4 ก.ค. 2023 เวลา 15:25 • หนังสือ

12 กฎทองของสมอง ของคนใช้สมองเป็น [Part 3 ;Last Part]

สรุปตามภาษา Beyond the book ให้ผู้อ่านทั้งหลายได้นำไปปรับใช้c
Brain rules you should know to make life much more effective. ต่อที่ SECTION 9 to SECTION 12
1
Part สุดท้ายจะสั้นหน่อย เนื่องจากว่าเป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ไม่ค่อยมีอะไรมาก จึงขอสรุปแบบสั้นๆ ดังนี้
กฎข้อที่ 9 = การมองเห็น
- การมองเห็นถือว่าอยู่เหนือประสาทสัมผัสทุกอย่าง เพราะถือเป็นด่านแรกที่ทำให้เราได้เห็น แล้วเกิดกระบวนการที่เกี่ยวกับสมอง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ การจดจำ การรับรู้อามรณ์ การแก้ไขปัญหาด้วยสติปัญญา และอื่นๆ
- การมองเห็นแต่ละคนไม่เหมือนกัน เนื่องมาจากความเชื่อ ประสบการณ์ การเรียนรู้ และการมองในมุมที่แตกต่างกัน
กฎข้อที่ 10 = เสียงดนตรี
- เสียงดนตรีจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง มีเสียงเพลงก็มีหัวใจ และสร้างประโยชน์อย่างมหาศาล
- เสียงดนตรี หรือ เสียงเพลง ช่วยในการพัฒนาสติปัญญาของเรา ทำให้เราเรียนรู้ได้ดีขึ้น ช่วยลดความเครียด ความเศร้า และความวิตกกังวล ช่วยพัฒนาการทางด้านสังคม ทำให้เข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น และ มีความเห็นอกเห็นใจมากขึ้น นอกจากนั้นการฟังเพลงคลอเบาๆระหว่างทำงานช่วยให้มีสมาธิ ลดความกดดัน ทำงานได้ไหลลื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น สุดท้ายยังช่วยลดความเจ็บปวดเหมือนยาวิเศษได้ด้วยเช่นกัน
กฎข้อที่ 11 = เพศ
- เพศชายและเพศหญิงมีการทำงานของสมองที่แตกต่างกัน ผู้ชายมีโครโมโซม XY ซึ่งได้โครโมโซม X จากแม่มาแค่ตัวเดียว ส่วนโครโมโซม Y ไว้ได้มาจากพ่อ ซึ่งมีจำนวนยีนน้อยกว่าโครโมโซม X มาก ส่วนผู้หญิงมีโครโมโซม XX ซึ่งได้มาจากแม่และพ่อคนละอัน โดยโครโมโซม X มีจำนวนยีนมากๆเป็น 10,000 + ยีน ในขณะที่โครโมโซม Y มียีนไม่ถึง 100 ยีน ซึ่งการที่ผู้ชายมียีนน้อยกว่าและมีโครโมโซม X แค่ตัวเดียว ทำให้มีโอกาสเป็นโรคบางอย่างได้ง่ายกว่าผู้หญิง และเป็นสิ่งที่ทำให้สมองของผู้ชายและผู้หญิงมีความแตกต่างกัน
- โครโมโซม X จึงมีบทบาทสำคัญ และเป็นส่วนที่เรียกว่า จุดพร้อมเชื่อมโยงกับสมองส่วนต่างๆ
- ผู้ชายจะจดจำเหตุการณ์ที่เป็นใจความสำคัญได้ดีกว่า ในขณะที่ผู้หญิงจะจดจำเหตุการณ์ที่เร้าอารมณ์ได้ดีกว่า
- ผู้ชายจะไม่พูดซับซ้อนเท่าผู้หญิงและจะสนิทเป็นเพื่อนได้เมื่อมีการทำกิจกรรม ผ่านความชุลมุนวุ่นวายมาด้วยกัน ในขณะที่ผู้หญิงจะเน้นการพูดที่ซับซ้อนมากกว่า ยิ่งพูดด้วยกันมากเท่าไหร่ แชร์เรื่องราวและอารมณ์ความรู้สึกระหว่างกันมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความสนิทกันมากขึ้นเท่านั้น
- ผู้ชายเวลาอธิบายอะไรจะเน้นอธิบายสั้นๆ เน้นใจความสำคัญและกระชับกว่า ในขณะที่ผู้หญิงจะอธิบายซับซ้อนที่เน้นรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่า
- เวลาโมโห ผู้ชายอาจใช้กำลังก้าวร้าวมากกว่า ในขณะที่ผู้หญิงจะแสดงอารมณ์โกรธออกทางสีหน้าและคำพูด
กฎข้อที่ 12 = เรามีความเป็นนักสำรวจผู้ยิ่งใหญ่อยู่ในสายเลือด
- เด็กทารกถือเป็นต้นแบบในการเรียนรู้ และ สำรวจโลกรอบตัว โดยสังเกต สำรวจ ตั้งสมมุติฐานตามหลักวิทยาศาสตร์ และหาข้อสรุปด้วยตนเอง ผ่านโลกและสภาวะแวดล้อมรอบตัวที่พวกเขาสัมผัส
- การสำรวจ นำไปสู่การเรียนรู้และลอกเลียนแบบ (imitation) ในสิ่งที่เค้าสนใจและอยากเป็น เด็กทารกจึงเปรียบเสมือนผ้าขาวที่บริสุทธิ์ พอโตขึ้นผ่านประสบการณ์ระดับนึง จากผ้าที่ขาวก็กลายเป็นผ้าหลากสีสันที่ถูกแต่งแต้มจากเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆที่ประสบพบเจอด้วยตัวเอง
การนำกฎทองของสมองทั้ง 12 ข้อ ไปใช้ ผู้เขียนคิดว่ามีประโยชน์มากทีเดียว ช่วยให้เราใช้สมองเป็นและเฉียบคมมากขึ้น เมื่อรู้เคล็ดลับเหล่านี้ก็มีส่วนในการช่วยออกแบบชีวิตของเราให้ง่ายขึ้น มีคุณค่าและมีประสิทธิภาพขึ้นได้เช่นกัน
สมองของมีประโยชน์มากมายมหาศาลและซับซ้อนมาก ต้องมีช่วงเวลาในการใช้ที่สม่ำเสมอเพื่อกระตุ้นสมองให้ใช้งานได้อย่างมีคุณภาพ และก็ต้องมีช่วงเวลาพักไม่ให้สมองล้าหรือทำงานหนักจนเกินไป ถ้าใช้ถูกวิธีก็นับว่าเป็นประโยชน์แก่ตัวเองและผู้อื่นอย่างมหาศาล
THE END
แหล่งอ้างอิง
สรุปจากหนังสือ : 12 กฎทองของคนใช้สมองเป็น. Brain Rules . เขียนโดย John Medina (2014). แปลโดย วิโรจน์ ภัทรทีปกร (2017). สำนักพิมพ์ วีเลิร์น
โฆษณา