12 ก.ค. 2023 เวลา 05:02 • อาหาร

ข้าวต้มกบ แบบบ้านป่า

แจ้งให้ทราบก่อนเลยว่าภาพที่เห็นด้านบนนั้นเป็นเพียงภาพของวัตถุดิบที่ผมพยายามหาจากที่ต่างๆมาให้ใกล้เคียงที่สุด เพื่อนำมาประกอบให้เห็นภาพ เพราะข้าวต้มกบที่ผมกำลังจะพูดถึงนั้นหาภาพจากไหนไม่ได้เลยนอกเสียจากว่าต้องทำเองและถ่ายรูปแต่ผมคงไม่สามารถ
ในฤดูฝนคืนหนึ่งเวลาก็ล่วงผ่านมาประมาณสัก 6-7 ปีเห็นจะได้ ฝนแรกของฤดูฝนในปีนั้นที่กำลังเขียนถึงตกลงมาอย่างหนักในช่วงหัวค่ำและเริ่มเบาเม็ดลงในช่วงกลางดึกกลายเป็นฝนปรอยๆตลอดค่ำคืน
เหล่าสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่เป็นต้นว่ากบเขียดตื่นจากการจำศีลขึ้นมารับน้ำฝนกันยังมากมายส่งเสียงร้องระงมไปทั่ว
ภาพจำลองการหากินในยามค่ำคืนของคนบ้านนาบ้านป่า
พ่อปลุกผมขึ้นในกลางดึกคืนนั้นด้วยอาการเงียบๆสายฝนปรอยๆของฤดูฝนยังคงกระทบหลังคาให้ได้ยินอยู่เป็นระยะด้วยความงัวเงียจึงลุกเดินตามหลังพ่อไปเห็นพ่อคว้าไฟส่องกบ ขึ้นสะพายไหลมีแบตเตอรี่ขนาด 12 โวลท์เป็นกำลังไฟส่งไปยังหลอดไฟที่ติดอยู่กับจานไฟสวมไว้กับหน้าผาก แสงสว่างมันสว่างพอที่จะทำให้เห็นภายในความมืดรอบๆในระยะไม่เกิน 10 เมตร
ผมก็รู้ทันทีว่าพ่อกำลังจะทำอะไรสลักความงัวเงียของอาการง่วงทิ้งไปเดินไปยังตะข้องใส่ปลา ที่แขวนไว้อยู่กับผนังบ้านตอนหนึ่ง
พ่อเดินไปคว้าอุปกรณ์หากินภาษาถิ่นเรียกว่า อีตบ ลักษณะของมันเหมือนกับสวิงแต่มีขนาดเล็กกว่ามากเล็กกว่าจานข้าวขนาดย่อมๆเส้นผ่านศูนย์กลางอยู่ที่ราวๆ 15-20 cm แล้วมีถุงตาข่ายยาวร่วมฟุตถูกเย็บติดไว้กับเหล็กที่ถูกทำเป็นโครงในลักษณะวงกลมมองดูเหมือนถุงกาแฟ จะเป็นถุงกาแฟที่มีด้ามยาวราวๆ5-6 เมตร
หมวกที่ทำจากใบลาน 2 ใบใบหนึ่งขนาดใหญ่ครอบลงบนหัวของพ่อและอีกใบนึงขนาดเล็กพ่อครอบลงมาที่หัวของผมพากันเดินลุยสายฝนอันโปรยปรายเบาๆนั้นออกสู่ท้องนาหลังบ้านที่เต็มไปด้วยเสียงกบเสียงเขียดในขณะนี้
แสงไฟขนาด 12 โวลท์ส่องสาดไปทั่วบริเวณพันปรากฏดวงทับทิมเล็กๆมากมายในท้องนา ดวงทับทิมเหล่านั้นแท้จริงแล้วคือดวงตาของสัตว์น้อยใหญ่ที่ออกมาเล่นน้ำฝนเป็นต้นว่ากบเขียดจิ้งหรีดคางคกหรือแม้กระทั่งงู พ่อส่องไฟสาดไปได้สักพักนึงก็ไปหยุดอยู่กับดวงทับทิมคู่หนึ่งซึ่งค่อนข้างมีขนาดใหญ่กว่าพวกพ่อย่องกริบอีตบในมือถือแน่น
พอได้ระยะอีตบในมือก็หวดขวับลงไปยังเป้าหมายมีสิ่งหนึ่งกระโดดทะลึ่งขึ้นสวนปะทะกับถุงตาข่ายกระโดดไปมาอยู่ภายในนั้น พ่อบิดด้ามของอีตบเพื่อปิดปากถุงให้พับอยู่กับขอบแล้วดึงเข้ามาใกล้ล้วงมือเข้าไปหยิบสิ่งมีชีวิตที่พยายามดิ้นเพื่อหาอิสรภาพของตนเอง ทันทีที่พ่อจับมันออกมาภาพที่ปรากฏในแสงไฟก็เผยให้เห็นกบขนาดเขื่องตัวนึงพยายามดิ้นอยู่ในมือของพ่อพ่อเรียกให้ผมเอาตะข้องเข้าไปใกล้เพื่อยัดเจ้ากบนั่นใส่ลงไป
ผมก็พ่อเดินกันอยู่ราวๆชั่วโมงเห็นจะได้ในตะข้องเต็มไปด้วยกบนับ 10 ตัวก็ชวนกันกลับเพราะเริ่มเปียกถึงแม้ฝนจะตกอยู่เพียงปรอยๆระยะเวลาที่อยู่นานก็เพียงพอที่จะทำให้มันชุมไปทั้งตัว
กลับมาถึงบ้านก็เป็นเวลาใกล้สว่างแล้วทั้งพ่อและผมไม่มีใครสนใจจะนอนต่างช่วยกันก่อไฟหุงหาเพื่อรอแม่ ที่ออกไปซื้อของตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบได้คงจะเป็นในระหว่างที่ผมกับพ่อออกไปส่องกบกัน
ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติของบ้านป่าเท่าที่มันจะเป็นและเป็นอยู่ทุกวัน ตอนเช้าเป็นกับข้าวเรียบๆผักต้มน้ำพริกและเนื้อทอด
พ่อจัดการจับกบส่วนหนึ่งที่อยู่ในตะข้องนำเอาไปให้บ้านน้าและอาถึงอย่างนั้นก็ยังเหลืออีกหลายตัว
ตกเย็นมา พ่อบอกว่าวันนี้จะเป็นข้าวต้มกบ เด็กชายอายุสักประมาณ 11 ปีในตอนนั้นทำหน้างงๆเพราะตนเคยกินแต่ข้าวต้มกุ๊ยข้าวต้มเครื่องหรือข้าวต้มธรรมดาแล้วกินกับเนื้อทอด
ไม่มีคำอธิบายใดๆออกจากปากของพ่อพ่อบอกกับแม่แม่ก็รับคำ
ทุกอย่างเกิดขึ้นตามขั้นตอนของมันจากมือแม่ครัวผู้ชำนาญและผู้ช่วยตัวเล็กๆอย่างผม
พ่อจัดการถลกหนังกบจัดการแยกมันเป็นชิ้นส่วนขนาดพอดีคำ แล้วล้างน้ำเกลือเพื่อไล่กลิ่นคาวอยู่ 2-3 ครั้งก็นำมาผึ่งให้แห้ง แม่ตั้งหม้อนำข้าวสารและน้ำเทใส่ลงไปขอให้คนอยู่เป็นนิจเพื่อไม่ให้ข้าวติดก้นหม้อ
หลังจากจัดการกับกบอันเป็นวัตถุดิบหลักเสร็จแล้วพ่อก็หันมาตำกระเทียมตำพริกไทยและรากผักชีที่แม่ซื้อมาเมื่อเช้าเมื่อส่วนผสมเข้ากันทั้งหมดก็นำมาคลุกกับเนื้อกบที่เตรียมไว้ตั้งกระทะขึ้นบนเตาไฟอีกลูกหนึ่งใส่น้ำมันแล้วทำการรวนกบที่คลุกเคล้าเครื่องปรุงเหล่านั้น ให้พอสุขและเหลืองหอมมองดูผ่านๆเหมือนกบทอดกระเทียมในสมัยนี้ไม่มีผิด เพียงแต่ว่ามันไม่ได้ปรุงรสอะไร
กบที่พ่อทอดหน้าตาก็จะประมาณนี้แต่ไม่ใช่เป็นชิ้นขนาดนี้นะครับเป็นชิ้นเล็กๆซึ่งเกิดจากการที่พ่อสั่งไว้อันนี้เป็นรูปตัวอย่างให้พอช่วยจินตนาการเท่านั้น
เมื่อพ่อทอดกบเสร็จรอสักอีกประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงข้าวต้มก็ได้ที่แม่จัดแจงยกลงมา พ่อหันไปถามหาน้ำส้มพริกดองที่เคยมีอยู่ก็ได้รับคำตอบจากแม่ว่ามันหมด พอจึงลงดุ่มๆไปในสวนหลังบ้านที่ปลูกพริกเอาไว้กินเองมีขึ้นอยู่สักประมาณ 5-6 ต้นเก็บพริกแดงและพริกเขียวขึ้นมาได้ 1 กำมือเป็นพริกขี้หนูป่าแท้ๆ จัดการซอยมันเป็นชิ้นๆด้วยความชำนาญและเรียกเอาน้ำส้มสายชูที่มีติดอยู่ในครัวไปเทใส่พริกเหล่านั้นเขย่าๆพอบอกว่าใช้แทนกันไปก่อน
น้ำส้มพริกดองของพ่อหน้าตาคล้ายๆแบบนี้แหละครับคือเป็นพริกสดหั่นและเทน้ำส้มลงไปใช้แทนน้ำส้มพริกดองที่เป็นสีส้มๆได้อย่างดี
ด้วยความที่เป็นคนกินง่ายไม่ได้เรื่องมากอะไร พ่อจัดแจงจะเทกบลงไปในหม้อข้าวต้มเข้าใจว่าคงจะเทลงไปแล้วคนให้มันเข้ากันแต่ยังไม่ทันที่จะเทแม่ก็ร้องเสียงแหวออกมา ตีมือพ่อดังเพียะ บอกว่าการทำแบบนี้มันจะทำให้ข้าวต้มเซ็งหมด แยกไว้แบบนั้นแหละดีแล้ว ก็คือว่าหม้อข้าวต้มหม้อนึงจานที่ใส่กบรวนเอาไว้จานนึงต้นหอมผักชีจานนึงเรียงเอาไว้ใครอยากจะกินก็ตักข้าวต้มออกมาใส่ถ้วยแล้วตักกบลงไปคนผสมในถ้วยของตัวเองแล้วก็ปรุงตามใจชอบจัดว่าเป็นการกินแบบมีอารยะและมีศิลปะพอดู
พ่อหัวเสียนิดหน่อยเพราะมองว่ามันเรื่องเยอะแทนที่จะผสมให้รู้แล้วรู้รอดแล้วก็ตักกินเลยแต่ก็พูดอะไรไม่ได้จำต้องทำตามอย่างที่แม่บอก...
ข้าวต้มพี่ต้มได้ที่แล้วจะมีลักษณะขุ่นขาวและเหนียวจากยางของเมล็ดข้าวเมล็ดที่ถูกต้มจะบานออกอย่างเห็นได้ชัดเป็นอาหารอย่างหนึ่งที่ช่วยให้ความอบอุ่นกับร่างกายดีนักในหน้าหนาว
โฆษณา