5 ก.ค. 2023 เวลา 11:00 • สุขภาพ

ต้องโดนยุงกัดกี่ครั้ง ถึงจะเป็นไข้เลือดออก ?

วันก่อนผมโดนยุงกัดครับ ตอนกลางวันแสกๆ
นึกขึ้นได้จากที่เคยเรียนตอนประถม ยุงที่มากัดตอนกลางวันส่วนใหญ่คือยุงลาย และสิ่งที่จะตามมากับยุงลายก็คือ 'ไข้เลือดออก'
1
ปีๆ หนึ่งมีคนเป็นไข้เลือดออก 400 ล้านคน เสียชีวิตไปก็หลักหมื่น พอตัวเองโดนกัดก็นึกสงสัย ว่าเราเสี่ยงแค่ไหนเนี่ย ที่จะเป็นหนึ่งใน 400 กว่าล้านคนนั้น
เราต้องโดนกัดเท่าไหร่ ถึงจะเป็นไข้เลือดออก ?
สิบครั้ง ร้อยครั้ง หรือพันครั้ง ?
.
บทความนี้ WDYMean จะชวนทุกคนมาดำดิ่ง เพื่อหาคำตอบที่ว่านั้นกันครับ
ก่อนที่จะไปตอบคำถามแรก มีคำถามหนึ่งที่มันแวบขึ้นมาและผมคิดว่าน่าสนใจ และเชื่อว่าหลายคนก็น่าจะสงสัยไม่แพ้กัน นั่นคือ
ทำไมไข้เลือดออกถึงน่ากลัว ?
นั่นสิ ทำไมเราถึงต้องกลัวไข้เลือดออก? เพื่อให้เรื่องราวม้วนกลับมาเป็นวงกลม ผมขออนุญาตเริ่มกันด้วยคำถามนี้แล้วกันนะครับ
และเพื่อที่จะตอบคำถามนี้ ผมจะขอเริ่มต้นเรื่องนี้กันตั้งแต่วินาทีแรก ที่ยุงลายบินมาเกาะ
.
4
ทันทีที่ยุงลายที่ติดเชื้อ ทิ่มปากที่คล้ายกับเข็มของตัวเองลงบนผิวหนังของเรา เชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) ซึ่งเป็นไวรัสที่ก่อโรคไข้เลือดออก ก็จะถูกพ่นออกมาพร้อมกับน้ำลายของยุง ปะปนกันอยู่ในเลือด
พริบตาเดียวมันก็จะแตกตัว เหมือนผึ้งแตกรัง
เชื้อทั้งหมดจะโดนแรงดันเลือด ดันให้กระจายตัวกันไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เป้าหมายของเชื้อชนิดนี้ คือ ตำรวจอ้วนสองคน ที่เดินตรวจตราอยู่ในหลอดเลือดของเรา
1
นั่นก็คือ ภูมิคุ้มกัน
ภูมิคุ้มกัน
เชื้อเดงกีจะพุ่งตรงเข้าหาภูมิคุ้มกันสองชนิดที่ลอยละล่องอยู่ในหลอดเลือด ชนิดแรกคือโมโนไซต์ และชนิดที่สองคือแมคโครฟาจ
แต่ไม่ต้องตกใจกับชื่อประหลาดๆ นี้นะครับ ผมจะค่อยๆ เล่าให้ฟังว่ามันคืออะไร
โมโนไซต์กับแมคโครฟาจ เป็นด่านป้องกันด่านแรกของร่างกาย เป็นเหมือนตำรวจอ้วนถือไฟฉาย ที่คอยกวักมือเรียกให้รถจอดที่ด่านตรวจ
ตำรวจอ้วนสองคนนี้ตัวใหญ่ที่สุดแล้วในกรม (ใหญ่สุดแล้วในระบบภูมิคุ้มกัน) และก็ซวยที่สุดแล้วเช่นกัน เพราะพอเชื้อเดงกีหลุดเข้ามา เชื้อมันก็กระโดดขี่หลังทันที
.
แต่เรื่องมันไม่จบแค่กระโดดขี่หลัง เจ้าเชื้อนี่พยายามที่จะมุดเข้าไปในตัวจ่าตำรวจผ่านโปรตีนตัวรับที่ผิว นึกภาพง่ายๆ กับการจับมือเลยครับ พอมือของไวรัส จับกันพอดีกับมือของภูมิคุ้มกัน เจ้าเชื้อนี่ก็ยุบตัวเองเข้าไปเลย
2
หลังจากยุบตัวเข้าไปได้ เชื้อเดงกีก็ไปยึดเอาเครื่องจักรสร้างโปรตีนในนั้นมาก๊อปปี้ตัวเอง ปั๊มตัวเองออกมาเรื่อยๆๆ แล้วส่งกองทัพ 'ไวรัส' ออกไปนอกเซลล์ ไปรุกรานภูมิคุ้มกันตัวอื่นๆ
แต่ความน่ากลัวของไวรัสเดงกี ไม่ได้อยู่ที่ว่ากองทัพมันมีจำนวนเท่าไหร่ หากแต่เป็นหลังจากนั้นว่ามันทำอะไรต่อต่างหาก
เชื้อเดงกีผ่านวิวัฒนาการจากรุ่นสู่รุ่น มามากกว่าหนึ่งแสนปี กระโดดไปอยู่ในตัวสัตว์ตัวโน้นตัวนี้มานับไม่ถ้วน
ทุกวันนี้มันสามารถอยู่รอดได้ด้วยกันสองที่ ที่แรกคือในท้องของยุงลาย และที่ที่สองคือในตัวของสัตว์เลือดอุ่นอย่างมนุษย์เรา
.
ในตัวของยุงลาย เชื้อเดงกีปรับตัวเองให้ฝังตัวอยู่ในทางเดินอาหาร (midgut) เพื่อที่จะแบ่งตัวและเติบโต ก่อนจะขยับเขยื้อนไปที่ต่อมน้ำลาย เพื่อใช้เป็นทางออกสู่โลกภายนอก
ที่นี่จึงเป็นเหมือนบ้าน เป็นเหมือนสถานที่ที่ชุบเลี้ยงมันมา
แต่หลังจากที่ยุงลายไปไล่กัดสัตว์เลือดอุ่นอย่างเราๆ ไม่ต้องแปลกใจเลยว่า เจ้าเชื้อนี่ก็จะกระโดดข้ามมาหากินกับเราด้วย
.
1
แต่จะให้บอกว่าเราเป็นบ้านก็คงไม่ใช่ เราเป็นเหมือนธนาคารที่ให้มันเข้ามาปล้นมากกว่า เข้ามากอบโกยทรัพยากรแล้วก็สะบัดตูดหนีกลับบ้านไป
ประเด็นของเรื่องนี้อยู่ที่การหนีกลับบ้านนั่นล่ะครับ
.
ยิ่งไวรัสเดงกี สามารถกระโดดกลับไปอยู่ในท้องของยุงลาย ที่เสมือนเป็น 'บ้าน' ได้มากเท่าไหร่ โอกาสที่วงศ์ตระกูลนี้จะอยู่รอดต่อไป ก็จะมีมากขึ้นเท่านั้น
เพราะถ้าเกิดอยู่แต่ในคน คนตาย เชื้อก็ตาย แต่ถ้าอยู่ในคนด้วย ยุงด้วย โอกาสที่เชื้อจะตายแทบไม่มี
และเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ ต่อไปนี้คือภารกิจหนีกลับบ้านของเชื้อเดงกี
โปรตีน NS1 กับหลอดเลือด
กลยุทธ์ที่เชื้อเดงกีใช้ นอกจากจะยึดเซลล์ภูมิคุ้มกันและปั๊มตัวเองออกมาเรื่อยๆ แล้ว มันยังสร้างโปรตีนอีกชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า NS1 ออกมาด้วย
เป้าหมายเดียวของเจ้าโปรตีน 'เอ็นเอสวัน' ก็คือ เพื่อระเบิดหลอดเลือดของเจ้าบ้านอย่างเราๆ ให้สิ้นซาก
.
โปรตีน NS1 จะรบกวนโครงสร้างของผนังหลอดเลือด ทำให้จากที่เคยปิดมิดชิดอะไรก็ซึมผ่านไม่ได้ กลายเป็นท่อที่มีรอยรั่ว มีรูโหว่เว้าๆ แหว่งๆ
ผลคือ เจ้าบ้านที่ติดเชื้ออย่างพวกเราก็เสียเลือด เสียพลาสมาออกไป จนเกิดอาการไข้ เสี่ยงกับภาวะช็อค และมีเลือดไหลซึมออกมาจากหลอดเลือดทั่วร่างกาย
แล้วมันมีประโยชน์อะไร ?
.
ลองคิดภาพว่าเลือดที่ไหลซึมออกนี้ เกิดขึ้นบนผิวหนังดูสิครับ ผลที่ตามมาคือ จ้ำแดงๆ ก็จะเกิดขึ้นบนผิวหนัง เป็นจุดๆ แบบที่เราเห็นกันในอินเตอร์เน็ต
จ้ำๆ แดงหลังจากติดเชื้อไวรัสเดงกี
ซึ่งในจ้ำแดงๆ นั้นมันก็มีเลือดปนอยู่ ส่วนในเลือดมีอะไร ก็กองทัพเจ้าเดงกีที่ปั๊มออกมานั่นหน่ะ กำลังซุ่มรอโอกาสอยู่แล้ว
การมีเลือดออกเป็นจ้ำๆ ใต้ผิวหนัง ดูเหมือนจะไม่ให้เอื้อประโยชน์ให้ใครเลย ถ้าไม่ใช่ 'ยุงลาย' ที่จะโผบินมากัดอีกครั้งหนึ่ง
.
การที่ยุงลายไม่ต้องพยายามมากนัก ในการดูดเลือดแต่ละครั้ง แลนด์ดิ้งลงไปตรงไหน ก็ตั้งท่าจิ้มดูดได้เลย มันก็ทำให้เชื้อเดงกีที่รออยู่ใต้ผิวหนังพร้อมที่จะโบยบิน ถูกดูดกลับสู่ถิ่นที่มันจากมาอีกครั้งหนึ่ง
การกระโดดไปมาระหว่างเรากับยุงลายนี้ ก็จะครบจบเป็นวงจรชีวิตของเชื้อไวรัสเดงกี หนึ่งในเชื้อไวรัสที่คร่าชีวิตมนุษย์มากที่สุดในโลก
และการมีเลือดออกเป็นจ้ำๆ แบบนี้ บวกกับการมีอาการไข้และอ่อนเพลีย ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อการติดเชื้อ นี้เองจึงเป็นเหตุผลที่เราเรียกชื่อโรคชนิดนี้ว่า
.
1
'ไข้เลือดออก'
ส่วนในมุมของมนุษย์เรา ถ้าถามว่าความน่ากลัวของโรคนี้คืออะไร ก็คงต้องบอกว่ามีราวๆ อย่างสองอย่างครับ อย่างแรกคือ มันเกิดขึ้นได้ทุกที่
ด้วยความที่เชื้อไวรัสชนิดนี้เกาะติดไปกับภูมิคุ้มกัน แล้วภูมิคุ้มกันตัวนั้นก็เป็นเหมือนจ่าตำรวจ ที่เดินตรวจไปได้ทุกที่ของร่างกาย
การจะบังเอิญพาเจ้าไวรัสชนิดนี้ขึ้นไปที่สมอง แล้วไปสร้าง 'เอ็นเอสวัน' ออกมา จนทำให้ภายในนั้นเลือดออก เกร็ดเลือดตก จนเราช็อคตายนั้น ทำได้ไม่ยากเลย
.
ความน่ากลัวอีกอย่างหนึ่งก็คือ เราได้รู้กันไปแล้วว่าเชื้อไวร้สเดงกีนั้นโจมตีที่ภูมิคุ้มกัน เมื่อภูมิคุ้มกันถูกโจมตีก่อน นั่นแปลว่าแค่วินาทีแรกที่เราโดนกัด เชื้อก็จะสามารถเข้าสู่ร่างกายเรา โดยที่ไม่มีใครทำอันตรายใดๆ มันได้เลย
หมายความว่า เราไม่จำเป็นต้องโดนกัดสิบครั้ง ร้อยครั้ง หรือพันครั้ง เพื่อที่จะเป็นไข้เลือดออกหรอกครับ
ขอแค่โดนกัดแค่ 'ครั้งเดียว' ถ้ายุงลายตัวนั้นมีเชื้ออยู่จริงๆ ก็เพียงพอแล้วที่เราจะเป็นหนึ่งใน 400 กว่าล้านคนนั้น
และทั้งหมดนี้ก็คือทุกคำตอบของคำถามที่ว่า 'ต้องโดนกัดเท่าไหร่ เราถึงจะเป็นไข้เลือดออก?'
ขอบคุณทุกคนที่อ่านกันจนมาถึงตรงนี้นะครับ
ช่วงนี้ฝนตก น้ำขัง ยังไงอย่าลืมดูแลสุขภาพตัว และสุขภาพข้าวของรอบตัวกันด้วยนะ ยุงลายกับแค่น้ำน้อยๆ เนี่ย มันก็ไข่ได้ อยากจะบอกว่ามันอึดจริงๆ
.
ด้วยความปรารถนาดีจาก . . .
.
#WDYMean
อ้างอิงจาก
จำนวนคนเป็นไข้เลือดออกต่อปีคือเท่าไหร่ ?
เชื้อเดงกีไปทำอะไรกับภูมิคุ้มกัน ?
โมโนไซต์กับแมคโครฟาจคืออะไร ?
วิวัฒนาการของไวรัสตั้งแต่อยู่ในตัวของยุงลาย
โปรตีน NS1 ย่อมาจากอะไร แล้วทำอะไรกับหลอดเลือด ?
เกิดอะไรขึ้นหลังจากป่วยเป็นไข้เลือดออก ?
ต้องโดนกัดเท่าไหร่ถึงจะเป็นไข้เลือดออก ?
โฆษณา