3 มิ.ย. 2023 เวลา 17:14 • ความคิดเห็น
อำเภอศรีราชา
ดูไปเรื่อยๆค่ะ ไม่ต้องรีบ ส่วนตัวตอนนี้เตรียมพร้อมไว้ชาติหน้าแล้วค่ะ
เอาแบบจริงจัง เคยฟังคลิปคุณหมอประเวช ท่านเล่างานวิจัยของทางสหรัฐ(ซึ่งของไทยเองก็ล้อตามกัน)​
ให้ฟังว่า..... คนที่แต่งงานตอนอายุ 25 ปี มีโอกาสหย่าร้างน้อยกว่าคนที่แต่งกันตอนอายุ 20 ปี
แต่พออายุ 32 ปีไปแล้วโอกาสหย่าร้างกลับไม่น้อยลง
อันนี้คุณหมอก็ย้ำค่ะ ว่าเป็นแค่ตัวเลข ให้ฟังหูไว้หู การใช้ชีวิจคู่ร่วมกันมีหลายปัจจัยมาก ไม่ใช่แค่อายุ
1
ถ้าให้ตัวเองประเมินตัวเองย้อนกลับ ตอนอายุ ยี่สิบกว่ายังเด็กมาก ชีวิตติดกับดักการเรียน และงาน ต่อให้เป็นคนดี จิตใจดี นิสัยน่าคบ เพื่อนเยอะแยะไม่เคยมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับใครก็ตาม
ชีวิตที่ใช้เหตุใช้ผล จนไม่ใส่ใจเรียนรู้อารมณ์ของตัวเอง ซึ่งถ้ามีชีวิตคู่ตอนนั้นคงไม่มีความสุขค่ะ จะยังไม่เข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้ง รู้จักตัวเองไม่มาก มองคนฉาบฉวย ยึดติดมุมตัวเองมาก ตัดสินคนอื่นง่าย แล้วก็บังเอิญว่า ช่วงชีวิตนั้นไม่สนใจเรื่องชีวิตคู่เลย..
บ้างาน... เรื่องงานเก่ง แต่เรื่องชีวิตไม่ประสา ไม่สนใจชีวิตคู่ ไม่ให้ค่าคนที่เข้ามาในชีวิตมากไปกว่าเพื่อน....
กำแพงสูงปิดตัวเอง แล้วก็ไม่เจอใครที่อยากจะทำให้อยากปีนกำแพงออกมาด้วยเลยยิ่งมีความสุขในกำแพงนั้น
ตอนอายุ สามสิบต้นๆ ใช้ชีวิตมาสักพัก เริ่มรู้จักตัวเองมากขึ้น ใช้เหตุใช้ผลกับชีวิตได้ดีขึ้น มีอารมณ์หลากหลาย แต่ยังไม่ตกผลึกความคิด เป็นช่วงชีวิตที่ได้เรียนรู้ตัวเองเยอะมาก การเรียนรู้ใครอีกคนในช่วงนั้นทำให้ได้เรียนรู้ตัวเองในมุมที่ไม่เคยรู้จักตัวเองมาก่อน การสื่อสารระหว่างคนสองคน ทำให้เติบโตค่ะ... ถ้ามีคู่ช่วงนั้นจริงๆ ก็คงสุขๆทุกข์สลับกัน อาจจะทุกข์ซะบ่อยกว่าสุขก็ได้ ก็ปล่อยผ่านสิ่งที่ไม่ทำให้เรามีความสุขสบายใจค่ะ
อายุสี่สิบต้นๆ เข้าใจโลก เข้าใจชีวิต รู้จักอารมณ์ตัวเองมากขึ้น มีเหตุมีผลมากขึ้น มีความสมดุลย์ในตัวเอง และปรับสมดุลย์กับคนใกล้ตัวได้ง่ายขี้นมาก....
เปิดรับการเรียนรู้และปรับตัวดีมาก... ส่วนตัวมองว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีของชีวิตตัวเองถ้าจะเรียนรู้การมีชีวิตคู่ หรือเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่กับใคร... ถ้ามี ไม่ได้แปลว่าจะต้องแต่งงานเสมอนะคะ แค่ถ้ามันไปได้เรื่อยๆก็ไปเรื่อยๆ
1
ตอนนี้อายุจะห้าสิบ แข็งแกร่งพอจนมั่นใจว่าคงไม่ต้องพึ่งพาใครก็ได้ เดินทางคนเดียวมาเกินครึ่งชีวิตแล้ว ผ่านมรสุมชีวิตตามลำพังมาได้ครั้งแล้วครั้งเล่า....
ชีวิตคู่อาจจะกลายเป็นเรื่องที่ต้องคิดเยอะดูเยอะ อย่างรอบคอบมากไปเลย ชีวิตเราไม่จำป็นต้องมาพลาดเรื่องแบบนี้ในตอนบั้นปลายชีวิต
2
ส่วนตัวมองว่า ภมันเป็นวัยที่ไม่มีเวลให้เสียไปกับเรื่องพวกนี้เล่นๆแล้ว ถ้าไม่ได้ดีกว่าการอยู่คนเดียว คือเรามีความสุขขึ้น เติบโตขึ้น คู่ชีวิตต้องโตพอที่จะคุยกันเข้าใจ ด้วยภาษาที่สื่อสารกันได้สบายใจ มีคลื่นความคิดที่บางคลื่นต่อกันติดโดยง่าย คลื่นที่แตกต่างก็เล่นประสานกันได้ หรือไม่ก็ไม่จู่โจมกันทางความคิด ซึ่งมันก็จะออกมาเป็นคำพูดและการกระทำ ... มีทั้งความเหมือน และเข้าใจความต่าง.... อาจต้องทำ MOU 😂 เพราะชีวิตจู่ๆมันก็กลายเป็นรัฐบาลผสม... ต้องปรับตัว
2
การมีชีวิตคู่ก็ไม่มีความหมายต้องเฝ้ารอ สำหรับชีวิตนี้... ก็ชาติหน้าละกันค่ะเผื่อเจอเร็ว 😅😁😂
แต่ถ้าคิดจะเป็นแม่ของลูก ผู้ชายก็ต้องเลือกผู้หญิงในช่วงวัยเจริญพันธุ์ 20-35 กำลังดี สำหรับการตั้งครรภ์.. แต่ก็เป็นวัยที่เปี่ยมล้นด้วยพายุอารมณ์นะคะ 😅...
เรื่องคู่แต่ละคนมีวาระ มีเวลาของตัวเองค่ะ เมื่อเจอคนที่ใช่มันจะรู้เอง..... บางคนเจอคนแรกก็ใช่เลย บางคนต้องเจอคนที่ไม่ใช่ก่อนเพื่อให้ได้รู้ว่า คนที่ใช่เป็นคนแบบไหน เพราะคนที่เราเจอจะเป็นคนที่สะท้อนตัวเราออกมา
1
ถ้าเขาคนนั้นทำให้เราเห็นคุณค่าตัวเอง รักตัวเอง พัฒนาตัวเอง มีความสุข เป็นตัวของตัวเอง แตกต่างแต่เข้าใจกันได้ .....​
เราจะรู้เองว่าเขาใช่สำหรับคนแบบนี้ ต่อกันติด ถ้าไม่ใช่มันต่อกันไม่ติดค่ะ พูดกันก็คนละคลื่นภาษา ความคิดยิ่งคนละทาง ชีวิตก็จะไปคนละแบบเลย....
ถ้าแฟนคือคนที่คบหาเรียนรู้กันจริงจังเปิดเผย ซึ่งอาจจะเป็นคนที่เราจะแต่งงานด้วย ซึ่งคนที่ใช่เขาจะเข้ามาตอนไหน อายุเท่าไหร่ เราไม่รู้เลย
โฆษณา