ที่สุดของบรรยากาศพระอาทิตย์ตกยามเย็นและอาหารใต้ นอนสบายกับ The Tubkaak Krabi
กระบี่เป็นจังหวัดที่ไม่ได้มาบ่อย แต่มาทุกครั้งก็รักทุกครั้งเลย รอบนี้พักที่ทับแขกรีสอร์ท ที่นี่เปิดให้บริการมา 20 ปีแล้วค่ะ ถือว่าเป็นหนึ่งในรีสอร์ทเก่าแก่ของกระบี่ เพื่อนหลายคนที่เคยไปพักก็ชมให้ฟังว่าชอบที่นี่มาก แอบรู้สึกเชยเหมือนกันที่เพิ่งมาเอาป่านนี้ 😌
พอได้มาสัมผัสกับทับแขกจริงๆ ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมใครๆมาที่นี่แล้วติดใจกันหมด การตกแต่งแบบไทยๆ ไม่ได้หรูหรามาก แต่กลับรู้สึกสบาย ผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้าน รีสอร์ทถูกโอบล้อมด้วยพันธุ์ไม้หลายชนิด มีทั้งที่หายากและขึ้นเองตามธรรมชาติ มีธารน้ำเล็กๆจากภูเขาไหลผ่านรีสอร์ทด้วย พักที่นี่มีกิจกรรมหลายอย่างให้ทำ ไม่ว่าจะเป็นนั่งเรือไปเที่ยวเกาะ พายคายัค Sup Board มวยไทย โยคะ เยอะไปหมดเลย
อาหารใต้ที่นี่เมนูแปลกและรสชาติเด็ดมาก กาดอกจันไว้เลยว่า **อร่อยจริงๆ ต้องลอง** ที่นี่เค้าเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาล เสิร์ฟอาหารแบบง่ายๆ การันตีความอร่อยจากเชฟมิชลินสตาร์ เดวิด ทอมป์สัน เราสองคนประทับใจทุกเมนูที่ลองเลย อ้อ ห้ามพลาดน้ำมะม่วงเบาปั่น สดชื่นที่สุด
มาถึงสิ่งที่ทำให้ใจฟูสุดของทริปนั่นก็คือ วิวพระอาทิตย์ตกยามเย็น! สวยมากกกทุกคน สวยเหมือนโดนมนต์สะกด พระอาทิตย์ดวงกลมโต ค่อยๆลอยต่ำลงมา มีฉากหลังเป็นเกาะน้อยใหญ่ ท้องฟ้าเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆจากสีส้มเป็นชมพู สวยสะกดใจมาก เห็นแล้วใจพองโต เหมือนได้รับพลังงานธรรมชาติแบบเต็มเปี่ยมเลย
เพื่อนเล่าว่า หมอดูฮวงจุ้ยบอกว่าตรงนี้คือจุดรับพลังงานที่ดีที่สุดของประเทศไทย เหมือนจุดรับพลังของฮ่องกง ตอนเช้าๆ ให้ออกมาเดินเล่น ถ้ามีโอกาสอยากให้ทุกคนมาเที่ยวกระบี่ มาพักใจรับพลังธรรมชาติให้เต็มที่ที่ทับแขกรีสอร์ทกันค่ะ 🌴
ห้องพักของเราทริปนี้ Ocean view pool villa ออกแบบมาเข้ากับบรรยากาศและสภาพแวดล้อมของที่นี่ได้อย่างลงตัว เป็นการพักผ่อนที่สบาย สดชื่น เงียบสงบ ดื่มด่ำกับธรรมชาติทุกวัน แบบฟินมากกกก เดินจากห้องพักไปหน้าหาดก็ใกล้ มองวิวทะเลได้จากห้องอีก ดีมากๆเลย 🙂
ห้องกว้าง มีโต๊ะทำงาน มินิบาร์ ทีวี เครื่องเสียง Harman Kardon
โซนห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วน มีทั้ง Indoor และ Outdoor
จากหาดหน้ารีสอร์ทไปเกาะห้องใช้เวลาประมาณ 20 นาทีค่ะ เราใช้เวลากับทริปเรือหางยาวประมาณ 4 ชั่วโมง เราสามารถแพลนได้ว่าเราอยากอยู่บนเกาะไหน นานแค่ไหน คุยกับพี่คนขับเรือได้ตลอดเลยค่ะ ส่วน Picnic set บนเรือหางยาว ทางรีสอร์ทจะให้เราเลือกก่อนวันขึ้นเรือค่ะ
เกาะห้อง สวย สงบมาก ตอนไปแทบไม่มีคนเลย เหมือนเป็นเกาะส่วนตัว
อีกหนึ่งเกาะที่ต้องแวะมาถ่ายรูป เกาะเหลาลาดิง เป็นทริปที่นั่งเรือไป ติดต่อกับทางรีสอร์ทได้เลยค่ะ
ห้องสปาที่นี่ดีไซน์รูปทรงมาจากต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงค่ะ เชื่อว่าเป็นเหมือนหม้อข้าวเก็บเงิน เก็บทองค่ะ ด้านในจะมีเตียง 2 เตียง พนักงานนวดสบายมาก จับจุดเก่ง ออกมาตัวเบาสุดๆ
ช่วงบ่ายๆใครอยากจิบชากับขนมอร่อยๆ ก็บอกให้รีสอร์ทจัด Afternoon Tea มาได้ค่ะ ขนมอร่อยทุกอย่างที่ชอบมากคือ วาฟเฟิลเคลือบน้ำผึ้ง อร่อยมาก ทานตั้งแต่วันแรกที่พี่คนขับรถมารับแล้วติดใจเลย ฮ่าๆ
ชิลล์มากกก ชอบบบ
Beach Picnic มีขนมเสิร์ฟมาให้เยอะมากค่ะ ทั้งขนมไทย ผลไม้สด ผลไม้อบแห้ง กับเครื่องดื่มเย็นๆ สดชื่นๆ มองวิวที่อยู่ตรงหน้าเพลินๆ
เป็นช่วงเวลาที่ไม่อยากกระพริบตาเลย เพราะของจริงสวยสุดๆ วิวทะเลมีภูเขาเล็กใหญ่สลับกันไปมาเป็นฉากเหมือนภาพวาดของจิตกรมือหนึ่งก็ว่าได้
สวยสะกดใจมาก เห็นแล้วใจพองสุดๆ
เชื่อว่าถ้าใครได้เห็นกับตาตัวเอง ต้องรู้สึกตะลึงกับบรรยากาศตรงหน้าค่ะ อยากนั่งทำงานทุกวันแล้วเห็นวิวนี้จริงๆ
เป็นมื้อเย็นที่ดีต่อใจมากๆค่ะ นั่งทานข้าวไป มองวิวไป :)) แล้วแสงเย็นคือสวยมากกกก
ตื่นเช้าๆออกไปเดินสูดอากาศหน้าหาดสดชื่นนนน
อีกกิจกรรมที่มาถึงต้องเล่น พายเรือคายัค แนะนำให้มาช่วงเช้านะคะ น้ำสวย แดดไม่แรงเกินไปด้วย
Di Mare Italian Trattoria ห้องอาหารอิตาเลียน อีกหนึ่งร้านอาหารของรีสอร์ทที่อยากให้มา ชอบกุ้งย่างกับสลัดส้ม เมนูอื่นก็อร่อย
อาหารที่รีสอร์ททุกเมนูอร่อยมากๆๆๆ ใช้คำว่ามากได้เปลืองกับที่นี่จริงๆ โดยเฉพาะอาหารใต้ติดใจสั่งมาทานวันแรกจนวันสุดท้ายก่อนกลับเลยค่ะ 5555
ปิดท้ายทริปด้วยรูปนี้นะคะ รู้สึกโชคดีมากช่วงที่ไปท้องฟ้าแจ่มใส พระอาทิตย์สวยทุกวันเลย 😊☀️🧡 แล้วเราจะกลับมาใหม่แน่นอน
ติดตามเพจ Whenwewander ได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้ค่ะ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
