มต้นมาเจออุปสรรค 2 ประการ คือ
1
  • ประการแรก: ชาวอเมริกันถือว่า “กลุ่มวากเนอร์” ถูกชี้เป้าสำหรับการโจมตีไว้อย่างถูกต้อง ตามที่เห็นได้จากเหตุการณ์ Deir ez-Zor (ในซีเรีย) ซึ่งส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างมากสำหรับนักรบของกลุ่ม
  • ประการที่สอง: การขาดระเบียบวินัยทางทหารที่เหมาะสมทำให้เกิดปัญหาเมื่อ “กลุ่มวากเนอร์” จำเป็นต้องร่วมมือกับกองทัพประจำการ
2
แต่ท้ายที่สุดแล้วการขอถอนตัวออกมาของ Utkin อดีต GRU ผู้ก่อตั้ง Wagner PMC และให้ปริโกซินเป็นคนดูแลรับผิดชอบ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดจนถึงตอนนี้ บางกระแสก็บอกว่าเสนาธิการทหารรัสเซียพยายามที่จะใช้อำนาจควบคุมทหารรับจ้างมากขึ้น หรืออีกบางกระแสก็พูดกันว่าเกิดจากแรงจูงใจหลักเกี่ยวกับทางด้านธุรกิจที่ผลกำไรเข้าสู่เงินกองทุนของตัวเอง อย่างไรก็ตาม GRU เป็นผู้เริ่มก่อตั้ง PMC ของตนเอง
1
  • Wagner มีบริษัทคู่แข่ง?
รองหัวหน้า GRU นายพล Vladimir Alekseev เป็นหัวหอกในการจัดตั้ง PMC ใหม่ ซึ่งมีชื่อว่า “Redut” เขาแต่งตั้งเพื่อนร่วมงานที่สนิทของเขา Anatoly Karazii วัย 54 ปี ให้เป็นผู้นำบริษัททหารรับจ้างใหม่นี้ บางแหล่งให้ความเห็นว่า Karazi เกี่ยวข้องกับ Alekseev โดย Karazii มีความสนใจในการขับมอเตอร์ไซค์ และน้อยคนจะรู้ว่าเขาเคยเป็นหัวหน้าฝ่ายข่าวกรองของ Wagner PMC
1
Anatoly Karazii หัวหน้ากลุ่ม Redut PMC เครดิตภาพ: The Insider
  • สิงหาคม 2021 Karazii ปฏิบัติภารกิจอย่างกระตือรือร้นและเริ่มสอดแนมพื้นที่ฝึกในไครเมีย โวลโกกราด และทัมบอฟ เขาจัดหาผู้สมัครเป็นนักรบของกลุ่มจากทั้งใน “กลุ่มวากเนอร์” และจากผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมจากกองกำลังพิเศษ GRU ที่ 16 ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับ Tambov
  • มกราคม 2022 Karazii ได้คัดเลือกอดีต “นักรบวากเนอร์” หลายพันคนเพื่อให้ย้ายเข้าสังกัดใหม่ Redut PMC ได้สำเร็จ ทำให้ “ปริโกซิน” เดือดดาลเป็นอย่างมาก เขาต้องการคำอธิบายจาก Karazii โดยได้ขู่ไปว่าจะทำให้ Redut PMC “ปิดตัว”
1
แผนของนายพล Alekseev รองหัวหน้า GRU ได้วาดไว้ว่า จะให้ Redut PMC มีบทบาทชี้ขาดในช่วงแรกของปฏิบัติการพิเศษในยูเครน มีการเสนอว่านักรบกลุ่มนี้อาจรวมทีมกันในเคียฟ โดยมีภารกิจลอบสังหารประธานาธิบดีเซเลนสกีในวันที่เกิดการรุกราน ดังนั้น Wagner PMC ของปริโกซินจึงมีบทบาทลดลงในช่วงนั้น จากข้อมูลการโทรศัพท์พบว่า “ปริโกซิน” พยายามติดต่อกับนายพล Alekseev ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2022 แต่ไม่ได้รับสายและไม่มีการโทรกลับ แต่ปริโกซินก็สามารถต่อสายคุยกับ GRU ได้ในวันที่เริ่มปฏิบัติการ โดยคุยกันเพียงไม่ถึงสองนาที
2
  • 24 กุมภาพันธ์ 2022 นาย Alekseev คาดการณ์ถึงชัยชนะ แต่สิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ หน่วยงานพิเศษของตะวันตกและยูเครนรู้แผนการหลายอย่างของ GRU ล่วงหน้า ซึ่งทำให้กลวิธีเซอร์ไพรส์นั้นไร้ประโยชน์ (ลอบสังหารผู้นำยูเครน)
1
วันแรกของการบุกยูเครนจึงเกิดความสูญเสียอย่างย่อยยับสำหรับกองทหารรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ Redut ซึ่งถูกระบุว่าสูญเสียกำลังไปมากถึง 90% ด้วยเหตุนี้ GRU จึงสูญเสียการควบคุม PMC ที่ตั้งขึ้นใหม่ภายในเวลาไม่กี่วัน แม้ว่า GRU จะไม่ได้ละทิ้งแนวคิดเกี่ยวกับ PMC ใหม่ แต่ก็ไม่สามารถฟื้นฟูให้กลับมาแข็งแกร่งได้อีกตั้งแต่นั้นมา
2
  • Wagner กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง
  • 19 มีนาคม 2022: “วากเนอร์” ภายใต้คำสั่งของปริโกซิน ได้เริ่มดำเนินการในยูเครน และในวันเดียวกันนั้นมีสายโทรเข้ามาหาปริโกซินจากนายพล Alekseev เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • เมษายน 2022: สถานการณ์เลวร้ายลงเนื่องจากการปิดล้อมเมืองเคียฟล้มเหลว และกองทหารถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังยูเครนตะวันออก ซึ่งพวกเขาต้องพัวพันกับสงครามชิงตำแหน่งที่ยืดเยื้อแทน อย่างไรก็ตามนี่เป็นโอกาสสำหรับ “ปริโกซิน” ในการเริ่มใช้ “ความสนิทสนมส่วนตัว” ของเขา ในการเข้าหาปูตินซึ่งในตอนนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากเมื่อเริ่มปฏิบัติการแล้ว
2
นี่เป็นเหตุให้เขาได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะว่าเขาเป็นเจ้าของกลุ่มวากเนอร์ และเริ่มรับสมัครนักรบอย่างเปิดเผยผ่านโปสเตอร์ตามท้องถนน โฆษณาในสื่อของรัฐ (ส่วนใหญ่ในระดับภูมิภาค) และยังได้รับอนุญาตให้เข้าไปในที่คุมขังเพื่อรับสมัครคัดเลือกนักรบวากเนอร์กันถึงในนั้น “เรียกว่าเส้นใหญ่มาก” เมื่อถึงฤดูร้อน เขาได้รวบรวมสมาชิกใหม่หลายพันคน รวมทั้ง “นักรบวากเนอร์รุ่นเดิม” ที่กลับมาจากแอฟริกา ซีเรีย และภูมิภาคอื่น
1
  • กันยายน 2022: รัสเซียอยู่ในโหมดตื่นตระหนกในขณะที่ยูเครนเปิดฉากตอบโต้ครั้งใหญ่ และปูตินถูกบังคับให้ประกาศระดมพล แม้ว่าเขาจะให้คำมั่นไว้ก่อนหน้านี้ก็ตาม ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญนี้ นักโทษที่ปริโกซินคัดเลือกเข้ามาช่วยเหลือในฐานะนักรบในแนวหน้าจึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในปฏิบัติการ
ในขณะเดียวกัน “ปริโกซิน” ก็ได้พบพันธมิตรที่ไม่คาดคิดอย่าง “คาดีรอฟ” ผู้นำเชเชน ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำทางทหารอย่างเปิดเผยสำหรับการถอนตัวในเดือนกันยายน คาดีรอฟยังคงโจมตีต่อไปในเดือนตุลาคม โดยมุ่งเป้าไปที่นายพล Lapin ผู้นำกองทัพในขณะนั้น และท้ายที่สุดนำไปสู่การปลด Lapin ในปลายเดือน ไม่ชัดเจนว่าเขาดำเนินการด้วยตัวเองหรือมีส่วนร่วมในอุบายของเครมลิน แต่เจ้าหน้าที่เสนาธิการทหารพบว่าตัวเองอยู่ภายใต้แรงกดดันจากทั้ง “ปริโกซิน” และ “คาดีรอฟ”
2
  • พฤศจิกายน 2022: กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้แสดงท่าทีที่น่าอาย โดนสั่งถอยร่นออกจากเคอร์ซอน ทำให้ประชาชนชาวรัสเซียบางส่วนที่สนับสนุนสงครามโกรธเคือง และปริโกซินก็เล่นตอกย้ำเรื่องนี้ โดยใช้ช่องเทเลแกรมของเขาในการ “กระตุ้นความรู้สึกด้านลบ” ที่มีต่อการสั่งถอยทัพครั้งนี้
2
  • มกราคม 2023: “ปริโกซิน” ได้นำ Wagner PMC มาถึงจุดสูงสุดอีกครั้ง โดยการประกาศเข้ายึดเมือง “โซเลดาร์” ตอนเหนือของบัคมุต ถึงแม้เมืองนี้จะมีประชากรเพียง 10,000 คน ในช่วงเวลาสงบสุขและไม่สำคัญเท่าเคอร์ซอน แต่สิ่งสำคัญสำหรับเขา คือ ด้านจิตวิทยาในการแสดงให้เห็นเรื่องการบุกรุกคืบ ซึ่งตรงข้ามกับกระทรวงกลาโหมที่สั่งให้ล่าถอย
1
  • การใช้สื่อออนไลน์เป็นอาวุธของปริโกซิน
ต้นปี 2023 กลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ของ “ปริโกซิน” ได้รับความสนใจจากนานาชาติ โดยนักวิเคราะห์ต่างชาติพูดถึง “ความทะเยอทะยานทางการเมือง” ของเขาอย่างจริงจัง บางคนมองว่าเขาเป็นคู่แข่งที่มีศักยภาพกับปูติน ในขณะที่คนอื่นมองว่าเขาเป็นผู้สืบทอดที่เป็นไปได้ ตัวเขาเองก็ดูเหมือนจะมั่นใจในความยิ่งใหญ่ของตัวเอง ตอนนี้เขากำลังพยายามที่จะงัดกับ “ชอยกู” ชายผู้ซึ่งปูตินใช้เวลาทุกวันหยุดด้วยและสื่อสารอย่างใกล้ชิดมากกว่ากับ อลีนา คาบาเยวา (ภรรยาลับของปูติน)
2
“ปริโกซิน” เข้าใจว่าการยึดเมืองโซเลดาร์ ไม่สามารถทำการตลาดว่าเป็นความสำเร็จทางทหารที่ยิ่งใหญ่ได้ และเขามุ่งเป้าไปที่ “บัคมุต” แทน ที่จริงแล้วเมืองนี้ก็ไม่น่าใช่สถานที่ที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์สูงมาก แต่เขาได้เปลี่ยนประวัติศาสตร์ของการบุกโจมตีให้กลายเป็นซีรีส์โทรทัศน์ยอดนิยม แม้แต่ช่องโทรทัศน์ของรัฐก็เชื่อว่านี่คือ “สตาลินกราดแห่งใหม่” จนทำให้ผู้คนหันมาติดตามความคืบหน้าของกองกำลังวากเนอร์ที่บัคมุตอย่างค่อยเป็นค่อยไป
2
โดยคาดการณ์ว่า “บัคมุต” จะถูกยึดได้อย่างรวดเร็ว หาก “วากเนอร์” สามารถยึดเมืองนี้ไว้ได้ “ปริโกซิน” จะได้รับการยกย่องอย่างมาก อย่างไรก็ตามเขามีนักสู้ฝีมือดีจริงๆเพียงไม่กี่คน และนักรบที่สมัครคัดเลือกมาก็อุปกรณ์ไม่พร้อม ทำอะไรไม่ถูกเมื่อจำเป็นต้องยึดตำแหน่งที่มีการป้องกันอย่างดี ความคืบหน้าที่บัคมุตจึงค่อยๆ ชะลอตัวลงและในไม่ช้าก็หยุดลง
1
เมื่อถึงสิ้นเดือนเมษายน 2023 “ปริโกซิน” ตระหนักว่าเขาไม่มีกำลังคนหรืออาวุธเพียงพอที่จะชนะที่บัคมุตในตอนนั้น แอบมีน้อยใจประกาศจะขอถอนตัวและโอนให้ “คาดีรอฟ” เข้ามาคุมแทน
แต่ทว่าสิ่งที่เขาได้เริ่มทำในตอนนั้นก็คือ การโพสต์วิดีโอบนโลกออนไลน์แฉถึงผู้นำระดับสูงในกองทัพรัสเซียว่าไม่ยอมส่งกระสุนกับเสบียงมาให้ ทำให้นักรบของกลุ่มตายเป็นจำนวนมาก หนักข้อถึงขนาดพูดชื่อและด่าออกสื่อกันเลย
2
มันก็ส่งผลลัพธ์ได้ตามเป้าหมายอยู่คือ ทางส่วนกลางรัสเซียประกาศส่งกระสุนมาให้ตามที่ต้องการ หลังจากนั้นก็ยังมีโพสต์ออกมาอยู่เรื่อยๆ แฉถึงกองทัพเมื่อใกล้ตีแตก สุดท้ายแล้วเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ประกาศความสำเร็จยึด “บัคมุต” ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ และบอกว่าจะให้นักรบกลับไปพักฟื้นเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับที่อื่น
3
  • บทส่งท้าย
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าความรุ่งเรืองรออยู่เบื้องหน้าของ “ปริโกซิน” แต่ทว่าเขามีทรัพยากรเหลืออยู่อย่างจำกัด ไหนจะเรื่องความขัดแย้งระหว่างเขากับกระทรวงกลาโหม ได้กลายเป็นโจทย์ใหญ่ และคำพูดของเขาที่บอกว่า “คุณปู่งั่ง” ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของเขา อาจนำมาสู่ผลเสียร้ายแรงต่อเขาในอนาคต
1
แม้ว่าการคาดการณ์ถึงความหายนะที่นักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ไว้อาจไม่เป็นจริง แต่ “ปริโกซิน” อาจไม่ได้รับความนิยมและเดินตามเส้นทางของ Igor Girkin ซึ่งในตอนแรกได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษในช่วงสองสามเดือนแรกของสงคราม แต่ในที่สุดเขาก็หายไปจากหน้าสื่อ
1
เครดิตภาพ: The Times UK
เรียบเรียงโดย Right SaRa
22nd May 2023
  • บทความต้นฉบับที่ใช้อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: The Insider, Russia>
โฆษณา