25 พ.ค. 2023 เวลา 05:49 • อาหาร

เลือกซื้อ “น้ำมันพืช” อย่างฉลาด เพียงแค่ดูฉลาก

สำหรับมือใหม่ในการเข้าครัวแล้ว เคยไปยืนงงอยู่กลางดงเครื่องปรุงต่าง ๆ แล้วสงสัยว่าต้องใช้ยี่ห้อไหนมั้ยคะ? วันนี้บทความนี้จะช่วยคุณในการเลือกซื้อของได้ตรงตามที่ต้องการ
อย่างงไปเลยค่ะ เพราะโพสต์นี้มีคำตอบ
เมื่อพูดถึงน้ำมันแล้ว สิ่งที่เราจะเห็นเมื่อไปหาข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันคือคำว่า " ไขมันไม่อิ่มตัว " , " ไขมันอิ่มตัว " และ " ไขมันทรานส์ "
ประเภทของไขมัน
  • ไขมันไม่อิ่มตัว
ถ้าจะคุยกันให้เข้าใจแล้วต้องดูที่สูตรเคมีของมัน เห็นได้ว่าในโมเลกุลของไขมันไม่อิ่มตัวจะมีพันธะคู่อยู่ ซึ่งสิ่งนี้นี่แหละค่ะที่ทำให้มันไม่เป็นไข ไม่เหม็นหืนได้ง่าย และกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายล้วนมีพันธะคู่เหล่านี้ทั้งสิ้น แต่ถ้าหากไขมันไม่อิ่มตัวนี้ไปโดนความร้อนสูง มันก็สามารถกลายเป็นไขมันอิ่มตัวได้ หรือเมื่อถูกความร้อนแล้วไปทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ มันจะกลายเป็นอนุมูลอิสระ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไขมันไม่อิ่มตัวที่พูดถึงนี้เราจะมักพบในน้ำมันพืช
  • ไขมันอิ่มตัว
คือไขมันที่ไม่มีพันธะคู่อยู่ในโมเลกุลนั้นเอง ตัวนี้ก็จะเป็นไขและเหม็นหืนง่ายกว่า แต่จะสามารถทนความร้อนสูงได้โดยไม่กลายเป็นอนุมูลอิสระ พบได้ในน้ำมันสัตว์
  • ไขมันทรานส์
ไขมันที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้น โดยการพยายามทำให้ไขมันไม่อิ่มตัวที่ชอบอยู่ในรูปของเหลวกลายเป็นไขมันอิ่มตัวที่เป็นรูปของแข็ง เพื่อยืดอายุของวัตถุดิบ ซึ่งไขมันตัวนี้จะส่งผลให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ควรหลีกเลี่ยง พบในเนยและครีมเทียม
แล้วจะเลือกซื้อยังไงให้ตรงความต้องการของเรา ง่ายๆ เพียงแค่พลิกดูฉลากเท่านั้นเอง
สิ่งที่ควรดูในฉลากน้ำมันพืช
  • 1.
    วันหมดอายุ
  • 2.
    ปริมาณต่อหนึ่งหน่วยบริโภค คือปริมาณที่แนะนำให้กินต่อ 1 ครั้ง แต่ส่วนใหญ่เราจะใส่น้ำมันมากกว่า 1 หน่วยบริโภคอยู่แล้ว แต่ที่เราอยากให้สังเกตเพราะข้อมูล ทางโภชนาการจะบอกปริมาณใน 1 หน่วยบริโภค
  • 3.
    หน่วยบริโภคต่อภาชนะบรรจุ คือในขวดนั้นมีปริมาณต่อหนึ่งหน่วยบริโภคกี่หน่วยนั้นเอง เพื่อให้เราเอาข้อมูลไปคูณกับคุณค่าทางโภชนาการว่า หากเรารับประทานหมดขวดจะได้ คุณค่าทางโภชนาการเท่าไหร่
  • 4.
    ปริมาณที่แนะนำต่อวัน เพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการอย่างเหมาะสม
  • 5.
    คุณค่าทางโภชนาการ
คุณค่าทางโภชนาการของน้ำมันพืช
  • พลังงาน เราควรได้รับพลังงานจากไขมันไม่เกิน 30% จากพลังงานที่ควรได้รับในแต่ละวัน นั้นคือผู้ชายควรได้พลังงานจากไขมันไม่เกิน 600 kcal และผู้หญิงไม่เกิน 480 kcal
  • ไขมัน
- ไม่ควรมีไขมันทรานส์
- ไขมันอิ่มตัว : หากต้องการใช้ไฟแรง และทอดเป็นเวลานานแล้ว ควรมีมาก
- ไขมันไม่อิ่มตัว : ควรมีมากทั้งเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อนเพราะมีประโยชน์ในการช่วยลดคอเลสเตอรอลไม่ดีในเลือด
  • โอเมก้า ควรมีและสอดคล้องไปกับปริมาณไขมันไม่อิ่มตัว
โอเมก้า 3 : ไขมันอิ่มตัวเชิงซ้อน สามารถลดความดันโลหิตได้ และโอเมก้า 3 ที่ได้จากน้ำมันพืชนี้เป็นคนละตัวกับโอเมก้า 3 ในน้ำมันตับปลา
- โอเมก้า 6 : ไขมันอิ่มตัวเชิงซ้อน ควรมีน้อย เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดความดันโลหิตสูงตรงข้ามกับโอเมก้า 3
**โอเมก้า 3 สามารถช่วยหักล้างกับโอเมก้า 6 ได้ โดยในน้ำมันควรมีสัดส่วนโอเมก้า 3 : โอเมก้า 6 อยู่ที่ 4:1 หากเป็นเช่นนี้โอเมก้า 6 ก็จะไม่ส่งผลเสียให้แก่ร่างกาย แต่โอเมก้า 3 นั้นก็มีพันธะคู่อยู่มาก จึงไม่ควรโดนความร้อนที่อุณหภูมิสูง
- โอเมก้า 9 : ไขมันอิ่มตัวเชิงเดี่ยว มีพันธะคู่อยู่เพียงตำแหน่งเดียว อีกทั้งยังช่วยลดการอักเสบและลดระดับคอเลสเตอรอลอีกด้วย
ดังนั้นควรเลือกน้ำมันที่มีระดับ โอเมก้า 9 สูง นั้นเอง
  • วิตามิน E เป็นสิ่งที่มีประโยชน์หลายอย่าง โดยร่างการคนเราต้องการวิตามินอีวันละ 0.2 มก. และไม่ควรทานเกิน 30 มก. ส่วนใหญ่ในฉลากน้ำมันจะบอกเป็นร้อยละของปริมาณที่ต้องการในแต่ละวัน
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก
โฆษณา