ตำนานโจ๊กกลิ่นไหม้ ที่ถูกใจใครหลายๆ คน
เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว
ย่านบางรักถือได้ว่าเป็นย่านที่คึกคักอย่างมาก
คนเดินกันไปมาทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน
เพราะมีร้านค้าต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะร้านอาหาร
เปิดเรียงรายยาวกันตรงทางเดิน
เรียกได้ว่าเป็นน้องๆ เยาวราชกันเลยทีเดียว
แต่พอในช่วงหลังทีบ้านเมืองเรามีการจัดระเบียบ
ทางเดินทางเท้า ร้านสตรีทฟู้ดในบางรักจึงน้อยลงไปเยอะ
อีกทั้งปัจจุบันมีห้างเปิดกันมากมาย
ร้านอาหารร้านดังจึงย้ายไปเปิดกันในห้างกันหมด
ร้านที่เหลืออยู่จึงนับได้ว่าเป็นร้านดัง
ที่ผ่านการเวลาพิสูจน์มาแล้วว่าเป็นตัวจริง
ซึ่งก็ยังมีร้านเหลืออยู่อีกจำนวนไม่น้อย
หนึ่งในนั้นคือร้าน “โจ๊กปรินซ์”
โจ๊กปรินซ์ บางรัก
เรียกว่าเป็นโจ๊กในตำนานก็ว่าได้
เพราะเปิดมาแล้ว 60 กว่าปี
ตัวร้านเป็นรถเข็นตั้งอยู่ปากซอย
โต๊ะและเก้าอี้ถูกตั้งให้อยู่ 2 ข้างทางเดินในซอย
ความอร่อยของโจ๊กร้านนี้
เพราะโจ๊กเป็นสูตรโบราณสไตล์จีนกวางตุ้ง
ที่สูตรถูกส่งต่อมารุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3
ที่เป็นแม่ลูกช่วยกันขาย
โจ๊กต้มด้วยเตาถ่าน โดยโจ๊กหนึ่งชามจะมาจากเนื้อโจ๊ก
ที่ต้มหลายหม้อ คือหม้อที่ต้มใหม่
กับหม้อโจ๊กน้ำซุบสต๊อกที่เคี่ยวอยู่ตลอด
โจ๊กปรินซ์จะมีกลิ่นไหม้จากเตาถ่านติดมา
แต่เนื้อโจ๊กไม่ไหม้ ทำให้กลิ่นไหม้จากถ่านนี่กลายเป็นเอกลักษณ์ของโจ๊กปริ้นซ์
ซึ่งรสชาติก็ทำออกมาได้อร่อยไม่เหมือนใคร
โจ๊กร้านนี้อร่อยจนติดอันดับ
มิชลินไกด์แนะนำมา 6 ปีซ้อน
ในปี 2018, 2019, 2020, 2021, 2022 และล่าสุดปี 2023
ร้านจะเปิดสองช่วงเวลาด้วยกัน
คือช่วงเช้าตอนหกโมงถึงเที่ยง
กับช่วงตอนเย็นตั้งแต่ห้าโมงเย็นถึงสี่ทุ่ม
ตัวผมเองกินโจ๊กปรินซ์มาตั้งแต่ยังเด็ก
เวลามาซื้อของที่บางรักวันหยุดกับพ่อทีไร
พ่อก็มักพามากินโจ๊กที่ร้านนี้ทุกสัปดาห์
พอเข้าเรียนมัธยมที่โรงเรียนก็อยู่ใกล้
กับบางรัก วันไหนเลิกเรียนเร็ว
หรือสอบเสร็จ ผมและเพื่อนๆ ก็พากันมากินที่ร้านนี้เช่นกัน
เรียกได้ว่าผมคุ้นเคยร้านโจ๊กปรินซ์
มาเป็นสิบๆ ปีแล้วก็ว่าได้
โดยสมัยนั้นร้านโจ๊กปรินซ์จะตั้งอยู่ตรง
ปากซอยทางเข้าโรงหนังปรินซ์รามา
ซึ่งเป็นโรงหนังเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5
ต่อมาภายหลังถึงได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นโรงหนังชั้น 2
ฉายหนังควบ จนกลายมาเป็นโรงหนังโป๊
ปัจจุบันโรงหนังปรินซ์รามาก็ได้แปรเปลี่ยน
เป็นโรงแรมบูติกไปในที่สุด
หลังจากผมทำงานมา
ผมก็ห่างหายมากินโจ๊กที่ร้านนี้
ด้วยเพราะการเดินทางไม่ผ่านเส้นทางนี้บ่อยนัก
จนเมื่อไม่นานมานี้ผมได้มีโอกาส
กลับมานั่งกินโจ๊กปรินซ์อีกรอบ
ปัจจุบันร้านโจ๊กปรินซ์ได้ย้ายเข้ามาอยู่
ในอาคารพาณิชย์ติดกับซอยเข้าโรงหนัง
คนยังเข้าร้านแน่นเหมือนเดิม
เพิ่มเติมคือมีพวก Food Delivery
ยืนรอสั่งโจ๊กกันเป็นแถว รวมไปถึง
นักท่องเที่ยว ต่างชาติ ต่างเข้า
มานั่งกินกัน
ผมสั่งโจ๊กพิเศษไข่หมูล้วนมานั่งกิน
โจ๊กยังรสชาติอร่อยไม่เปลี่ยน
แม้กลิ่นหอมเตาถ่านจะหายไป
เพราะเดี๋ยวนี้ใช้เตาแก๊สต้ม
ไม่ได้ใช้เตาถ่านต้มแล้ว
แต่โจ๊กก็ยังเนื้อเนียนนุ่มละเอียด
ลื่นคอ ที่เด็ดเลยคือหมูสับก้อนโต
ที่ใช้ตรงส่วนสะโพกหมูปรุงรส
ทำให้เนื้อเด้งอร่อย เมื่อกินร่วมกับโจ๊ก
แล้วได้รสหอมหวานลงตัวมาก
ว่าแล้วผมก็สั่งเบิ้ลมาอีกชาม
น่าคิดเหมือนกันว่า
อะไรที่ทำให้ร้านประสบความสำเร็จมาจนถึงวันนี้ได้
ผมคิดว่าเป็นเพราะการตั้งใจ
และใส่ใจในรายละเอียดทั้งวัตถุดิบและวิธีการทำทุกขั้นตอน
ทำให้ทุกๆ อย่างที่อยู่ในโจ๊กชามนี้
มันอร่อยลงตัวมาก
จากจุดเริ่มต้นของร้าน
ที่เป็นรถเข็นปากซอยเล็กๆ
ผ่านมา 60 กว่าปี กลายเป็นร้านดัง
ที่ใครผ่านมาก็ต้องแวะกิน
จนถึงขนาดชาวต่างชาติยังให้การยอมรับ
จึงเหมาะสมแล้วที่จะเรียกว่า
“โจ๊กในตำนาน”
- 99
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
