2 มิ.ย. 2023 เวลา 00:00 • หนังสือ

ค้นพบสิ่งมีค่าที่ชื่อว่าตัวเอง (Nice to meet me)

ชีวิตเราจะมีค่าหรือไม่มีค่า ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งใดและใครเลย หากแต่ขึ้นอยู่กับตัวเราที่ให้ค่าตัวเอง แต่การที่เราจะเห็นคุณค่าของตัวเรานั้น เราต้องรู้จักตัวเราเสียก่อน และข่าวดีก็คือไม่ว่าเราจะเคยเป็นหรือเป็นอย่างไรอยู่ ชีวิตเรานั้นเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
“ค้นพบสิ่งมีค่าที่ชื่อว่าตัวเอง” ช่วยให้เราได้กลับมาย้อนดูตัวเองและทำความรู้จักตัวเองมากขึ้น ก่อนจะพาไปสู่การสร้างตัวตนและคุณค่าในแบบที่ต้องการ
หนังสือแบ่งออกเป็น 3 PART ใหญ่ๆ และมีแบบฝึกหัดให้ได้ทำในเล่ม ประมาณว่าฉันไม่อาจให้ใครยืมหนังสือต่อได้ เพราะเขียนแน่นเต็มคาราเบลมาก เอาเป็นว่าจะมาสรุปให้อ่านกันเน้นๆ เลยละกัน
PART 1 : อดีต
คนเราสามารถเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาตัวเองได้เสมอ แต่ต้องรู้ก่อนว่าปัญหาของเราคืออะไร กฎของการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาในโลกคือ “รู้ตัว ยอมรับ ปรับเปลี่ยน” ซึ่งไม่สำคัญเลยว่าเราเคยเป็นใคร เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าคือชีวิตนับจากนี้ว่าเราเลือกที่จะเป็นคนแบบไหนต่างหาก
ในพาร์ทนี้ หนังสือจะพาเราไปสู่ “การรู้จักตัวเอง” เมื่อรู้จักตัวเองแล้วจะทำให้ง่ายในการเลือกทางเลือกต่างๆ ในชีวิตให้ตรงกับความเป็นเราที่แท้จริง หนังสือยังพาเราไปสำรวจ “ความเชื่อ” “สิ่งที่เราให้คุณค่าหรือความหมาย” “ความกลัวและความต้องการ” และ “การระบุตัวตนของเรา”
ซึ่งมาจากความต้องการที่ไม่ได้รับการเติมเต็ม ความกลัว ความต้องการคุณค่าที่เราให้ค่าและของเก่าที่เรามี เมื่อเราได้รู้ที่มาของตัวเราในอดีตแล้ว หน้าที่ของเราคือเลือกเก็บของดีไว้ ส่วนอะไรที่ขวางการเติบโตก็กลับมาทำความเข้าใจใหม่ เมื่อมีความคิด ความเชื่อที่ถูก บวกกับทักษะที่ใช้ ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
PART 2 : สร้างปัจจุบัน
เริ่มกันที่ “Self-Esteem” หรือ การเคารพตัวเอง การเห็นคุณค่าในตัวเอง ซึ่งก่อเกิดมาจาก คุณธรรมและคุณประโยชน์ เมื่อเราเคารพตัวเองนั่นหมายความว่าเราสามารถพัฒนาได้ เพราะความถือตัวเราจะต่ำลง เราจะเชื่อมั่นว่าเราสามารถพัฒนาได้ และสามารถแยกแยะจัดการกับคำวิจารณ์ได้ และการเห็นคุณค่าในตัวเองก็เพื่อให้เรารักและเคารพตัวเองได้อย่างเต็มภาคภูมิ ที่สำคัญ “Self-Esteem” สร้างได้นะคะ
“การสร้างเสน่ห์ในตัวคุณ” ในหนังสือจะแยกเสน่ห์ออกเป็น 2 ด้าน คือเสน่ห์จับตา และเสน่ห์จับใจ ซึ่งเสน่ห์นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อเรามีขั้วสมดุล (ในหนังสือจะอธิบายเรื่องนี้ไว้พร้อมมีแบบฝึกหัดให้ทำด้วย) และเมื่อเราสามารถยอมรับจุดบกพร่องของตัวเองอย่างกล้าหาญและเปิดเผย เราจะตระหนักว่าแม้มีสิ่งเหล่านี้อยู่ก็ไม่ได้ทำให้คุณค่าของตัวเองลดน้อยลง และในวันที่เราหาขั้วตรงข้ามเจอ วันนั้นคือวันที่ผู้คนจะตกหลุมรักเรา รวมกระทั่งตัวของเราเอง
“การโฟกัสสิ่งที่มี” เมื่อเราโฟกัสที่จุดแข็งของตัวเองและพัฒนาจุดแข็งนั้น จะทำให้สามารถพัฒนาตัวเองได้เพิ่มขึ้นมากกว่าการโฟกัสที่จุดอ่อนหรือสิ่งที่ขาด
“สร้างศรัทธาในตนเอง” หนังสือกล่าวว่า ในโลกของการพัฒนาตนเองนั้น คนเราอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ส่วนใหญ่จะติดอยู่แค่ 2 ระดับ คือ ระดับอยาก และระดับรู้วิธี แต่ที่คนไม่รู้และสำคัญที่สุดคือ ระดับตัวตน เมื่อเราเชื่อในระดับตัวตนจนเกิดเป็นศรัทธาในตนเอง จะเกิดผลลัพธ์ออกมาออกมาเป็นรูปธรรม
“เลือกที่จะสุขง่ายและทุกข์ยาก” เมื่อโลกมีแต่ความทุกข์ ให้โฟกัสที่การสร้างเหตุ ในขณะเดียวกันก็ให้ตั้งข้อในการเกิดทุกข์ให้ยากที่สุด
"เป้าหมายชีวิต" โดยหนังสือให้พิจารณาว่าชีวิตที่ตายตาหลับนั้นเป็นอย่างไร เราก็จะรู้ว่าสิ่งใดที่เราให้คุณค่าในชีวิต ข้อสำคัญของการตั้งเป้าหมายคือ เราต้องตั้งเป้าหมายพร้อมกับคุณค่าควบคู่กันไปด้วย เพราะเป้าหมายเมื่อเราไปถึงแล้วขีดฆ่า แต่คุณค่าที่แท้จริงจะคงอยู่และทำให้มีเป้าหมายต่อไป ในหนังสือจะมีแบบฝึกให้ตั้งเป้าหมายมิติชีวิต 10 ด้าน ลองไปทำกันดูนะคะ
“การเลือกกัลยาณมิตร” แม้ว่าเราจะเลือกครอบครัวไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกเพื่อน คู่ครอง ครูบาอาจรย์ และคนรอบตัวเราได้ ซึ่งมนุษย์เราเป็นค่าเฉลี่ยของคนที่เราคบด้วย 5 คนใกล้ตัว แล้วตอนนี้คนรอบตัวเราเป็นอย่างไรกันบ้างนะ อย่าลืมเลือกคนที่จะเข้ามาในชีวิตเรากันด้วยล่ะ
PART 3 : อนาคต
พาร์ทนี้จะเป็นเรื่องของการวางแผนอนาคตและเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า เมื่อมีเรื่องทุกข์หรือปัญหาใดๆ เกิดขึ้น ผู้เขียนได้ให้แนวทางไว้ว่า
“เข้าใจ ยอมรับ และปรับเปลี่ยน”
เข้าใจว่าความท้าทายเป็นเรื่องปกติ ยอมรับเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว และไม่ยอมแพ้ที่จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ซึ่งกลยุทธ์ที่ว่านั้นคือ “เปลี่ยนร่างกาย ย้ายโฟกัส คัดคำพูด” หากอยากรู้ว่าต้องทำอย่างไร ต้องลองหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านค่ะ
สุดท้าย หนังสือได้ฝากไว้ว่า
"จงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดให้กับตนเองบนเส้นทางการเติบโตนี้ เป็นคนที่ให้กำลังใจตัวเองได้เสมอ ให้อภัยตัวเองได้เสมอ ตักเตือนตัวเองได้เสมอ และเริ่มใหม่ได้เสมอ"
เป็นอย่างไรกันบ้างกับเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งส่วนน้อยเท่านั้นที่สรุปออกมา ในหนังสือยังมีแบบฝึกหัดอีกมากมายที่ให้เราได้กลับมาทบทวนและทำความเข้าใจตนเอง รับประกันว่าทั้ง 18 บท ในหนังสือเล่มนี้จะทำให้ผู้อ่านได้รู้จักตัวเองมากขึ้นอย่างแน่นอน
ส่วนตัวคิดว่าหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือสามัญประจำบ้านนะ คือตามที่ได้กล่าวไว้ว่าเป้าหมายชีวิตนั้นมี 10 ด้าน และแต่ละด้านนั้นมีความเป็นมาเป็นไปที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้นการได้กลับมาทบทวนตัวเองในมิติต่างๆ เชื่อว่าจะยิ่งทำให้เห็นตนเองมากขึ้น
เนื้อหาในหนังสือค่อนข้างอัดแน่นพอสมควร ส่วนตัวรู้สึกได้ว่าผู้เขียนพยายามคัดแบบเนื้อๆ มาให้แล้ว แต่ด้วยข้อจำกัดของหนังสืออ่ะเนอะทำให้ไม่สามารถอธิบายได้มากเกินหน้ากระดาษ ทำให้บางประเด็นก็ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ลึกซึ้ง และคิดว่าหากได้เข้าใจมากกว่านี้ก็คงทำให้สามารถค้นเข้าไปในใจตัวเองและเจออะไรที่กองสุมไว้มากกว่านี้ก็ได้
หากใครที่กำลังรู้สึกตัวเล็ก ถูกกลืนหายไปกับคำพูด บุคคล สิ่งแวดล้อม หรือโลกใบนี้ อยากให้ลองเปิดหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านดู เมื่อเราเห็นคุณค่าในตัวเองเราก็จะพบว่าสิ่งที่เคยทำให้เรารู้สึกตัวเล็กนั้นไม่ได้ใหญ่ไปกว่าเราเลย เราก็แค่ถูกชนและล้มลงอย่างคนอ่อนแรงเท่านั้น แต่เมื่อเรามั่นคงในสิ่งที่เราเป็น ในตัวตนของเรา ไม่ว่าสิ่งใดมาชนเรา โอเค เราอาจมีเจ็บบ้าง ล้มบ้าง แต่เราก็จะลุกขึ้นมาได้ทุกครั้ง
อย่าปล่อยให้ตัวเองล้มนานนะคะ มาปัดฝุ่นที่เลอะตัว แล้วเติบโตเป็นเราที่ดีขึ้นไปด้วยกัน
#ค้นพบสิ่งมีค่าที่ชื่อว่าตัวเอง #NiceToMeetMe)
#อ่านแล้วนะ
ชื่อเรื่อง : ค้นพบสิ่งมีค่าที่ชื่อว่าตัวเอง (Nice to meet me)
ผู้เขียน : รสสุคนธ์ กองเกตุ (ครูเงาะ)
สำนักพิมพ์ : I AM THE BEST
จำนวนหน้า : 224 หน้า
ราคาปก : 279 บาท
โฆษณา