18 ก.ค. 2023 เวลา 14:14 • ข่าวรอบโลก
รัสเซีย

ไครเมียถูกโจมตี รัสเซียส่งTu-22Mออกตอบโต้ หรือนี่เป็นจังหวะแห่งความตายของยูเครน!

หลังจากไครเมียถูกโจมตี รัสเซียได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-22M เพื่อตอบโต้ และอูโดก็กระหน่ำส่งสัญญาณเตือนภัยทางอากาศ
2
ตามรายงานบนเว็บไซต์ "Military Review" ของรัสเซียเมื่อวันที่ 17 ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากสะพานไครเมียถูกโจมตี เสียงไซเรนป้องกันภัยทางอากาศก็ดังขึ้นในพื้นที่ส่วนใหญ่ของยูเครน
2
เว็บไซต์ "Military Review" อ้างคำพูดของสื่อยูเครนว่า กองทัพรัสเซียส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล Tu-22M3 "Backfire" ออกปฏิบัติการ...
1
จาก เว็บไซต์ "Military Review" ฝูงบินทิ้งระเบิด Tu-22 ที่ให้บริการในกองทัพรัสเซียในปัจจุบันประกอบด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-22M3 และ Tu-22M3M ที่เคยออกบินเป็นครั้งแรกในปี 2561
3
เครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-22M3 บรรจุระเบิดได้มากถึง 24 ตัน และสามารถบรรทุกขีปนาวุธต่อต้านเรือผิวน้ำความเร็วเหนือเสียง Kh-22 ได้สามลูก
1
Tu-22M3M ที่ได้รับการปรับปรุงสามารถบรรทุกขีปนาวุธ Kh-32 ที่มากด้วยความแม่นยำสูง และสามารถติดตั้งขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก "Dagger" ได้สูงสุดอีก 4 ลูก
3
นอกจากนี้ Tu-22M3M ยังสามารถบรรทุกขีปนาวุธ Kalibr ที่ยิงทางอากาศสู่ภาคพื้นและอากาศ Kh-101 และ Kh-555 ขีปนาวุธร่อน
1
โดยเว็บไซต์ "Military Review" อ้างแหล่งข่าวของสื่อยูเครนว่า
ณ เวลานี้ เคียฟ ,เชอร์นิฮิฟ ,ซูมี ,โปลตาวา ,คาร์คอฟ และสถานที่อื่นๆ ในยูเครนได้ส่งสัญญาณป้องกันภัยทางอากาศและส่งสัญญาณป้องกันภัยทางอากาศกันให้ว่อน
2
จำนวนพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การแจ้งเตือนยังคงดำเนินการแจ้งเตือนกันต่อไป และปฏิบัติการของกองทัพรัสเซียอาจเป็นการตอบโต้จากการโจมตีสะพานไครเมีย
ก่อนหน้านี้ ตามรายงานของเครือข่ายข่าว RBC.UA ของยูเครนเมื่อวันที่ 17 แหล่งข่าวบอกกับสื่อว่าการโจมตีสะพานไครเมียเป็นปฏิบัติการพิเศษที่ดำเนินการโดยกองทัพเรือยูเครน
และสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ RIA Novosti รายงานว่าเป็น "อุบัติเหตุ(ฉุกเฉิน)" บนสะพานไครเมียทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย (อ้าววว)
3
Zakharova โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียล "Telegram" เมื่อวันที่ 17 โดยกล่าวว่า
"เคียฟเปิดตัวจากการโจมตีสะพานไครเมียในวันนี้ การจู่โจมนี้เป็นการก่อการร้ายที่มีลักษณะทั้งหมดของกลุ่มอาชญากรที่จัดตั้งขึ้นระหว่างประเทศโดยยูเครน
1
รวมถึงเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางทหารได้ตัดสินใจโดยมีส่วนร่วมโดยตรงของหน่วยข่าวกรองและนักการเมืองของทั้งสหรัฐและอังกฤษ"
3
โฆษณา