1 มิ.ย. 2023 เวลา 09:15 • ความคิดเห็น

ทำไมชีวิตต้องมีเป้าหมาย?

ถ้าคุณเป็นสายพัฒนาตัวเอง หรืออ่านหนังสือแนวพัฒนาตัวเอง คุณคงต้องมี “เป้าหมายในชีวิต” อย่างแน่นอน และคุณคงพยายามทุกวิถีทาง เพื่อไปให้ได้ยังเป้าหมายนั้น แต่สำหรับคนที่ไม่รู้เป้าหมายชีวิตตัวเองล่ะ?
หลายปีที่ผ่านมา ฉันเองก็ตั้งเป้าหมายของตัวเองไว้เช่นกัน โดยเป้าหมายก็เปลี่ยนไปตามช่วงวัยที่ผันเปลี่ยน และในแต่ละคน เป้าหมายก็แตกต่างกันออกไป สำหรับบางคนแล้ว การได้มีเป้าหมายที่ชัดเจนในใจ และยิ่งมีคนรอบข้างสนับสนุนเป้าหมายนั้นด้วยแล้ว การเดินทางก็ไม่น่ายากเย็นอะไร และถึงแม้จะยากเย็น แต่ก็เต็มไปด้วยความสุข และอยากจะทำมันในทุกๆวัน
แต่เมื่อพูดถึงผู้คนอีกฝั่งที่ก็มีเป้าหมายเช่นกัน แต่น่าเสียดาย ที่พวกเขาเลือกเดินหลงทางไปเลือกเป้าหมายที่สังคมกำหนดไว้ สิ่งที่สังคมบอกว่า “ไปทางนี้ดีกว่า” “ใครๆเขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น” และการถูกยอมรับจากสังคม หรือคนที่เรารัก ก็เป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์เสียด้วยสิ! ใช่…และฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น…
การเดินทางผ่านมาเรื่อยๆ ก็เคยคิดว่า การเป็นที่ยอมรับ จะทำให้ฉันมีความสุข…โดยเฉพาะเมื่อได้มี “ความสัมพันธ์” เป็นข้อผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เมื่อการตั้งเป้าหมาย ไม่ได้เอาความต้องการของตัวเองที่แท้จริงเข้าไปอยู่ในนั้น และพอตั้งเป้า “ด้วยกัน” ไปแล้ว ความคาดหวังก็บังเกิดเป็นธรรมดา และเมื่อถึงวันที่ความสัมพันธ์พังทลายลง…เอาล่ะสิ! ยังไงต่อล่ะ เหลือแค่ตัวเราที่ต้องเดินต่อกับตัวเอง
พอได้กลับมาทบทวน ก็ได้รู้แล้วแหละว่า ที่ผ่านมาฉันมีเป้าหมายเพื่อตัวฉันเองหรือเพื่อใคร? ช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ฉันก็ใช้ชีวิตแบบไม่มีเป้าหมายอะไรเลย ฉันอยากทำอะไรก็ทำ ฉันอยากกินอะไรก็กิน ฉันอยากดูอะไรก็ดู ช่วงเวลาที่ได้พักอยู่กับตัวเองจริงๆ และกลับมาที่บ้านของหัวใจตัวเองจริงๆ ก็เกิดการตกตะกอนแล้วว่า เอ้อออ ใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่มีเป้าหมายเนี่ย มันทำได้นะ แต่มันโหวงเหวงสุดๆไปเลย หรือมันอาจจะเป็นแค่ฉันนะ!
ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆเลยนะ “การไม่มีเป้าหมายในชีวิต” ฉันนึกถึงเวลาที่คู่รักถามกันว่า “ที่รัก วันนี้กินอะไรดี?” แล้วแฟนสาวของเขาก็ตอบว่า “อะไรก็ได้” อะไรแบบนั้นเลย555
ถ้าแฟนสาวเขาตอบว่า “ฉันจะกินอาหารญี่ปุ่น” คุณก็จะรู้ว่า ฉันจะขับรถไปทางไหน หรือฉันจะกดสั่งเดลิเวอรี่ได้ที่ร้านไหนโดยไม่เสียเวลา ทั้งประหยัดน้ำมัน ประหยัดเงิน และประหยัดเวลา นี่แหละ! ประโยชน์ของความชัดเจน แต่พอคำตอบเป็น “อะไรก็ได้” เท่านั้นแหละ ยากเลยนะ แต่ถ้าคุณโอเค กับการขับรถวนหาร้านอาหารที่คุณอยากจะกินเผื่อว่าคุณจะเจอร้านที่ใช่ นั่นมันก็ไม่ได้แย่นะ อยู่ที่คุณเลือกเลย!
อีกซักหนึ่งตัวอย่าง เวลาไปร้านอาหารแล้วคุณไม่รู้ว่าจะสั่งอะไร คุณจึงบอกพนักงานไปว่า “ฉันขอแกงผัก 1 ที่” คุณก็ต้องยอมรับว่า คุณอาจจะได้แกงจืด แกงส้ม แกงขี้เหล็ก หรืออะไรก็ตามที่คุณไม่คาดคิด ถ้ามันอร่อยตามที่คุณคาดหวัง นั่นก็ดีไป แต่ถ้ามันไม่อร่อย คุณก้โทษใครไม่ได้ เพราะคุณไม่ชัดเจนกับแกงผักของคุณนั่นเอง ลองเปรียบเทียบกับเป้าหมายของคุณดูนะ!
ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นอะไร เช่น คุณไม่ได้อยากมีบ้าน มีรถ คุณแค่อยากไปเที่ยวทุกอาทิตย์ จริงๆแล้ว สำหรับฉัน นั่นคือเป้าหมายอย่างนึงเลย และยากมากๆด้วย555 นั่นแหละสิ่งที่ท้าทาย คุณจะทำยังไงเพื่อให้มาได้ซึ่งเป้าหมายของคุณ สิ่งสำคัญคือ “คุณแค่ต้องชัดเจนกับมันเท่านั้นเอง”
และสิ่งที่ไม่ควรหลงลืมเลยก็คือ…
Life is Journey not a Destination.
อย่าคิดถึงแต่จุดหมายปลายทาง จนลืมชมวิวระหว่างทางล่ะ
สุดท้ายแล้ว คุณคงได้คำตอบของตัวเอง ว่าต้องมีเป้าหมายในชีวิตมั้ย? คำตอบของคำถามนี้ ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณเอง โดยที่คุณต้องตัดคนอื่นๆออกไปก่อน แล้วลองตั้งคำถามกับใจดูว่า หากคุณได้ลองเดินทางไปคนเดียว คุณจะไปที่ไหน? และไปอย่างไร?
หากได้มีเป้าหมายที่ชัดเจนกับใจแล้ว จงมีความสุขกับทุกช่วงเวลาระหว่างเดินไปถึงเป้าหมายนั้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว ชีวิตน่ะไม่ใช่การไปถึงซึ่งเป้าหมายหรอก การกำหนดเป้าหมาย ก็เพื่อให้รู้ว่าจะเดินไปทางไหน และเดินไปยังไงเท่านั้นแหละ
ฉันเชื่อว่า เมื่อเรามีความสุขกับปัจจุบันที่เรากำลังก้าวเดินแล้ว แม้ไปไม่ถึงเป้าหมายก็ไม่เสียดายอะไรแล้ว และมันก็เป็นไปได้เสมอ ถ้าเราเดินมาเรื่อยๆแล้วมันเหนื่อย เราก็แค่ต้องพัก และก็เป็นไปได้อีก ถ้าจะเจอทางตันหรือกำลังเดินมาผิดทาง แค่บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร และเปลี่ยนเส้นทางใหม่ ไม่มีอะไรสายเกินไปสำหรับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ
เป็นกำลังใจให้กับทุกคนที่ทั้งมีเป้าหมายและไม่มีเป้าหมายนะคะ…
โฆษณา