17 ก.ค. 2023 เวลา 00:30 • อาหาร
อัล ซาราย

ร้านอาหารอินเดีย ที่จะทำให้เรื่องเปิดมุมมองใหม่

ปกติผมจะทานอาหารอยู่ไม่กี่แนว
ไม่ไทย จีน ก็ญี่ปุ่น
อาหารตะวันตกพวกแนวสเต็ก หรือพิซซ่า
จะทานบ้างเป็นบางครั้ง
แต่ถ้าเป็นอาหารอินเดียไม่ต้องพูดถึง
ไม่เคยทานเลย
เพราะโดยส่วนตัวผมคิดว่า
อาหารอินเดียเต็มไปด้วยเครื่องเทศ
และสมุนไพรที่นำมาใช้ในการปรุงอาหาร
ทำให้มันมีกลิ่นแรง ผมจึงกลัวไม่กล้ากิน
เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า
วันหนึ่งน้องที่ออฟฟิศเอ่ยปากชวนผม
ไปกินอาหารอินเดียกัน
ผมตอบว่า “ไม่”
โดยที่แทบจะไม่ต้องคิดเลย
แต่น้องก็ไม่ยอมลดละ
บอกว่าร้านนี้ไม่ได้เหม็นเครื่องเทศ
อย่างที่ผมคิดแน่นอน
และอยากให้ผมลองอาหารรสชาติใหม่ๆดู
แถมร้านยังดูดีมีสไตล์
ผมเห็นน้องรับประกันแบบนี้
ผมจึงตอบตกลง
ร้านที่น้องๆแนะนำมีชื่อร้านว่า
AL SARAY
4
ร้าน อัล ซาราย ตั้งอยู่ถนนสีลม
ไม่ไกลจากออฟฟิศผมนัก
พวกผมจึงเดินไปทานได้อย่างสะดวก
ผมสังเกตเห็นป้ายชื่อหน้าร้าน
พร้อมคำโปรยว่าเป็นร้านอาหาร
ต้นตำรับสไตล์เลบานีสและอินเดีย
ร้านเป็นอาคาร 1 คูหาไม่กว้างนัก
แต่เมื่อเดินเข้าไปแล้ว
จะเห็นว่าเป็นอาคารยาวลึกเข้าไป
เมื่อสอบถามจึงได้ทราบว่ามีทั้งหมด
3 ชั้น
ภายในร้านมีการตกแต่งเรียบง่ายเก๋หรู
มีกลิ่นอายตะวันออกกลางเข้ามา
ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟ
กระจก ขวดเหล้า รวมไปถึงดีเทล
ถ้วย จาน ชาม และช้อน
ที่ชั้น 1 จะมี Drink Bar ขนาดใหญ่ตั้งอยู่
เหมาะแก่การมานั่งสังสรรค์มาก
พวกผมเลือกโต๊ะนั่งที่ชั้น 2
ที่ชั้น 2 โต๊ะจะถูกจัดมีความเป็นส่วนตัว
ผนังทั้ง 2 ด้านจะติดกระจก
ทำให้ร้านดูกว้างขึ้น ที่ด้านหน้ามีระเบียง
ทำเป็นโต๊ะโซฟานั่งสำหรับใครที่อยาก
ได้รับบรรยากาศแบบเอาท์ดอร์
3
พนักงานเอาเมนูมาให้
ผมเปิดดูมีแต่ภาษาอาหรับกับภาษาอังกฤษ
จึงยกหน้าที่สั่งให้น้องๆที่ออฟฟิศจัดการกัน
ส่วนผมมีหน้าที่ชิมอย่างเดียว
ขอแค่ไม่มีเนื้อวัวผมจัดได้หมด
ใช้เวลาไม่นานนักจานแรกก็ถูกยกมาเสิร์ฟ
จานแรกมีชื่อว่า “ปาปาดัม”
หรือจริงๆก็คือแป้งแผ่นบางกรอบ
ถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับ ซอสมะม่วง ซอสกระเทียม
และซอสมิ้น
1
แป้งบางกรอบมากมีความเค็มนิดๆ
ผมลองจิ้มกับซอสทั้ง 3 ดู
ผมชอบซอสกระเทียมที่สุด
ผมรู้สึกว่ารสชาติมันเข้ากันได้ดีกับตัวแผ่นแป้ง
ส่วนซอสมิ้นผมไม่ค่อยชอบเท่าไร
มันมีกลิ่นมิ้นซ่านิดๆ
ไม่ค่อยเข้ากันอย่างไรไม่รู้กับแผ่นแป้ง
ผมจึงจิ้มซอสกระเทียม กับซอสมะม่วง
4
แล้วอาหารจานต่อมาก็ถูกนำมาวางต่อ
มันคือ เซตแป้งนัน ที่มีแบบแป้งนันชีส
กับแบบแป้งนันธรรมดา
วิธีการกินคือต้องกินคู่กับแกงอินเดีย
และโต๊ะผมก็สั่งแกงมา 2 ถ้วย
คือ Chicken Masala แกงไก่อินเดีย
ส่วนอีกถ้วยคือ Butter
2
ต้องสารภาพเลยว่าตอนแรก
ที่ผมเห็นหน้าตาเจ้าแกงไก่อินเดีย
กับเจ้าแกง Butter แล้ว
ผมไม่กล้าตักกินเลย เพราะสีมันเข้มข้นมาก
ผมคิดว่ามันต้องเต็มไปด้วยเครื่องเทศแกง
และต้องมีกลิ่นฉุนแน่ๆ
แต่จะกินแป้งนันให้ครบสูตร
ก็ต้องกินกับแกงเขา
ผมจึงตักมาลองชิม
3
ซึ่งก็คือไก่เนื้อนุ่มมาก
อร่อยและแกงไม่มีกลิ่นคาวเลย
แถมไม่เผ็ดอีกด้วย
แกง Butter ก็ไม่เลี่ยน ไม่ฉุน
ลบภาพในหัวที่ผมคิดไว้ตอนแรกทิ้งไปได้เลย
ส่วนแป้งนันเนื้อจะหอม ละมุนมาก
ยิ่งกินตอนร้อนๆ จะได้อารมณ์ฟินมาก
จานต่อมาเป็น Tandoori Roti
แผ่นแป้งโรตีที่ต่างจากร้านโรตีที่เราซื้อทั่วไป
แผ่นแป้งจะกรอบมีรสเค็มนิดๆ
เมื่อทานคู่กับแกงอินเดียวที่เราสั่งมาด้วย
จะลงตัวมาก
3
จานสุดท้ายคือ
Lebanese Style Grilled Chicken
จานนี้ถูกสั่งเพราะพวกผมลองถามพนักงาน
ว่าอยากแนะนำเมนูไหนเป็นพิเศษอีก
จานนี้จึงถูกสั่งมาลองชิมกัน
แล้วจานนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆครับ
เนื้อไก่ชิ้นใหญ่ที่เลาะกระดูกออกเรียบร้อย
มีหนังติด ทำให้มีความมัน
สัมผัสที่ได้จึงนุ่มนวล พร้อมมีเครื่องเทศมาเบาๆ
ย่างแล้วทำให้ได้กลิ่นหอมยิ่งทานแล้วยิ่งชอบ
เหมาะสมเป็นจานตบท้ายจริงๆ
ผมกับน้องๆ กินกันจนอิ้มแปล้สบายพุงกันทุกคน
3
ผมไม่แน่ใจนักว่ารสชาติอาหารที่ร้านนี้
จะตรงต้นฉบับอาหารเลบานอน อาหารอินเดีย
มากแค่ไหน แต่ผมว่ารสชาติมันถูกปากผมมาก
และคิดว่าน่าจะถูกปากคนไทยได้ไม่ยาก
กลิ่นเครื่องเทศไม่ฉุนไม่ฉูดฉาด
ไม่เค็ม ไม่เลี่ยน ได้สมดุลกำลังดี
ต้องยอมรับเลยว่าร้านนี้ทำให้เปิดประตู
ในการมองอาหารอินเดีย
มองอาหารตะวันออกกลาง
ของผมในแง่มุมใหม่ๆ ที่มีอะไรน่าค้นหาอีกมาก
ทำให้ผมนึกถึงคำกล่าวที่ใครๆ บอกไว้ว่า
เราอย่าตัดสินใครแค่ภายนอก
ตราบใดที่เรายังไม่รู้จักตัวตนของเขาจริงๆ
3
โฆษณา