4 มิ.ย. 2023 เวลา 13:43 • การเมือง

ทำไม "สุราเสรี" จึงสำคัญกับเกษตรกรไทย?

ปรากฎการณ์สุราพื้นบ้านขาดตลาดเพราะคำพูดของทิม พิธานี้น่าสนใจดีครับ ทิม พิธา เขาใช้ความเป็น Superstar ของตัวเองในการโปรโมทสินค้าท้องถิ่น จากเดิมที่เหล้าบางยี่ห้อไม่มีใครรู้จักก็กลายเป็นขายดีอย่างเทน้ำเทท่า หมดเกลี้ยงสต็อคในช่วงข้ามคืน
แบบนี้จะเรียกว่า Soft Power ก็คงไม่ผิด ได้ถึง 2 เด้งเลยด้วยซ้ำ เด้งแรก คือ ใช้คะแนนนิยมของตัวเองที่มีฐานแฟนคลับในโลกออนไลน์เยอะ ประหนึ่งอินฟลูเอนเซอร์คนนึง (คล้ายๆกรณีน้องมิลลิไปกินข้าวเหนียวมะม่วงบนเวที) ส่วนอีกเด้งหนึ่งคือ คนไทยจำนวนมากได้ตระหนักรู้ว่าตลาดสุราพื้นบ้านของไทยมันไม่ได้มีแค่เหล้าขาว 40 ดีกรีที่ขายกันตามชั้นวางบนห้างเท่านั้น แต่ยังมีเหล้าดีๆที่ไม่ถูกนำขึ้นห้างอีกเป็น 10 แบรนด์
2
แม้จะมีบางกลุ่มที่ถูกผลิตโดยนักธุรกิจต่างประเทศ แต่ในภาพรวมแล้วก็คงสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า วงการสุราพื้นบ้านไทย ไม่ว่าจะเบียร์ เหล้า ไวน์ มันถูก "มองเห็น" มากขึ้น หลังจากถูกปิดกั้นมาเป็นเวลานาน คุณดูสิ สมัยก่อนผลิตได้ก็ต้องขายกันอย่างเงียบๆ โฆษณาก็ไม่ได้
ไปหลายๆจังหวัด ก็เห็นๆกันอยู่นะว่าเขามีวางขายตามร้าน และตามไร่ผลไม้ดังๆ แพคเกจจิ้งอาจจะดูบ้านๆ แต่รสชาติของหลายๆแบรนด์ก็ทำกันไม่ขี้เหร่เลย สุดท้ายมันก็เลยไม่เป็นที่รู้จัก บางรายทำออกมาแล้วขายไม่ได้ ไม่มีคนซื้อก็ล้มหายตายจากไปเงียบๆ อย่างน่าเสียดาย
การเลือกตั้งครั้งนี้และเมื่อปี 2019 ผมไม่ได้กาให้พรรคก้าวไกลนะ แต่ผมชื่นชมความพยายามที่เขาทำการเคลื่อนไหวเรียกร้องแนวคิดสุราเสรี เบียร์คราฟต์ และพยายามศึกษาหาข้อจำกัดในการทำตลาดของไทย และในขณะเดียวกันก็ช่วยกันดันเพดานให้ไทยสามารถมี พรบ สุราก้าวหน้าขึ้นมาเพื่อจะให้เกษตรสามารถนำพืชผลมาแปรรูปเป็นสินค้าที่มีราคาสูงขึ้นกว่าข้าวดิบๆได้แบบต่างประเทศ
เมื่อตอนปี 2550 ผมเคยไปลงพื้นที่ดูอาชีพเกษตรกรในต่างจังหวัด ชาวนาส่วนใหญ่ที่เขาปลูกข้าว ปลูกพืชผล ทำสวน ทำไร่กันเนี่ย 100 ทั้ง 100 เขาไม่เคยแปรรูปก่อนขายกันเลยนะ ทำกันเป็นวงจรเดิมๆ ปลูก เก็บเกี่ยว แล้วก็ขายพืชผลแบบดิบๆนั่นแหละ
2
ราคาและรายได้ที่เป็นผลตอบแทนมันก็ไม่เคยแน่นอน ขึ้นอยู่กับกลไกตลาด เดี๋ยวราคาขึ้น เดี๋ยวราคาลง บางพวกไปทำ Contract farming ทำเกษตรพันธสัญญากับบริษัทใหญ่ๆเพื่อหวังจะมีรายได้ที่แน่นอน แต่พอไปทำจริงๆ สุดท้ายเขาก็มาเลือกแต่สินค้าที่เกรดดีๆไป ของไม่ดีก็ทิ้งไว้ ไม่รับซื้ออีก ก็ต้องเอาไปเร่ขายตามตลาดรองๆ
2
ปี 2562-2563 ผ่านมาประมาณ 10 ปีผมไปลงพื้นที่ตามภาคเหนือ ก็ยังเหมือนเดิม ดีหน่อย บางรายเริ่มเปลี่ยนไปทำพืชเศรษฐกิจใหม่ๆบ้างแล้ว เช่น ทำทุเรียนแทน เพราะส่งจีนแล้วขายดี แต่ผ่านจากนั้นไป 3 ปี ล่าสุดจีนทดลองปลูกทุเรียนที่ไหหลำได้สำเร็จแล้ว แล้วยังมีการไปลงทุนทำสวนทุเรียนในเวียดนามและลาวอีก เดี๋ยวทุเรียนก็ราคาร่วงอีกในอนาคต
ปัญหานี้แก้ยาก และไม่ใช่ว่านึกจะแก้ก็แก้ได้ เพราะมันเป็นปัญหาระดับฐานรากจากอุปนิสัยและแบบแผนพฤติกรรม แนวคิดของคนทำเกษตรในไทย ที่เวลาเห็นใครปลูกอะไรแล้วรายได้ดีก็จะหันไปปลูกตามๆกัน อันนี้แหละที่แก้ยาก ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีความรู้ แต่เพราะไม่มีใครไปสอน ชี้แนะแนวทางดีๆให้กับเขา
แนวทางสุราเสรี และนโยบายสุราก้าวหน้าของพรรคก้าวไกลน่าจะเป็นเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ดี อย่างน้อยๆ ก็พอสร้างกระแส สร้างการตระหนักรับรู้ให้ชาวนา เกษตรกรไทยพอจะเห็นแนวทางว่าพืชผลที่ตัวเองปลูกนั้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องขายกันแบบดิบๆ ปลูกข้าวก็ขายข้าวอย่างเดียว
แต่มันสามารถนำไปประยุกต์ ดัดแปลง และแปรรูปไปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีก เช่น เหล้าขาว เหล้ารัม ไวน์ และเบียร์ ซึ่งหากทำสำเร็จก็จะสร้างรายได้ที่มั่นคง และมีโอกาสขยายไปทำตลาดยังต่างประเทศได้อีก เพราะเมื่อผลิตภัณฑ์มันถูกแปรรูปแล้ว ราคามันย่อมสูงขึ้น
2
อีกทั้งพอมันกลายเป็นผลิตภัณฑ์อย่างเป็นเรื่องเป็นราว มันก็แปลว่าผลิตภัณฑ์นั้นจะมี "ยี่ห้อ" หรือ แบรนด์ ที่จะทำให้คนซื้อจดจำ แล้วกลับมาซื้ออีกได้ ไม่ใช่แค่ข้าวเป็นกระสอบๆ หรือแค่ผลไม้จากสวนนั้นสวนนี้ที่จะหาซื้อจากไหนมาแทนก็ได้ เพราะไม่มีตรา ไม่มียี่ห้อ แบบเมื่อก่อน
1
ดูอย่างเยอรมนีสิครับ เขามีบริษัททำคราฟต์เบียร์ตั้ง 900 ราย มีโรงต้มเบียร์อีกเกือบ 2,000 แห่ง รวมแล้วในปีหนึ่งๆเยอรมนีส่งออกเบียร์เกือบ 6,000 ยี่ห้อ ทำรายได้เกือบ 40,000 ล้านบาทในหนึ่งปี
เบียร์กระแสรอง เบียร์ชาวบ้าน เบียร์รายย่อยเขาเยอะ เพราะภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ้านเขาไม่ได้รุนแรงแบบบ้านเรา อย่างที่ไทย ภาษีมันตั้งเกือบ 50% คิดเป็น 20-30 บาท ต่อขวด คือบางทีเราซื้อเหล้า ซื้อเบียร์เนี่ย ราคามันอาจจะไม่ถึง 100 นะ แต่มันบวกภาษีไปแล้วมันเลยต้องบวกเพิ่มจนราคามันแพงขึ้น ถ้าเป็นในยุโรป ภาษีมันแค่ 5-10% เท่านั้นเอง ต่างกันขนาดไหน
2
เบียร์แพง คนไม่ซื้ออีก คนรากหญ้าเข้าไม่ถึง ตลาดคราฟต์เบียร์ไทย ดูสิทำออกมา ขวด/กระป๋องละ 200-300 บาท ขายเป็นตลาด Niche เลย คนทั่วไปแทบจะเข้าไม่ถึง มนุษย์เงินเดือน ทำงานได้เดือนละ 18,000-20,000 บาทซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศนั้น ยิ่งแล้วใหญ่เขาไม่มากินหรอก
1
ข้อจำกัดมันเยอะมากเลยนะ ตลาดน้ำเมาไทยเนี่ย แต่กระแสของทิม พิธานี้ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับตลาดดังกล่าว ก็หวังว่ามันจะไม่ใช่แค่กระแสชั่วครู่ชั่วยามแล้วกัน มันเป็นความหวังของเกษตรกรเลยเชียว
1
#ก้าวไกล #การเมือง #ข่าวการเมือง #สุราก้าวหน้า #เบียร์
โฆษณา