11 ก.ค. 2023 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์

สองพระมหากษัตริย์...ร่มฉัตรปกแผ่นดิน

พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมราธิบดินทร รัชกาลที่ ๘ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติในระบอบประชาธิปไตย การขึ้นครองราชย์ของพระองค์เป็นผลสืบเนื่องจากการที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ทรงสละราชสมบัติ
รัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรจึงลงมติเห็นชอบกราบทูลอัญเชิญพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล เชื้อพระวงศ์อันดับ ๑ ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์ ขึ้นครองราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ ๘ แห่งราชวงศ์จักรี ซึ่งขณะนั้นพระองค์มีพระชันษาได้เพียง ๙ ปีเท่านั้น และกำลังศึกษาอยู่ ณ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วยพระเชษฐภคินีและพระอนุชา
Cr : ศิลปวัฒนธรรม
เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลยังทรงพระเยาว์ ไม่สามารถปฏิบัติพระราชภารกิจได้ จึงได้มีการแต่งตั้งคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เพื่อทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน จนกว่าพระองค์จะทรงบรรลุนิติภาวะ
พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสด็จนิวัติกลับประเทศไทยครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๔๑๘ และเสด็จนิวัติกลับประเทศไทยเป็นครั้งที่ ๒ เมื่อสงครามโลกสงบลง ในครั้งหลังนี้พระองค์ทรงบรรลุนิติภาวะและสามารถว่าราชการแผ่นดินได้โดยไม่ต้องมีผู้สำเร็จราชการ
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ทรงลงพระปรมาภิไธยในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร
แม้ว่าพระองค์จะทรงพระเจริญวัยในต่างแดน แต่ก็ทรงพระปรีชาสามารถบริหารประเทศได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีพระทัยเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ในรัชสมัยของพระองค์เริ่มมีการแปลพระไตรปิฎกเป็นภาษาไทย แบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ พระไตรปิฎกแปลโดยอรรถ และพระไตรปิฎก แปลโดยสำนวนเทศนา แต่กระทำได้ไม่เสร็จสมบูรณ์ก็สิ้นรัชกาลเสียก่อน
1
ในส่วนพระองค์เองได้ทรงแสดงพระองค์เป็นพุทธมามกะท่ามกลางมณฑลสงฆ์ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งแต่คราวเสด็จนิวัติพระนครครั้งแรก เมื่อเจริญพระชันษา ทรงใช้เวลาว่างศึกษาพระธรรมคำสอนต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ
1
และโปรดเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรวัดสำคัญในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง ทั้งนี้พระองค์ได้ และมีพระราชศรัทธาที่จะเสด็จออกผนวชในพระพุทธศาสนาหลังสำเร็จปริญญาเอกด้วย ดังสำเนาพระราชหัตถเลขาถึงสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์
1
สมเด็จพระสังฆราชจึงทรงนิพนธ์เรื่อง “ บวช” ถวาย แต่เพียงไม่กี่วันก่อนหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินกลับไปทรงศึกษาต่อปริญญาเอกที่ค้างอยู่ให้แล้วเสร็จ พระองค์ก็เสด็จสวรรคตขณะที่ทรงมีพระชนมพรรษาได้เพียง ๒๑ พรรษา ณ ที่นั่งบรมพิมานในพระบรมมหาราชวัง ยังความเศร้าโศกเสียแก่คนไทยทั้งแผ่นดิน
เมื่อสิ้นพระเจ้าอยู่หัวอันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทยอย่างกะทันหัน ในคืนวันเดียวกันรัฐสภามีมติเป็นเอกฉันท์กราบบังคมทูลเชิญ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระอนุชา ขึ้นครองราชย์สืบต่อเป็น พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๙ และเฉลิมพระปรมาภิไธยว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร”
นับแต่วันที่พระองค์เสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติ ทรงทุ่มเทพระวรกายมุ่งมั่นตรากตรำแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกร ให้ปวงชนชาวไทยอยู่เย็นเป็นสุขสมดั่งพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้เสวยราชย์นานที่สุดในประเทศไทย และทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ ๔ นับแต่สมัยสุโขทัยที่ทรงพระผนวชขณะครองราชสมบัติ
1
พระบาทสมด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกผนวช ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยมีสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เป็นพระราชอุปัธยาจารย์ ทรงได้รับสมณฉายาว่า “ภูมิพโลภิกขุ” ระหว่างที่ทรงดำรงสมณเพศ ทรงปฏิบัติพระราชกิจเช่นเดียวกับพระภิกษุทั้งหลายอย่างเคร่งครัด เช่น เสด็จลงพระอุโบสถทำวัตรเช้า-เย็น ทรงสดับพระปาฏิโมกข์ ทรงทำอุโบสถสังฆกรรม ทรงสดับพระธรรมและพระวินัย และเสด็จออกบิณฑบาต เป็นต้น
ในรัชสมัยของพระองค์เป็นยุคที่การเผยแผ่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเจริญรุ่งเรือง งานแปลพระไตรปิฎกที่ค้างมาตั้งแต่สมัยพระบรมเชษฐาได้รับการสืบสานดำเนินการต่อจนเสร็จสมบูรณ์ ฉบับแรกคือ พระไตรปิฎกภาษาไทย เป็นพระไตรปิฎกแปลโดยอรรถ พิมพ์เป็นเล่มสมุดจำนวน ๘๐ เล่ม เสร็จสมบูรณ์เมื่องานฉลอง ๒๕ พุทธศตวรรษ ในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ และพระไตรปิฎกฉบับหลวง เป็นพระไตรปิฎกแปลโดยสำนวนเทศนา พิมพ์ใบลาน แบ่งเป็น ๑,๒๕๐ กัณฑ์ เสร็จสมบูรณ์เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๒
การสังคายนาครั้งที่ ๖ หรือฉัฏฐสังคายนา ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ วันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ จนถึงวันที่ ๒๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๙
เมื่อคราวกระทำฉัฏฐสังคายนา ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ* ได้เสด็จไปทรงอนุโมทนาการสังคายนาที่ถือว่าเป็นการสังคายนาระดับนานาชาติครั้งแรกและครั้งเดียวของโลก ที่พระภิกษุและนักปราชญ์ผู้ทรงความรู้พระไตรปิฎกบาลีจากประเทศพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาททุกประเทศมาประชุมกัน และพระไตรปิฎกฉบับฉัฏฐสังคีติ อักษรพม่า ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระไตรปิฎกที่เป็นมาตรฐานนานาชาติของพระพุทธศาสนาเถรวาททั่วโลก
ในเวลาต่อมากองทุนสนทนาธรรมนำสุข ท่านผู้หญิง ม.ล. มณีรัตน์ บุนนาค ในพระสังฆราชูปถัมภ์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ได้ริเริ่มจัดพิมพ์พระไตรปิฎกภาษาบาลีจากการสังคายนาสากลนานาชาติ พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นอักษรโรมันเป็นครั้งแรกของโลก เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชได้ประทานชื่อเป็นภาษาบาลีว่า “มหาสงฺคีติ ติปิฏก พุทฺธวสฺเส ๒๕๐๐” และเป็นภาษาไทยว่า “พระไตรปิฎกบาฬี ฉบับมหาสังคายนาสากลนานาชาติ พ.ศ. ๒๕๐๐ อักษรโรมัน”
โดยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์พระกรุณารับเป็นประธานกิตติมศักดิ์การประดิษฐานพระไตรปิฎกสากล อักษรโรมันในนานาประเทศตามรอยพระไตรปิฎกบาฬี ฉบับ “จุลจอมเกล้าบรมธรรมิกมหาราช ร.ศ. ๑๑๒” อักษรสยาม ซึ่งเป็นพระไตรปิฎกอักษรไทยฉบับพิมพ์ชุดแรกของโลก ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพิมพ์และพระราชทานไปยังสถาบันสำคัญทั่วโลกเมื่อร้อยกว่าปีก่อน
1
นอกจากนี้ยังมีพระไตรปิฎกอีกหลายชุดที่จัดทำขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์ไทยผู้ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงประชาชน อาทิ พระไตรปิฎก บาลี-ไทย ฉบับภูมิพโลภิกขุ พระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และพระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นต้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทั้ง ๒ พระองค์ ทรงเป็นหลักใจและหลักชัยแก่ปวงชนชาวไทยในยามประเทศก้าวสู่ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย อำนาจการเมืองและความไม่สงบทั้งภายในและภายนอกทำให้ผู้คนในชาติประสบความขัดเคือง ไร้ซึ่งความสงบสุข
แต่ด้วยพระปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพ กอปรกับพระราชศรัทธาที่ทั้ง ๒ พระองค์ทรงมีต่อพระพุทธศาสนา จึงทรงปกครองแผ่นดินด้วยทศพิธราชธรรม นำพาชาติบ้านเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุขภายใต้พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม เปรียบประหนึ่งร่มฉัตรปกป้องคุ้มครองพสกนิกรอย่างหาที่สุดมิได้ ยังความภาคภูมิใจให้ทวยราษฎร์ ที่ได้เกิดใต้พระบรมโพธิสมภารในดินแดนแห่งพระพุทธศาสนาอันเรืองรองแห่งพระมหากษัตริย์ผู้ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม
1
*** หมายเหตุ เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการเฉลิมพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เป็น "พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" และเฉลิมพระนามาภิไธยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ เป็น "สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง"
อ้างอิงท้ายบทความ
คณะกรรมการโครงการสืบสานมรดกวัฒนธรรมไทย. (๒๕๔๒). ทรงพระผนวช. กรุงเทพมหานคร: สตาร์ปริ๊นท์ จำกัด.
วัดเทวราชกุญชร วรวิหาร. (๒๕๕๓). พ่อหลวงกับพระพุทธศาสนา. กรุงเทพมหานคร: บานาน่า สตูดิโอ จำกัด.
สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ. คู่มือบทโทรทัศน์สารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดลพระอัฐมรามาธิบดินทร. กรุงเทพมหานคร.
ติดตามความรู้เนื้อหาสาระดีๆ ได้ที่
โฆษณา