30 พ.ค. 2023 เวลา 13:08 • การเมือง

แกล้งโง่....

การเมืองไทยตอนนี้ ถ้าจะว่าไปมันสะท้อนสังคมให้ชัดเจนขึ้น ในแง่ของการรักษาประโยชน์ของกลุ่มต่างๆในสังคม
ฝ่ายอำนาจเก่าซึ่งยึดโยงกับกลุ่มทุน ที่เคยขัดแย้ง
กันมาก่อน ดูจะกลายเป็นว่ากลับมาร่วมมือกันได้
เพื่อรักษาผลประโยชน์เอาไว้
ในขณะที่กลุ่มที่ต้องการปฏิรูปสังคม ระบบต่างๆ
แม้จะได้รับการสนับสนุนจากสังคมส่วนมาก แต่ก็เหมือน
โดนรุมกินโต๊ะจากสังคม ไม่ให้ผุดให้เกิด
ตอนนี้ดูเหมือนวาระมันไม่ใช่แค่ฝ่ายการเมือง
ที่อิงรสนิยมการเมืองแล้ว
แต่มันกำลังกลายเป็น การประลองกำลังของ
สิ่งที่ใหญ่กว่านั้น
...คือ คนรวย และ คนจน...
เราจะเห็นว่า ตอนนี้มีการถล่มพรรคก้าวไกลอย่างหนัก
ทั้งประเด็น ค่าแรง และ การลงทุน
นักเศรษฐศาสตร์ เซียนหุ้น นักธุรกิจใหญ่
ประสานเสียงกันหมด ว่า เป็นนโยบายทำลายเศรษฐกิจ
เซียนหุ้นนี่ตัวดี เขียนความจริงครึ่งเดียวเรื่องหุ้นตก
ถ้าสังเกตดีๆ เราจะพบว่า มีการบิดเบือนข่าวอย่างจงใจ
เพื่อรักษาประโยชน์ของคนกลุ่มนี้เป็นหลัก
ในขณะที่เสียงของคนจำนวนมาก ไม่ได้ต้องการแบบนั้น
นี่ไม่ใช่การอิงแต่เสียงที่ได้ของก้าวไกล
แต่ผมหมายถึงคนไทยเกือบทุกคน อาจมากถึง 90%
เพราะอะไรถึงกล้าพูดแบบนี้ ?
ก็เพราะประเด็นขึ้นค่าแรง และการแจกเงิน
สวัสดิการต่างๆ นี่มันพูดกันทุกพรรคน่ะสิครับ
เอาง่ายๆ 450 ของก้าวไกลเนี่ย
ที่จริงพลังประชารัฐ พูดไว้ตั้งแต่เลือกตั้ง 62
ทำไมไม่เป็นประเด็น ?
อย่างครั้งนี้ พรรคลุงๆก็หาเสียงไว้มากกว่าเดิมอีก
แล้วทุกพรรคก็หาเสียงในโทนเดียวกันเรื่องนี้
ที่ประมาณ 400 กว่าบาท
เพื่อไทยหนักสุด คือ 600
ในเมื่อทุกพรรคมีนโยบายแบบนี้ แล้วทำไมเป้าจึงกลาย
เป็นแค่เมื่อก้าวไกลเป็นแกนนำ
และเราสามารถอนุมานได้หรือไม่ ว่าทุกคนที่เลือก
ทุกพรรค ก็ไม่ได้ขัดข้องกับนโยบายขึ้นค่าแรง
...แล้วทำไมต้องเอามาเป็นประเด็นโจมตี...
..และโทษว่าทำให้นักลงทุนกลัว โดยลงที่พรรคเดียว?...
...อันนี้คือแกล้งโง่ที่หนึ่ง...
เช่นเดียวกับเรื่องหุ้นตก...
สื่อไทยประโคมข่าวอย่างเมามัน โดยเน้นไปที่นโยบาย
ของก้าวไกลคือต้นเหตุที่นักลงทุนกลัว ต่างชาติหนี
ถามว่ามีส่วนไหม ใช่ มีส่วน
แต่บอกได้เลยว่าไม่ใช่เหตุผลหลัก
เหตุผลจริงๆ คือต่างชาติทะยอยขายหุ้นมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ก่อนเลือกตั้งแล้ว
จากข้อมูล คือ ปี 65 ต่างชาติทั้งหัวดำหัวทอง(และอีแอบ)
เข้าซื้อหุ้นไทยทั้งปี ราวๆ สองแสนล้านบาท
แต่มาเริ่มเทในช่วงปลายเดือนมกราคม
และมาหนักเอาช่วงเดือนกุมภาพันธ์
ถ้านับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึงวันเลือกตั้ง ที่ยังไม่มีใครรู้ว่าใครจะเป็นรัฐบาล และตอนนั้นก็ยังไม่มีใครเชื่อว่า
ก้าวไกลจะชนะ
จะได้พบข้อมูลว่า ต่างชาติขายหุ้นถึง 8 หมื่นล้านบาท
หรือเฉลี่ยเดือนละสองหมื่นกว่าล้านอยู่แล้วเป็นปกติ
...ทั้งที่ไม่มีใครรู้ว่าก้าวไกลจะชนะ แล้วมันจะเป็น
เพราะก้าวไกลตามที่พูดกันได้ไง...
...กราฟก็เห็นๆอ่ะนะ ยังจะแกล้งโง่ มาหลอกคนอีก...
...ไอ้ที่ปล่อยข่าวกันนี่เพื่ออะไร รู้ก็ทั้งรู้นั่นแหละ...
....นี่มันชัดเจนมาก ว่ามีเจตนาทางการเมืองมากกว่า
ข้อเท็จจริง ซึ่งก็แน่นอน ว่าเราต้องดูว่าคนกลุ่มนี้ ได้ประโยชน์จากอะไร จากการนำเสนอแบบนั้น...
...การถือหุ้นใหญ่ที่มั่นคง กำไรมาก ที่อาจต้องชนกับนโยบายก้าวไกลในหมู่คนพวกนี้
ใช่เหตุผลหรือไม่ ที่ต้องพยายามขัดขวางอะไรก็ตาม
ที่อาจทำให้ตัวเองเสียประโยชน์....
2
....นี่หรือไม่ คือเหตุผลที่แท้จริง ที่ต้องเสนอข่าวบิดเบือนแบบหน้าด้านๆ...
...และในอีกทาง มันทำให้คนชั้นกลางรายย่อย เริ่มคล้อยตาม เพราะคนส่วนนี้ ก็มักจะลงทุนเช่นกัน ทั้งตรง และอ้อมผ่านกอง ดังนั้น ก็เริ่มกลัวเสียผลประโยชน์ขึ้นมา ...
...น่าจะชัดเจนนะ สำหรับเรื่องนี้ ว่าอะไรเป็นอะไร...
ที่จริงแล้ว หุ้นไทยตก มันมีส่วนมากๆ จากปัจจัยภายนอก
นักลงทุนต่างชาติจริงๆ เขามองเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัว
เพดานหนี้สหรัฐ มากกว่า
ไทยซึ่งเป็นประเทศส่งออก เป็นตลาดเกิดใหม่ ความเสี่ยงสูง เขาก็ขายออกมาเป็นปกติ ตามหลักของการลงทุน
มันไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองภายในของไทยเลย ในช่วงนั้น
ยังมีเรื่องเอลลาร์แข็งค่า ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีก
ไทยคือตลาดเกิดใหม่ ก็ต้องโดนเทเป็นธรรมดา เพราะถือว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า
...แล้วตลาดเกิดใหม่ มันก็ร่วงกันทั่วโลก...
...ขนาดทองก็ยังร่วง...
...นีคือเหตุผลที่แท้จริง แต่เซียนหุ้น นักวิชาการ นักธุรกิจไม่พูดกัน แต่เลือกจะโยนขี้ไปให้ปัจจัยภายในทางการเมืองอย่างเดียว ...
เพื่อรักษาชามข้าวแล้ว ก็แกล้งโง่ แหกตาชาวบ้านกันไป...
...คนดีย์ แท้ๆเลย เค้าคิดกันได้แค่นั้นเหรอ...
1
จากการเสนอข่าวในโทนนี้ ในทางหนึ่ง
มันได้ใจคนชั้นสูงคนรวย ให้คล้อยตามได้
ตามความประสงค์ของคนนำเสนอข้อมูลออกมา
1
แต่ในอีกทางหนึ่ง มันทำให้คนจนๆมองว่า
คนรวยจ้องจะเอาเปรียบเขาอีกแล้ว
ถึงได้พยายามที่จะขัดขวาง สิ่งที่เขาเชื่อว่ามันจะดี
กับชีวิตของพวกเขา
นี่ยังไม่นับเรื่องเก็บภาษีหุ้น การเพิ่มความเข้มงวดต่อ
ภาษีที่ดิน ภาษีมรดกอีกนะ ที่เอามาไซโคคนรวย
หาแนวร่วมต้านการตั้งรัฐบาล
การที่คนรวยขวางเรื่องเหล่านี้ โดยอ้างเรื่องที่ไกลตัวคนจน เค้าก็ไม่รู้เรื่อง
มันก็เป็นธรรมดา ที่คนจนจะมองคนรวยในแง่ร้าย
มากขึ้น....
1
และจะรุนแรงกว่านี้ ในกรณีว่าการตั้งรัฐบาลทำไม่ได้
...ถ้ามันมีเรื่องแบบนั้น ใครจะรับผิดชอบ ?....
...คิดดีแล้วเหรอ ที่เอาเรื่องพวกนี้มาปั่นกัน...
มีนักวิชาการฝ่ายอำนาจนิยมคนนึงบอกว่า
...เมืองไทยมีคนโง่มากไป เลยไม่เจริญ...
ผมว่าไม่ใช่หรอก...
...ไอ้พวกแกล้งโง่...
...เห็นแก่ตัว ที่มีจำนวนน้อย แต่เสียงดังนี่แหละ ตัวดี...
...ชาติ มันไม่เจริญเพราะคนประเภทหลังนี่มากกว่านะ...
อ้อ แล้วไอ้ที่ขายๆหุ้นกันก่อนเลือกตั้งเยอะๆเนี่ยนะ
เชื่อเหอะ มีอีแอบขายเอากำไรไปใช้ในการเลือกตั้งเพียบ
ทีงี้. ไม่เห็นมีใครไปตามข้อมูลนี่นะ 🙄🙄🙄....
โฆษณา