4 มิ.ย. 2023 เวลา 12:15 • ประวัติศาสตร์

พระเอกคาวบอยสู่ผู้กำกับรุ่นเก๋า Clint Eastwood

หนังคาวบอยเป็นแนวหนังที่เป็นภาพจำของชาวโลกเมื่อนึกถึงความเป็นอเมริกา เพราะนอกจากจะเป็นแนวหนังที่สนุก มีความตื่นเต้นและการดวลปืนที่เท่ห์สะบัด และยังมีความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่สามารถหาได้ในหนังแนวอื่น
1
รองเท้าหนัง เสื้อกั๊ก หมวกใบบานๆ ผ้าคลุมที่คอ เข็มขัดที่มีปืนแนบอยู่ข้างเอวพร้อมที่จะลั่นไกลใส่ศัตรูที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม และควบม้าไปยังดวงอาทิตย์ที่กำลังตกดินเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นตะวันตกเป็นอย่างมาก ณ ช่วงหนึ่งในอดีต
และถ้าหากพูดถึงแนวหนังนี้แล้วล่ะก็ คอหนังเก่าและนักชมหนังรุ่นเก๋าส่วนมากคงไม่พ้นที่จะนึกถึงเจ้าพ่อหนังคาวบอย บุรุษผู้แสดงหนังคาวบอยในตำนานมาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น A Dollar Few More, A Fistful of Dollar
หรืออาจจะมีภาพจำของนักสืบสุดหล่อผู้ไล่ล่าเหล่าฆาตกรอย่างไม่ลดละและมีท่าทีการยิงปืนสุดสง่างามในซีรี่ย์ชุด Dirty Harry แถมยังมีผลงานการกำกับที่ตราตรึงใจผู้คนอย่าง A Million Dollar Baby หรือแม้กระทั่งบางเรื่องเล่นเองกำกับเองก็มี
Blockdit Original ในสัปดาห์นี้เราขอเสนอดารานักแสดงผู้ที่ถือว่ายืนระยะนานที่สุดคนหนังในวงการภาพยนต์ Hollywood จนได้รางวัลออสการ์และอื่นๆ อีกมากมาย นี่คือเรื่องราวของชายที่มีชื่อว่า Clint Eastwood
📌 ความเป็นวัยรุ่น งานแปลกๆ ชุดทหาร และการเริ่มต้น
Clint Eastwood Jr. เกิดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 1930 โตมาในครอบครัวที่ฐานะปานกลาง โดยคุณพ่อ Clint Eastwood Sr. ทำงานเป็นเซลล์ คุณแม่ Ruth Eastwood เป็นแม่บ้าน และ Jeanne Eastwood น้องสาวคนเล็กอีก 1 คน
เขาและครอบครัวต้องระหกระเหินย้ายถิ่นฐานอยู่บ่อยครั้งเนื่องจากพ่อแม่ของเขาต้องเปลี่ยนงานอยู่บ่อยๆ ด้วยความที่เขาเกิดมาในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ นั่นทำให้พวกเขานั้นได้มีโอกาสมาลงเอยที่ Oakland
และได้เข้าศึกษาที่ Oakland Technical High School
ณ ที่แห่งนี้เอง เขาได้ทำกิจกรรมที่เขาชอบหลายอย่าง ลงแข่งขันว่ายน้ำ เข้าร่วมชมรมบาสเก็ตบอล หรือแม้กระทั่งแสดงละครในงานของโรงเรียน ถึงแม้ว่าอย่างหลังสุดนี้เขาจะบอกว่าไม่อยากจำช่วงเวลานั้นเลย
ในปี 1948 หลังจากเรียนจบนั้นเอง เขาได้ใช้เวลาในการหางานเล็กๆ ต่างๆ ทำไปเรื่อย เช่น เป็นคนเก็บฟาง คนตัดไม้ คนทำความสะอาดปล่องไฟ คนขับรถบรรทุก หรือแม้กระทั่งเข้าร่วมกับกองทัพในช่วงสงครามเกาหลีและเป็นครูสอนว่ายน้ำให้แก่เหล่าทหาร
หลังจากปลดประจำการจากกองทัพ ในปี 1953 Clint ก็ได้เข้าศึกษาต่อที่ Los Angeles City College ในสาขาบริหารธุรกิจ ในขณะทำงานที่ปั้มน้ำมันไปด้วย ในปีเดียวกันนั้นเอง เขาได้มีโอกาสไปลองขึ้นกล้องจากคำชักชวนของเพื่อนของเขาที่รู้จักกันในกองทัพ
ด้วยท่าทางดูดีมีสง่าและหน้าตาอันหล่อเหลาของเขา ในปี 1955 เขาจึงได้สัญญา 1 ปีจาก Universal Studios และแสดงในภาพยนตร์สามเรื่องด้วยกัน โดยจะมีเรื่อง “Revenge of the Creature”, “Tarantula” และ “Francis in the Navy” และแน่นอนว่าทุกเรื่องเขาได้รับบทเป็นตัวประกอบหลังฉากอย่างไม่ต้องสงสัย
หลังจากหมดสัญญากับค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Universal Studios เขาจึงลองหาซีรี่ย์โทรทัศน์แสดงเพื่อหวังจะได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง แต่ก็คว้าน้ำเหลวจริงๆ เพราะเขาไม่ได้รับข้อเสนอจากที่ไหนเลยและกลับไปทำงานที่สระว่ายน้ำ
1
📌 กำเนิดคาวบอยแห่งวงการภาพยนตร์
2
ในที่สุดสวรรค์ก็เมตตา ปี 1958 เขาได้รับการติดต่อจาก Columbia Broadcasting System หรือ CBS ในการแสดงรายการโทรทัศน์ Rawhide ในบทบาทของคาวบอยหนุ่ม Rowdy Yates โดยรายการนี้ใช้เวลาไปตั้งแต่ปี 1958 ยาวจนถึง 1966 เขารับบทบาทนี้เป็นเวลาเจ็ดปีเลยทีเดียวเชียว
3
แต่ในขณะที่แสดงเรื่อง Rawhide นั้นเอง เขาได้รับการติดต่อไปแสดงภาพยนตร์ Spaghetti Western จากคำชวนของผู้กำกับ Sergio Leone ในเรื่อง A Fistful of Dollars ในปี 1964
(หลายคนคงสงสัยว่า Spaghetti Western คืออะไร Spaghetti Western คือ แนวหนังคาวบอยที่ซึ่งผู้กำกับเป็นชาวอิตาลี นั่นจึงทำให้หนังคาวบอยปกติออกมาเป็นคาวบอยที่ดูคาวบ๊อยคาวบอย แต่นั่นเป็นแนวหนังที่เป็นที่นิยมมากๆ ในช่วงยุคนั้น)
ด้วยฝีมือกำกับของ Sergio Leone และฝีมือการแสดงของ Clint นั่นจึงทำให้เขาดังเป็นพลุแตก สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองและภาพยนตร์อีกสองเรื่องที่เขาจะได้แสดง นั่นก็คือ For a Few Dollars More ในปี 1965 และ The Good The Bad and The Ugly ในปี 1966
ซึ่งเรื่องสุดท้ายที่กล่าวมานี้ ทำให้เขากลายเป็นซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการภาพยนตร์อย่างแท้จริง โดยหนังเรื่อง The Good The Bad and The Ugly ได้รับคะแนนจากเว็บมะเขือเน่าและผู้ชมไปถึง 97% เลยทีเดียว นั่นแสดงถึงความขลังของหนังเรื่องนี้ ที่ได้รับความนิยมจากทั้งผู้คนในยุคนั้นยาวนานมาถึงยุคสมัยนี้เป็นเวลากว่า 40 ปี
ถ้าได้รับความนิยมในปัจจุบันขนาดนี้ ในอดีตจะขนาดไหน โดย The Good The Bad and The Ugly ขึ้นหิ้งเป็นหนังคาวบอยที่ดีที่สุดตลอดกาลจากคำชมจากปากของเหล่าผู้กำกับ นักแสดง ผู้ชมและรีวิวจากสื่อใหญ่แทบทุกคนและทุกสำนักไปแล้ว
📌 เล่นเองกำกับเอง นักเลงพอ
 
หลังจากที่ได้โลดแล่นอยู่ในวงการภาพยนตร์ Hollywood ในฐานะพระเอกคาวบอยตัวท็อปได้ระยะหนึ่ง Clint ก็ได้มีความคิดที่อยากจะสร้างสตูดิโอทำหนังเป็นของตัวเอง
ในปี 1967 Malpaso Production ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น และได้ผลิตหนังเรื่องแรกของสตูดิโอออกมาที่มีชื่อว่า “Hang’em High” หนังคาวบอยในปี 1968 นำแสดงโดยคลินท์ อีสต์วูดภายใต้การถ่ายทำของสตูดิโอของเขาเองและได้โอกาสควบบทบาทกำกับและแสดงเองเป็นครั้งแรกในเรื่อง "Play Misty for Me”
ฉายในปี 1971 เป็นการลบคำปรามาสจากคนในวงการที่ดูถูกความสามารถในการกำกับของเขา มากกว่านั้นก็เป็นโอกาสดีที่เขาจะลบภาพจำตัวเองในบทบาทพระเอกคาวบอย ก้าวสู่บทบาทใหม่ๆ ที่รออยู่
📌 สุดยอดความสำเร็จ
ชีวิตในบทบาทผู้กำกับของ คลินท์ อีสต์วูด ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นลำดับจนกระทั่งในวัย 73 ได้สร้างภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่น่าจดจำที่สุดคือ “Million Dollar Baby (2004)” สุดยอดหนังหดหู่อันดับต้นๆ ในวงการภาพยนตร์ ถ่ายทอดเรื่องราวของการสู้บนสังเวียนของ แม็กกี้ นักมวยสาวที่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นแชมป์โลก จากหนังนักมวยในตอนแรก กลับกลายเป็นการตั้งคำถามกับความเป็นมนุษย์และถ่ายทอดออกมาได้อย่างแหลกสลาย
1
📌 แก่แต่เก๋า
Million Dollar Baby ถูกเสนอเข้าชิงออสการ์ถึง 7 สาขาและในท้ายที่สุดก็กวาด 4 รางวัลกลับบ้านไป
ได้แก่
  • 1.
    ดาราสมทบชายยอดเยี่ยม (มอร์แกน ฟรีแมน)
  • 2.
    ดารานำแสดงหญิงยอดเยี่ยม (ฮิลารี สแวงก์)
  • 3.
    ผู้กำกับยอดเยี่ยม (คลินต์ อีสต์วูด)
  • 4.
    ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
สร้างสถิติผู้กำกับภาพยนตร์ที่อายุมากที่สุดที่ได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมในงานออสการ์ เป็นการยืนยันว่า ในเส้นทางสายภาพยนตร์ของชายคนนี้ถึงแม้ว่าจะอายุถึง 73 ปีแล้ว แต่ความสามารถก็ไม่เคยแผ่วเลยจริงๆ และปี 2023 นี้เอง
Clint ในวัย 93 ปี ยังคงเดินสายการกำกับและแสดงอยู่เรื่อยมาและยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแต่อย่างใด
ผู้เขียน : ชินกฤต สุขสมปราถนา Content Creator Intern, Bnomics
ภาพประกอบ : พันกร อรียพิพัฒน์ Graphic Design Intern, Bnomics
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:
โฆษณา