22 มิ.ย. 2023 เวลา 07:41 • การเมือง

ทำไมการเมืองไต้หวันจึงสำคัญต่อโลก - Blockdit Originals โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร

การเลือกตั้งที่สำคัญที่สุดในโลกอาจเป็นการเลือกตั้งที่เกาะไต้หวันในเดือนมกราคมของปีหน้า
การเมืองไต้หวันแต่เดิมเป็นการแข่งขันระหว่างสองพรรคใหญ่ โดยที่พรรคฝ่ายค้านปัจจุบันคือ KMT (ก็กหมินตั๋ง) เป็นมิตรต่อจีน เพราะไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะรวมชาติกันในอนาคต(อันไกลโพ้นและไม่มีกำหนด)
1
ในขณะที่พรรครัฐบาลปัจจุบันอย่างพรรค DPP นั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อจีน ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่าพรรค DPP มีนโยบายเดินไปสู่การประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการของไต้หวันในอนาคต
ไช่อิงเหวิน ผู้นำไต้หวันคนปัจจุบันกำลังจะอยู่ในตำแหน่งครบ 8 ปี ทำให้ไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งต่อได้ตามข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญ
1
ตัวไช่อิงเหวินนั้น แม้จะดุดันต่อจีนเพียงใด แต่ที่ผ่านมา เธอก็ยังไม่กล้าข้ามเส้นแดงของจีน เธอไม่ได้ผลักดันการประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการแต่อย่างใดในสมัยของเธอ
2
แต่หลายคนกังวลว่า ผู้สมัครจากพรรค DPP คนต่อไปมีแต่จะยิ่งดุดันขึ้นอีกต่อจีน และอาจเข้าใกล้เส้นแดงมากขึ้นทุกที โดยเฉพาะเพื่อตอบสนองต่อฐานเสียงคนรุ่นใหม่ของไต้หวันที่มีอัตลักษณ์ความเป็นไต้หวันที่สูงมากและต้องการแยกขาดจากความเป็นจีน
การเมืองเป็นเรื่องไม่แน่นอนและมีเซอร์ไพรส์ได้เสมอ และล่าสุด การเมืองไต้หวันก็มีเซอร์ไพรส์ที่ยิ่งยกระดับความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งสำคัญที่กำลังจะมาถึงในปีหน้า
1
ผลโพลล่าสุดเดือนนี้ ไต้หวันได้เปลี่ยนจากการเมืองสองพรรค เป็นการเมืองสามพรรค
เพราะมีพรรคน้องใหม่อายุเพียง 4 ปี ชื่อพรรค TPP ที่มาแรงแซงโค้ง แซงพรรค KMT ขึ้นมาเป็นพรรคอันดับ 2 เรียบร้อยแล้ว
พรรค TPP ก่อตั้งโดยเคอเหวินเจ๋อ อดีตผู้ว่าไทเป ซึ่งประกาศขอเป็นทางเลือกที่สาม เพราะเขามองว่าพรรค DPP จะพาไต้หวันไปสู่สงคราม ส่วนพรรค KMT นั้นก็คดโกงและไม่มีความสามารถ ที่สำคัญ ทั้งสองพรรคเล่นกันที่อุดมการณ์ที่กินไม่ได้ (ทะเลาะกันเรื่องจะเป็นไต้หวันหรือเป็นจีน) ไม่มีใครสนใจตอบโจทย์ปากท้องประชาชนจริงๆ
ในโพลล่าสุดที่สำรวจโดย Taiwanese Public Opinion Foundation พบว่า ความนิยมของพรรครัฐบาล DPP ยังคงมาเป็นอันดับหนึ่งด้วยคะแนนร้อยละ 24.6 (แต่ลดลงจากเดือนก่อนที่เคยสูงถึง 31.1) ขณะที่ความนิยมในพรรคน้องใหม่ TPP ขึ้นมาที่ร้อยละ 22.2 (จากเพียงร้อยละ 15.6 เมื่อเดือนก่อน) แซงหน้าพรรค KMT ที่ตอนนี้อยู่ที่ร้อยละ 20.4 (ลดลงจากเดือนก่อนที่ 26.2)
1
พรรค KMT คะแนนตกต่ำลงจากความขัดแย้งกันเองภายในพรรคที่มีการชิงตำแหน่งผู้สมัครประธานาธิบดีระหว่างนักธุรกิจชื่อดังเจ้าของ Foxconn กับผู้ว่าเมืองนิวไทเป ซึ่งสุดท้ายผู้ว่าเมืองนิวไทเปเป็นผู้ชนะได้เป็นตัวแทนพรรค ทำให้อีกขั้วหนึ่งเริ่มห่างเหินต่อพรรค
ส่วนพรรครัฐบาลก็คะแนนตกต่ำจากความเบื่อ (เพราะบริหารไต้หวันมา 8 ปี แล้ว) และจากความผิดหวังของประชาชนจากการแก้ข้อกล่าวหาเรื่องพฤติกรรมคุกคามทางเพศทางเพศของนักการเมืองในฝั่งรัฐบาลก่อนหน้านี้
ความน่าสนใจก็คือ ทั้งพรรค KMT และพรรค TPP ต่างเป็นพรรคที่มีท่าทีเป็นมิตรกับรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ทั้งคู่ ก่อนหน้านี้ จึงมีการวิเคราะห์ว่าการขึ้นมาเป็นขั้วที่สามของพรรค TPP จะตัดคะแนนจากพรรค KMT เป็นหลัก และทำให้พรรค KMT พ่ายแพ้แน่นอน และเมื่อฝ่ายอนุรักษ์นิยมมาแตกกันเองเป็นสองฝ่าย ย่อมจะทำให้พรรครัฐบาลอย่าง DPP คว้าชัยอีกรอบได้
แต่ก็ไม่แน่เสมอไป เมื่อพรรค TPP กำลังสร้างตัวเองเป็นขั้วการเมืองใหม่ที่เป็นทางเลือกที่สาม เป็นทางเลือกให้กับคนจำนวนมากที่เบื่อลิเกของทั้งสองพรรค ดังที่เห็นได้ชัดว่าพรรค TPP ก็แย่งคะแนนจากพรรครัฐบาล DPP มาไม่น้อยด้วยเช่นกัน
1
จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า การผงาดขึ้นมาเป็นทางเลือกใหม่ของพรรค TPP จะเป็นการช่วยการันตีชัยชนะให้พรรค DPP เพราะฝ่ายอนุรักษ์นิยมแตกคอกันเอง หรือจะเป็นโอกาสที่พรรคการเมืองที่เป็นมิตรกับจีนแผ่นดินใหญ่จะชนะการเลือกตั้งในไต้หวันได้จริงอีกครั้งในยุคสมัยนี้
1
และผลการเลือกตั้งต้นปีหน้าของไต้หวันไม่ว่าออกมาอย่างไรย่อมมีนัยมหาศาลต่อหมากกระดานเกมการเมืองโลก เพราะไต้หวันเป็นจุดร้อนที่สุดในทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เสี่ยงจะเกิดสงครามใหญ่หากมีใครข้ามเส้นแดงของจีน!
โฆษณา