การทำธุรกิจกับบัตรเครดิต...
"ทำไมร้านเหล้าทำโปรเบียร์ได้ มันได้กำไรเหรอ ?"
นี่คือคำถามที่หลายคนถามผมบ่อยมาก เพราะเคยทำร้าน…
"เขาทำใด้ เพราะบัตรเครดิตอ่ะเดะ "
ผมตอบมันงั้น…
…พอดีเมื่อกี้อ่านเพจ “ดอกเบี้ยสีทอง” ว่าคนไทยเป็นหนี้บัตรเครดิต ถึง 27% ในสัดส่วนหนี้ครัวเรือน เลยนึกถึงคำถามนี้
และการทำธุรกิจด้วยบัตรเครดิตขึ้นมา เป็นที่มาของไอเดียในการเขียนโพสต์นี้ครับ….
สิ่งที่ทำให้คนใช้บัตรเครดิตแล้วมีปัญหา
ก็เพราะใช้มันผิดวิธี ผิดวัตถุประสงค์ของมัน
เครดิต….
ชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว ว่าสำหรับผู้ต้องการเครดิต
ทีนี้ ถ้าเป็นคนธรรมดาๆ จะเอาเครดิตไปทำอะไรล่ะ?
ดังนั้น ผมสามารถสรุปในมุมมองของตัวเองว่า
บัตรเครดิต ถูกสร้างมาเพื่อคนทำธุรกิจ มากกว่าให้คนกินเงินเดือนใช้ สำหรับมนุษย์เงินเดือน บัตรเครดิตควรมีไว้แค่เผื่อ
ฉุกเฉิน ไม่ใช่เพื่อความสะดวก และไม่ใช่เพื่อผ่อนของใช้…
..การใช้ซื้อของใช้ส่วนตัว แม้จะจ่ายในระยะเวลา
ปลอดดอกเบี้ย ผมก็คิดว่ามันไม่ใช่วิธีใช้บัตรที่ถูกต้องนะ…
…มันเป็นการขโมยเงินในอนาคตของเราเองนั่นแหละ…
แนวคิดนี้ อยู่บนพื้นฐานว่า
...ถ้าจะมีหนี้ ก็ต้องเป็นหนี้ที่สร้างรายได้ แม้จะไม่มีดอกเบี้ย และถ้าต้องมี ก็ต้องได้กำไร ให้คุ้มกับที่จ่ายดอกเบี้ยไป...
ตามตรรกะนี้ การใช้บัตรเครดิตเพื่อความสะดวก
หรือผ่อนของใช้ส่วนตัว จึงไม่ถูกต้องสำหรับผม
เพราะการผ่อนของใช้ส่วนตัว หรือรูดเอาสะดวก
ไม่ได้สร้างรายได้กลับมาให้คุ้มค่ามากพอกับดอกเบี้ย
ที่อาจต้องเสียไปในอนาคต
บัตรเครดิต มันจึงไม่ใช่อะไรที่มนุษย์เงินเดือนควรใช้
จนเป็นนิสัย
แต่คนทำธุรกิจ แม้แต่ค้าขายเล็กน้อย ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เพราะมันคุ้มค้า และดีกว่าจ่ายเงินสด ถ้าใช้ให้เป็น
ร้านเหล้า โปรโมชั่นเหล้า เบียร์
คือตัวอย่างที่ง่าย และชัดเจนที่สุด
…ผมขอยกตัวอย่างร้านเหล้า เพราะเข้าง่ายกว่าอีกธุรกิจ
ของผมคืองานก่อสร้าง เพราะเข้าใจยาก มันมีระบบการเงินที่วุ่นวายมากที่สุดธุรกิจหนึ่ง ในบรรดาธุรกิจทุกแบบ
(คนสายบัญชีส่วนมาก ทนกับบริษัทก่อสร้างไม่ได้นานนัก
พวกว่า มันงงกว่าธุรกิจแบบอื่น)
ร้านเหล้า และโปรฯ เบียร์ โปรฯเหล้า
สร้างได้ง่ายๆ ด้วยบัตรเครดิต ….
ในการทำธุรกิจร้านเหล้านั้น สิ่งที่เป็นต้นทุนสูงที่สุดก็คือ
“ เหล้า “ และ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ
เพราะมีราคาค่อนข้างสูง…
สมมุติว่าคุณเพิ่งเริ่มทำร้าน และต้องการดึงคนด้วยการ
ทำโปรโมชั่นเหล้าเบียร์ราคาต่ำ
แต่เพราะคุณยังใหม่มาก ร้านขายส่งเหล้า เขายังไม่ให้
เครดิตคุณ คุณจะทำยังไง ?
ถ้าเอาส่วนของเงินสดสำรองจ่าย มันก็เป็นมูลค่าที่สูง
และไปเบียดเบียนส่วนอื่นที่ต้องจ่ายเป็นเงินสดเท่านั้น
เช่น ค่าแรงพนักงาน , ค่าวัตถุดิบอาหาร , นักดนตรี ฯลฯ
นั่นมีโอกาสมาก ที่จะทำให้ร้านเสียสภาพคล่อง
สมมุติ คุณจะสั่งเบียร์ยี่ห้อยอดฮิตอย่างละ 10 ลัง
เพื่อทำโปร แต่คุณมีเงินสดสำรองประมาณ 30,000 บาท
มันจะแทบทำไม่ได้เลย เพราะจะเหลือเงินสดน้อยเกินไป
ที่จะเอาไว้ใช้จ่ายในร้าน
( ไม่ได้พูดถึงคนใช้เงินสด และสายป่านยาวนะครับ )
…ตรงนี้แหละ บัตรเครดิตจะเข้ามาช่วยคุณได้มาก….
…จงอย่าไปกลัวดอกเบี้ย เมื่อถึงตรงนี้…
…แต่ให้ใช้ในมูลค่าที่เหมาะสม เอาว่าขายหมดได้ในหนึ่งเดือน
…แล้วคุณจะรอดเอง….
ยังไงล่ะ…
เช่น ถ้าคุณจัดโปรแบบถูกมากๆ
เบียร์ 3 ขวด 199 บาทในร้าน
ในกรณีซื้อเป็นลัง ต้นทุนต่อขวดคือ 50-55 บาทไม่เกินนั้น
การขายในร้าน 199 สามขวด คือตกขวดละ เกือบ 67 บาท
หมายถึง คุณกำไรขวดละขวดละ 10-17 บาท
คิดเป็น กำไรต่อขวด มันก็ประมาณ 20%
ซึ่งมันมากกว่าดอกเบี้ยบัตรเครดิตแล้ว
แบบนี้คือคุ้ม หรือเสมอตัว ในกรณีขายไม่หมด
แล้วโดนดอกเบี้ย
และถ้าคุณขายหมดภายใน 30 วันของรอบการจ่าย
บัตรเครดิต คุณจะไม่เสียดอกเบี้ยเลย เมื่อเคลียร์ค่าบัตร
ทำให้เหมือนการยืมของร้านเขามาขาย
แล้วเราเก็บกำไรไป 20% ฟรีๆ…
ตรงนี้ ถ้าคุณใช้เงินสด หมายถึงว่า
คุณเอาเงินรองร้านไปจ่ายก่อนแล้ว
ทำให้มันจมไปส่วนหนึ่ง นั่นอาจทำให้คุณขาดสภาพคล่องได้
เมื่อต้องจ่ายส่วนอื่น ที่จำเป็นต้องจ่ายเป็นเงินสดทุกวัน
แต่ถ้าคุณใช้เครดิตการ์ด เงินสดคุณจะมีไว้เพื่อจำเป็นจริงๆ
ทำให้ธุรกิจมันเดินไปง่ายกว่ามาก
…และการใช้บัตรเครดิตกับร้านขายส่ง ที่เรารูดทีละมากๆ
ยังส่งผลดีอีกอย่างคือ ทางร้านเขาจะเริ่มปล่อยเครดิตให้คุณได้ง่ายมากขึ้น เพราะเขาถือว่า เขาไม่ใช่คนรับความเสี่ยง…
…ร้านส่ง จะเริ่มให้เครดิตคุณ เริ่มจาก 7 วัน และมากขึ้นเรื่อยๆ
นั่นจะยิ่งสร้างโอกาสทางธุรกิจให้คุณมากขึ้นตามไปด้วย
…และนี่คือเหตุผล ว่าทำไม ร้านเหล้าจำนวนมากอยากได้ยอด
จนดูเหมือนไม่เอากำไรเลย จากราคาขาย….
…เพราะเงินที่รับมานั้น หากสามารถต่อยอดทางอื่นได้ มีกำไรมากขึ้น มันก็หมายถึง คุณลงทุนโดยไม่ได้ใช้เงินเลยนั่นเอง…
น่าจะพอเห็นภาพกันนะครับ
ธุรกิจอื่นก็เป็นลักษณะนี้เหมือนกัน เพียงแต่มูลค่ามันอาจมากกว่า และสลับซับซ้อนกว่า
อย่างก่อสร้างที่ผมทำอยู่ ก็ลักษณะเดียวกัน
ในการใช้บัตรเครดิตออกวัสดุต่างๆ
การใช้บัตรเครดิตให้เป็น ผมมองว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก
สำหรับคนทำธุรกิจ โดยเฉพาะขนาดเล็ก
และเรามีสายป่าน ไม่ได้ยาวอะไรนัก
กุญแจสำคัญ อยู่ที่การบริหารระยะเวลา
เราต้องดูระยะเวลาปลอดดอกเบี้ย
และเงื่อนไขต่างๆของบัตรให้ดี
และควบคุมตัวเองให้ได้ ที่จะไม่ใช้มันแบบเลอะเทอะ
เงินต้นที่ได้จากการขาย ห้ามเอาไปใช้ เอาไว้เคลียร์บัตรพอ
การผ่อนของก็ไม่ผิด ถ้ามันใช้ต่อยอดธุรกิจได้
ปัญหาของคนส่วนใหญ่ คือใช้มันแบบไม่จำเป็น
ทำให้เกิดดอกเบี้ย เกิดภาระในอนาคต
สำหรับคนธรรมดานั้น ผมว่าการใช้บัตรเดบิตธรรมดา
จะเป็นเรื่องเหมาะสมกว่าถ้ามองในมุมความสะดวกสบาย
และมันควบคุมตัวเองได้ง่ายกว่ามาก
อย่างที่บอกแต่แรกครับ ถ้าคุณไม่ได้ทำธุรกิจอะไร
คุณก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เครดิตอะไรอยู่แล้ว
จะไปยอมเสียดอกเบี้ยเพื่ออะไร
เก็บไว้เพื่อฉุกเฉินจริงๆ ก็พอแล้ว…
การทำธุรกิจ ผมว่ามันจะทื่อๆ ขยันอย่างเดียวไม่ได้
การบริหารเงินที่ดี มีเทคนิคที่จะช่วยบริหารหนี้
และรายจ่ายต่างๆได้
เป็นเรื่องจำเป็น และจะช่วยเราได้มาก
โดยเฉพาะช่วงเริ่มตั้งไข่ของธุรกิจ ที่อาจมีเงินเข้าน้อย
สำหรับมนุษย์เงินเดือนที่อยากลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว
อย่าปล่อยให้บัตรเครดิตหลุดมือนะครับ มันจะช่วยคุณได้มาก
…ทำความเข้าใจให้ดี ควบคุมตัวเองให้ได้…
…บัตร มันมีประโยชน์มากกว่าโทษครับ….
…และย้ำอีกครั้ง ว่าหนี้ที่สร้างรายได้นั้น ไม่น่ากลัวเลย
แม้ดอกเบี้ยจะแพง มันก็ยังดีกว่าใช้เงินสด
แต่ต้องบริหารเป็นก็เท่านั้น…..
หวังว่าแนวคิดนี้จะมีประโยชน์บ้างนะครับ สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ แต่ทุนน้อย….😊😊😊😊
- 3
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
