28 พ.ค. 2023 เวลา 09:33 • หนังสือ

What I Talk About When I Talk About Running เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง

ไม่ว่าการกระทำนั้นจะจืดชืดสามัญแค่ไหน หากทำไปนานวันจะกลายเป็นการครุ่นคิดพินิจพิเคราะห์ ไปจนถึงขั้นการทำสมาธิ
ในฐานะนักเขียนนิยายและในฐานะนักวิ่ง ผมไม่คิดว่างานเขียนและการตีพิมพ์หนังสือว่าด้วยความคิดส่วนตัวที่มีต่อการวิ่งจะหลุดไปจากเส้นทางปกติที่เคยคุ้น
ผมอาจจะเป็นมนุษย์ประเภทอึดและทนแต่แทบจะเข้าใจเรื่องราวอะไรไม่ได้เลย เว้นแต่จะเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือ
ดังนั้นผมเริ่มเดินเครื่อง เขียนเรื่องราวบรรยายออกมาด้วยคำพูด ไม่เช่นนั้นแล้วผมจะไม่มีวันเข้าใจว่าการวิ่งมีความหมายแท้จริงอย่างไรต่อตัวผม : ฮารูกิ มูราคามิ
สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ทางเพจผู้สังเกตการณ์ขอเอาใจสายวิ่ง และนักเขียนทุกท่านด้วยการพามาอ่านหนังสือของนักวิ่ง ที่เป็นนักเขียน หรือจะเรียกว่านักเขียนที่เป็นนักวิ่ง "Haruki Murakami"
ฮารูกิ มูราคามิ
เล่มนี้เป็นบันทึกในระหว่างที่ฮารูกิ มูราคามิ เป็นนักวิ่งมาราธอน เขาได้เขียนเป็นไดอารี่ และกว่าจะเขียนจบก็ใช้เวลาเป็นปี
เขาเริ่มลงมือเขียนหนังสือเล่มนี้ทีละตอนสองตอน เริ่มต้นในฤดูร้อนปี 2005 เขียนเสร็จสิ้นในฤดูใบไม้ร่วงปี 2006
แต่ก่อนหน้านั้น เขาใช้เวลา 10 ปีเต็ม ๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่คิดจะเขียนหนังสือเรื่องของการวิ่ง ในแต่ละปีที่ผ่านไป เขาได้ลองวิธีนั้น วาดเค้าโครงวิธีนี้ แต่ก็ไม่เคยลงมือเขียนสักที
การวิ่งดูเหมือนจะเป็นหัวข้อคลุมเครือ จะให้บรรยายโดยละเอียดจะเลือกสรรคำพูดอย่างไร เขาก็ยังไม่แน่ใจนัก
เมื่อถึงจุดหนึ่งเขาจึงตัดสินใจว่าจะรายงานเรื่องราวต่าง ๆ ตามความเป็นจริง เรื่องที่อยู่ในความคิด สิ่งที่เขารู้สึกระหว่างก้าววิ่งโดยวิธีการบรรยายในแบบของตัวเองเขาเอง ซึ่งเขาเชื่อว่าน่าจะเป็นหนทางเดียวที่จะเริ่มต้นเขียนหนังสือเล่มนี้ได้
สมุดบันทึก
ขอบคุณสำนักพิมพ์กำมะหยี่ ที่หยิบเล่มนี้มาพิมพ์อีกครั้ง เพราะนี้เป็นการพิมพ์ครั้งที่ 5 เมื่อเดือนมีนาคม 2566 ทำให้เราได้มีโอกาสอ่านเรื่องราวของนักเขียนคนโปรด ซึ่งในเล่มนี้มีมากมายเรื่องราวที่เกี่ยวกับการเป็นนักเขียน และการเป็นนักวิ่ง รวมถึงได้รู้จักตัวตน มุมมองความคิดของฮารูกิ มูราคามิ ที่ไม่ใช่แค่ในนิยายที่เขาเขียน แต่นี่คือความคิดของเขาจริง ๆ
เป็นหนังสือที่เต็มไปด้วยหลักปรัชญาในการใช้ชีวิต อย่างที่คำนำสำนักพิมพ์กล่าวไว้ว่า "หนังสือเล่มนี้อ่านสนุก ทั้งด้วยเนื้อหาเอง และลีลาการเล่า อ่านแล้วได้แรงบันดาลใจ ไม่ใช่เพียงเรื่องการออกมาดูแลสุขภาพ เพื่อจะได้มีเรี่ยวแรงทำงานที่เรารักต่อไปอย่างเต็มที่ แต่รวมไกลไปถึงการใช้ชีวิต และการฮึดขึ้นมามีวินัยด้วย"
หรือแม้แต่คำนำจากผู้แปล คุณ นพดล เวชสวัสดิ์ ซึ่งอ่านแล้วประทับใจและเห็นจริงตามทุกประโยค
"ต้องอ่านและคิดตามทุกตัวอักษร ตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าสุดท้าย ไม่ว่าหนังสือเล่มนั้นจะสั้นหรือยาวหนึ่งเล่มหรือสิบกว่าเล่มที่ถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาไทยแล้ว
มองการเลือกสรรถ้อยคำ ได้เห็นการสานอารมณ์เนิบนาบนำไปสู่ความหม่น และภาวะติดขัดชะงักงันในโลกที่หมุนไปรวดเร็ว
การระบายโลกด้วยสีเทา แต้มความสดใสน้อยนิดเพื่อให้ชุ่มชื่น
นับเป็นงานบั่นทอนสุขภาพอย่างยิ่ง เพราะยากจะหลบหลีกความอึดอัดขัดข้องไม่ให้กระเซ็นเปื้อนตัว"
ข้อความเหล่านี้ ถ้าเราไม่เคยแต่งนิยายมาก่อนก็คงไม่เข้าใจ แต่เพราะเคยเจอประสบการณ์ความหม่นหมองจากการเขียนมาบ้าง พออ่านเจอจึงเหมือนพบคนรู้ใจ
ขอบคุณมากค่ะ
ดอกไม้ และหนังสือ
ในการเล่าเรื่องของการออกกำลังกายด้วยวิธีการวิ่งของมูราคามิที่นิยามออกมาเหมือนการเขียนนิยายนั้น มันช่างกลมกลืนและเป็นเรื่องเดียวกันได้อย่างดีเยี่ยมเลยค่ะ
แต่ในบางตอนท่านก็ได้นิยามการเขียนนิยายเปรียบได้ดั่งการปีนเขาไว้เช่นกัน
ซึ่งเราผู้อ่านพอลองนึกภาพตาม  เออ  การเขียนนิยายเหมือนการปีนเขาจริง ๆ นั่นแหละ
การเป็นนักเขียนนิยายแบบเต็มเวลาทำให้นักเขียนตั้งใจสร้างสรรค์ผลงานเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายจนอาจละเลยในเรื่องของสุขภาพร่างกายโดยรวม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากเช่นกัน
การหาสมดุลให้ชีวิตนั้นเป็นเรื่องที่เราสามารถทำได้ทันที เพียงแค่แบ่งเวลา เห็นในความสำคัญ และใส่ใจกับสิ่งนั้น
ภาพปกหลังจากหนังสือ เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง
"นักวิ่งส่วนใหญ่ไม่ได้วิ่งเพื่อยืดชีวิตตนเองให้ยืนยาว
แต่วิ่งเพราะอยากใช้ชีวิตให้เต็มความหมาย
หากเราอยากใช้ชีวิตสืบไปนานหลายปีจะเป็นการดีกว่าไหม ถ้าใช้ชีวิตโดยมีเป้าหมายชัดเจน
1
มีชีวิตชีวาเต็มเปี่ยมแทนการหลงทาง งงอยู่กลางดงหมอก
1
ผมเชื่อว่าการวิ่งช่วยให้เกิดผลนั้น
การเคี่ยวกรำตนเอง ผลักดันให้เต็มขีดความสามารถของเพดานจำกัดของแต่ละคนนั้น เป็นหัวใจเป็นแก่นแท้ของการวิ่ง เป็นอุปมานของชีวิต และสำหรับผมกินความไปถึงการเขียนนิยายด้วย"
3
ชื่อหนังสือ : What I Talk About When I Talk About Running เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง
เขียนโดย : ฮารูกิ มูราคามิ
แปลโดย : นพดล เวชสวัสดิ์
สำนักพิมพ์ : กำมะหยี่
พิมพ์ครั้งที่ 5
ราคา : 250 บาท
แบ่งปันประสบการณ์วิ่ง และการเขียนกันได้นะทุกคน
เขียนบันทึก
สำหรับผู้เขียนนั้นก็วิ่ง ๆ เดิน ๆ เป็นประจำ แต่ไม่ได้ไปลงแข่งขันที่ไหนหรอกนะคะ แค่ทำเป็นกิจวัตรประจำวันคือ
ช่วงเช้า วิ่ง 30 นาที
และช่วงค่ำ ๆ จะออกกำลังกายยึดเส้นยึดสายอีกรอบ
ในระหว่างวันจะแบ่งเวลาเขียน เช่นเขียนหนึ่งชั่วโมง พักสิบนาที สลับกันไปแบบนี้
เพื่อให้ร่างกายได้ขยับบ้าง  ช่วยให้เลือดลมเส้นสายได้ผ่อนคลาย
ปล. บทความวิ่งเขียนไว้ที่เพจ Lucky review
ขอบคุณค่ะ
แล้วพบกันใหม่
ผู้สังเกตการณ์
Running for my Life
โฆษณา