ยุวชนนาซีไทย ....ชักบ้าไปกันใหญ่แล้ว....
เด็กสมัยนี้มันไม่รักชาติ....
เด็กสมัยนี้ถูกล้างสมอง....
ประโยคที่ได้ยินกันจนเอือมระอา
และดูจะสร้างปัญหาอย่างมากในปัจจุบันด้วย
ทั้งในแง่การเมืองและสังคม
สิ่งนี้ บางคนบอกว่านักการเมืองเมืองไปล้างสมองเด็ก
อ่ะ...สมมุติว่าใช่
เราก็ต้องมาถามกันว่า แล้วทำไมเด็กถึงเชื่อนักการเมือง
หัวปฏิรูปมากกว่านักการเมืองแบบโบราณล่ะ
ทั้งที่ก็มีพื้นที่สื่อเท่าๆกัน
(ผมไม่เรียกอนุรักษ์นิยมแล้วล่ะ เพราะสรุปว่าพวกนี้
ไม่ใช่อนุรักษ์นิยมหรอก แค่หวงชามข้าว)
อย่าไปโทษต่างชาติหรือใครครับ
ใช้ปัญญาสักนิด จะพบว่า...
ปัญหามันมาจากสิ่งที่คนรุ่นเก่าเคยทำ
แต่มองว่ามันปกตินั่นแหละ
แต่สำหรับเด็กแล้ว มันไม่ดี และไม่ปกติสำหรับเขา
แล้วเราไม่แก้ไข เขาก็เลยไม่ฟังเรา มันก็เท่านั้น...
ตัวอย่างแบบเอาง่ายๆ นะ
แค่เรื่องระบบเด็กเส้นที่เด็กมันเจอ
มาตลอดเนี่ยชีวิตมันเนี่ย
แล้วเราจะไปบอกให้มันมองระบบทั้งหมดดี
ก็คงเป็นไปไม่ได้หรอก
เมืองไทยเป็นพวกบ้าสี บ้าเส้นมาแต่ไหนแต่ไร
ยุคก่อน มันอาจเป็นเรื่องปกติ
เพราะคนจบในระดับสูง ปริญญาตรีมีไม่มากนัก
จำนวนสถานศึกษาก็น้อย ไม่ใช่ยุคแย่งงานกันทำ
ยอมรับเถอะ คนรุ่น 40 อัพ ที่กำลังมีปัญหากับเด็กเนี่ย
ยอมรับได้กับระบบเหล่านี้ และมองเป็นเรื่องดีเสียด้วยซ้ำ
หลายคนก็โตมากับระบบเหล่านี้ ถึงได้เห็นดีเห็นงาม
กับเรื่องที่ความจริงมันไม่ถูกต้องเลย
คนรุ่นเรา (ผม 45 เข้า 46 ) เจอมาจนชินทั้งกลุ่มสีโรงเรียนมัธยม และกลุ่มสีมหาวิทยาลัย
ชินจนไม่คิดอะไร...
คนรุ่นเก่า อาจเรียกมันว่า เพื่อนกันช่วยกัน
แต่เด็กมันมองว่านี่คือการปิดโอกาสของคนนอก
เป็นระบบอุปถัมภ์ ที่สร้างปัญหาให้สังคม
และปัจจุบันคนนอก ที่ไม่ได้จบโรงเรียนคอนเนคชั่นดีๆ
มันก็มีมากขึ้น โดยเฉพาะในระดับมหาวิทยาลัย
ทั้งราชภัฏต่างๆ และมหาวิทยาลัยเอกชน
คนเหล่านี้มีปัญหามาก กับระบบสีในประเทศไทย
เข้างานยาก หรือคนที่ทำแล้วไม่โต เพราะไม่มีพวก
มันเยอะมากกว่าคนที่จบจากมหาวิทยาลัยที่เป็นสี
หลัก ที่ครองครองระบบสังคมอยู่มาก
เมื่อคนเหล่านี้ เขาคิดว่าเสียโอกาสในชีวิต
หรือมองว่ามันไม่เท่าเทียมในการแข่งขัน
มันก็ธรรมดา ที่เขาจะต่อต้านระบบที่เคยเป็นมา
...เขาผิดเหรอ ? ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง....
และเด็กที่เข้าไม่ถึงระบบสีสถาบันหลัก
ส่วนมากก็คือเด็กยากจน ซึ่งมันมีจำนวนมากกว่าเด็ก
รวยๆ ที่มีความพร้อมในทุกด้าน จนเข้าถึงระบบดั้งเดิมได้
มากมายหลายเท่า
...อย่าว่าแต่ในภาคพลเรือนเลย ทหารชั้นผู้น้อยเด็กๆ มันก็ไม่เอาระบบในกองทัพ ที่บ้ารุ่น บ้าสถาบันเหมือนกัน ...
มันจึงไม่แปลกอะไร ที่เด็กส่วนมาก จะมีแนวโน้มสนับสนุน
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสังคม แล้วกลายเป็นคะแนนเลือกตั้งออกมา
...แล้วจะโทษมันได้อย่างไร...
อีกเรื่อง ที่พูดกันมาก คือ เด็กขายชาติ โง่
ไปบูชาฝรั่ง เกลียดมิตรแท้ ญาติสนิทอย่างจีน
อันนี้คืออีกเรื่อง ที่คนสองวัยมองมุมที่ต่างกัน
แต่ที่จริงแล้ว สาเหตุก็มาจากประสบการณ์
และผลกระทบในชีวิตจริงๆของเด็กมันเองนั่นแหละ
ไม่ใช่มีนักการเมืองไปชี้นำมัน แต่มันเจอกับตัว
การเด็กแอนตี้จีน ที่จริงแล้วมันสมเหตุผลมากๆเลย
และสาเหตุก็ไม่ใช่มีมาจากรสนิยมทางการเมือง
ทำนองว่าเกลียดจีนที่เป็นคอมมิวนิสต์
แต่มันเกิดจากปัจจัยในชีวิตจริงต่างหาก
ไม่ต้องไปอ้างว่าสื่อตะวันตกล้างสมองเด็ก
โดยเฉพาะในวัยทำงาน มันเจอปัญหาจากคนจีน
ที่เข้ามาลงทุนด้วยตัวมันเอง
เช่น เด็กที่ทำงานในบริษัทจีน จะรู้ดี ว่าไม่มีทางโต
ทำไปได้ระดับหนึ่งก็จะแป๊ก ไม่มีทางไปต่อได้
เพราะคนของเขา จากบ้านเขามันขวางอยู่
...อันนี้ถามพวกเด็กวิศวะได้ รู้กันดี ....
ทุกวันนี้ ยิ่งเข้ามามาก แถมมายุ่งกับธุรกิจขนาดเล็กอีก
เด็กมันก็กลัวสิ งานหายากอยู่แล้ว
ยังต้องมาแข่งกับคนจีนพวกนี้อีก
เขียนหลายทีแล้ว กับวิธีทำงานของทุนจีน
คงไม่ต้องเขียนอะไรอีกให้มาก
สิ่งเหล่านี้ เด็กมันเจอด้วยตัวเอง มากขึ้นทุกวันๆ
แล้วจะให้มันรักคนที่จะมาแย่งงานมันเหรอ ?
มันจึงไม่แปลกอะไร ที่มันจะสนับสนุนทางการเมือง
กับพรรคที่มีแนวโน้มตีตัวห่างจากจีนบ้าง
...ผมถามย้อนกลับนะ...
...คนที่มีอายุที่ทุกวันนี้รักจีนนักหนา ถ้าโดนแบบพวกมันบ้าง ท่านจะยังรักไหมล่ะ ?....
...เรื่องมันก็เท่านั้น ไม่ต้องไปคิดทฤษฎีสมคบคิดบ้าบออะไร ให้มันสลับซับซ้อนเลย...
ในมุมกลับ
ผมก็ไม่โทษคนมีอายุที่แอนตี้ตะวันตกนะ
เพราะเข้าใจ ว่าคนรุ่นก่อนผมนี่ก็โดนมาหนัก
ในช่วงต้มยำกุ้ง
แต่นั่นแหละ ถ้าคนแก่อย่างเราเกลึยดฝรั่ง
เพราะทำให้เราเดือดร้อนได้....
แล้วเรามีสิทธิ์อะไรไปห้ามไม่ให้เด็กมันเกลียดคนที่
ทำให้มันเดือดร้อนได้เหมือนกัน ?
...มันก็ใจเขาใจเรานั่นแหละครับ...
ที่จริง คนรุ่นเรา มันควรจะมานั่งถามตัวเองมากกว่านะ
ไอ้ที่เราปล่อยจีนเข้ามามากไปเนี่ย
มันไปทำให้เด็กเทไปทางความคิดแบบ
ตะวันตกใช่หรือไม่ ?
...ไม่ใช่เอาแต่ไปโทษคนอื่น ว่าไปล้างสมองมัน...
สุดท้าย ผมกล้ายืนยันว่าเด็กไทย รักชาติ
แต่มันอาจไม่ใช่ความรักแบบที่เราต้องการให้มันเป็น
เด็กทุกวันนี้ ยังรักความเป็นคนไทย รักแผ่นดินไทย
เอาว่าผมยังไม่เคยเห็นเด็กคนไหนตัดไม้ทำลายป่า
แอบสร้างสนามกลอฟ์ แอบทำเหมือง หรือค้ามนุษย์
อย่างที่ไอ้คนแก่ๆที่ว่ารักชาติทำเลยนะ
ทั้งที่บางกลุ่ม มีธุรกิจ มีทุน ใหญ่พอที่จะทำแบบนั้นได้
แต่มันมีบางจุดเท่านั้นแหละ ที่เด็กมันรับไม่ได้
ใครที่บอกเด็กไม่รักชาติ ผมคิดว่าใจแคบเกินไป
เหมือนเราไปออกแบบให้มัน ว่าต้องรักแบบไหน
ทั้งที่บริบทของสังคมมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว
มันก็เหมือนกับคนอายุ 60 อัพตอนอายุน้อยนั่นแหละ
รักชาติแบบเดียวกัน วิธีเดียวกันกับคนรุ่นรัชกาลที่ 5
ไหมล่ะ ? มันก็ไม่ใช่...
มันก็รักในแบบของพวกมัน ตามยุค ตามเวลานั่นแหละ
และผมเชื่อด้วยว่า มันก็รักไม่น้อยกว่าเรา
ท่านผู้อ่านลองไปดูตามสนามกีฬาเวลาทีมไทยลงแข่งสิ
เด็กทั้งนั้นแหละครับที่เข้าไปดู เป็นกำลังใจให้นักกีฬา
ที่มีธงไตรรงค์ติดเสื้อ
ในขณะที่แก่ๆอย่างเราหมดศรัทธา
กับกีฬาบางประเภท ไม่ดู ไม่สนับสนุนไปแล้ว
แต่เด็กมันยังรักศักดิ์ศรีของทีมชาติอยู่เลย
หรือเกรียนไทย ที่ออกไปปกป้องเวลาใครมาด่าประเทศ
ในโซเชี่ยล จนขึ้นชื่อลือชา ว่าไทยแตะไม่ไึด้
ดาราดังมาจากไหนไม่รู้ล่ะ ถ้าด่าคนไทย
ไอ้พวกนี้ใส่ยับทันที
ไอ้พวกนี้ มันก็เด็กทั้งนั้น...
แล้วจะว่ามันไม่รักชาติ รักความเป็นคนไทยได้ไง...
ความรัก ความชอบอะไรก็ตาม
มันมีเหตุผลในตัวมันเอง ที่ใครจะรัก ชัง อะไรสักอย่าง
ประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่าง อุปสรรคที่เจอในชีวิต
มันก็ต่างกันตามวันเวลา
ยิ่งเวลาผ่านมาก สิ่งเหล่านี้ก็ยิ่งแตกต่าง
มันไร้สาระ และเห็นแก่ตัว ที่จะบอกให้ใครคิดเหมือนเรา
โดยใช้ประสบการณ์ของเราเป็นตัวตั้ง
ผมเชื่อว่าทุกคนรักชาติ ในสาระสำคัญของความหมาย
ที่สังคมไทยสับสนเละเทะทุกวันนี้
เพราะเรา ไม่เอาสาระสำคัญมาพูดกัน
เราถึงกับสับสนในสาระของความเป็นชาติ
แต่กลับเอาเรื่องปลีกย่อยมาเป็นเงื่อนไขที่จะทะเลาะกัน
กับเด็กนั้น ผมถือว่าประสบการณ์มันน้อย
และเห็นใจ ในการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างลำบากในปัจจุบัน
ก็อาจทำอะไรห่ามๆ ไปบ้าง
ผมจึงไม่โทษมัน และเข้าใจเหตุผล
แต่กับคนแก่ที่ได้มาแล้วทุกอย่างในชีวิตเนี่ย
มันควรจะใจกว้างขึ้นได้บ้างไหม ?
ให้เด็กมันเลือกทางของมันบ้าง
จะดีจะเลว อนาคตก็พวกมันเองแหละ ที่รับกรรมไป
จะมานั่งตั้งแง่กับพวกมันทำไม ผมไม่เข้าใจ
แทนที่จะสำนึก ว่าเรานี่แหละคือผู้ไปสร้างปัญหาให้มัน
และเรานี่แหละ ที่จริงๆแล้ว แก้ปัญหาให้พวกมันได้
แต่เราไม่ทำกันเพราะห่วงผลประโยชน์ตัวเอง
แล้วก็เอาแต่ด่ามัน
แบบนี้มันได้อะไร....
แต่รุ่นเรากลับเลอะเทอะกันขึ้นทุกวันๆ
ไม่เคยสำนึกตัวเอง ถึงความผิดพลาดที่ทำกันไว้
แล้วจะให้เด็กที่ไหนมันเคารพ และเชื่อที่เราพูดล่ะ...
พึ่งเราไม่ได้ มันก็ต้องหาที่พึ่งอื่น ที่เราอาจมองว่าไม่ดี
แบบนี้เราจะโทษมันฝ่ายเดียว ก็คงไม่ได้หรอกนะ
...เรื่องมันง่ายๆแค่นี้แหละ ถ้าจะแก้ปัญหาน่ะนะ...
...แค่เลิกแต่งนิยาย ปัดสวะให้พ้นตัว
...ยอมรับความผิดพลาดของเรา แล้วไปแก้กันซะที...
...มันก็จบ...
แต่ไม่ทำกัน สร้างทฤษฎีสมคบคิด ปกป้องตัวเองไปวันๆ..
...มันคงสงบหรอก...
นี่ก็แก่กระโหลกกะลามาอีกคนแล้ว กับทฤษฎี
ว่า มีคนปลุกปั่นเด็กแบบจะสร้างยุวชนนาซี....
...เพราะเห็นข่าวนี้นี่แหละ ถึงเขียนโพสต์นี้ขึ้นมา....
...เลิกปัญญาอ่อนซะทีเหอะ....
ข่าวงี่เง่า ยุวชนนาซี 😑😑😑😑
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
