27 มิ.ย. 2023 เวลา 00:19 • การศึกษา

คุณสามารถทำได้มากกว่าที่คิด..

คุณควรจะทุกข์กับการได้เห็นลูกหลานหรือคนรอบข้างคุณไม่มีความสุขแต่คุณไม่สามารถจะช่วยอะไรกับพวกเขาได้
คุณอาจจะเป็นคนนึงที่สามารถจะทำใจหรือปลงยอมรับกับสภาพสิ่งรอบข้างได้โดยง่าย แต่ถ้าคุณสามารถที่จะทำได้กับการที่จะพาคนอื่นออกจากความทุกข์ คุณจะไม่ทำหรือ และกับวิธีการที่คุณใช้อยู่กับตัวเองกับการทำใจปลอบตัวเองหรือปลงปล่อยว่าง คุณคิดว่าด้วยวิธีนี้มันจะสามารถช่วยคุณได้จริงหรือ? ไม่เลย คุณแค่ยังไม่เคยเจอแบบหนักๆ จริงๆเหมือนคนอื่นที่เขาได้พบเจอมาแล้วเท่านั้น
แล้วคุณก็แค่ใช้ชีวิตพยายามหลบเลี่ยงอุบัติภัย ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่โลดโผนหรือเสี่ยงมากมายอะไรไป จับแน่นกับแนวคิดนี้ว่าดีที่สุด แต่ก็มองเห็นว่ามีคนรอบข้างที่โดนอุบัติภัยร้ายแรงบาดเจ็บล้มตายไปทีละคนๆ แม้กับคนที่เขากำลังทำแบบคุณคิดแบบคุณเขาก็โดนเหมือนกัน คุณก็แค่รอเวลาโดนเหมือนกับพวกเขาเท่านั้น ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้จริง เหมือนสัตว์ที่เข้าคิวรอเวลาถูกเชือด ไม่ช้าก็เร็ว
แต่มันยังมีอีกทางนึงนอกจากการรอความตายมาถึงอย่างที่ว่ามา คือการก้าวออกไปชนกับความยากลำบากเพราะมีพระเจ้าที่คอยหนุนหลัง ซึ่งผลที่จะได้รับตามมาก็คือการที่ตัวเองได้หลุดพ้นออกจากความกลัวความตาย นี้คือการได้พบกับความสุขแท้จริง และผลประการที่สองก็คือสามารถเข้าไปช่วยเหลือคนอื่นๆให้ได้พบกับหนทางรอดนี้ด้วย ซึ่งมีอีกมากมายเลยที่กำลังรอคอยการช่วยเหลือ
ก็เป็นคำสัญญานึงของพระเจ้าที่ให้ไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลพระสัญญาของพระเจ้าที่เนื้อหาพูดไว้ประมาณนี้ ใน2พงกษัตริย์บทที่7 ซึ่งทั้งเล่มก็บันทึกเรื่องราวมากมายที่พระเจ้าอยากจะบอกกับมนุษย์ เพื่ออยากจะให้มนุษย์ได้กลับมาเชื่อวางใจพระองค์ ด้วยหนทางนี้เท่านั้นที่เป็นสวัสดิภาพแท้จริงสำหรับมนุษย์
พระเจ้าเป็นพ่อแม่แท้จริงผู้ให้กำเนิดมนุษย์เราทุกคน และพระองค์รับผิดชอบกับลูก แต่เพราะปัญหาที่อาดัมมนุษย์คนแรกของโลกได้สร้างขึ้น จึงทำให้โลกเต็มด้วยความสกปรกชั่วร้ายทุกข์ยากลำบากแบบนี้ และส่งผลให้มนุษย์ทุกวันนี้หลงลืมพระเจ้า ทอดทิ้งพระเจ้า
พระเจ้าก็ได้หาทางช่วยนำมนุษย์กลับคืนมาด้วยการให้พระเยซูมาตายเพื่อลบล้างความผิดบาปทั้งหมดของมนุษย์ และหลังจากตายไปสามวันพระเยซูก็ฟื้นขึ้นและบอกให้สาวกออกประกาศความจริงนี้ จนกว่าพระองค์จะเสด็จกลับมารับบรรดาผู้ที่เชื่อ กำชับเสร็จแล้วพระองค์ก็เสด็จลอยกลับคืนสู่สวรรค์และประทานพระวิญญาณลงมาให้กับบรรดาผู้ที่เชื่อก็คือถ้อยคำของพระองค์หรือพระคัมภีร์ไบเบิ้ลนี้เองครับ
หามาอ่านและมองชีวิตมองโลกและคุณจะอัศจรรย์ใจกับสิ่งที่พระคัมภีร์ไบเบิ้ลได้บอกไว้ มันเป็นความจริงตามนั้นทั้งหมด เพราะผู้ให้ข้อมูลเหล่านั้นคือพระเจ้าเจ้าของและผู้สร้างทุกสรรพสิ่งในจักรวาลนี้ และเมื่อได้รู้ความจริงแล้วก็จะช่วยให้เราสามารถที่จะเป็นอิสรจากความกลัวซึ่งรากปัญหาแท้จริงมาจากการที่เราไม่รู้ความจริง
"สาระสำคัญแห่งพระวจนะของพระองค์ คือความจริง และกฎหมายอันชอบธรรมของพระองค์ทุกข้อดำรงอยู่เป็นนิตย์"
สดุดี 119:160 THSV11
โฆษณา