Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
InvestWay
•
ติดตาม
7 ส.ค. 2023 เวลา 23:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
แท่งขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ "ลดลง" หรือ "เงินเฟ้อ" จากพลังงานกำลังจะ "กลับมา"
ช่วงที่ผ่านมา เพื่อนๆ และนักลงทุนที่ลงทุนในสหรัฐฯ น่าจะได้เห็นตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ โดยเฉพาะตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เริ่มลดลงและมีแนวโน้มไปในทางที่ดี
ส่งผลให้แรงกดดันในตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความผ่อนคลายลง ทำให้หุ้นของบริษัทหลายตัวดีดกลับขึ้นมา
สิ่งสำคัญเลยที่ทำให้ตัวเลข CPI ของสหรัฐฯ ลดลงอย่าง "รวดเร็ว" ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา คือ ตัวเลขที่มาจาก "พลังงาน"
เพราะตั้งแต่ช่วงเริ่มของสงครามรัสเซียยูเครน ทำให้ราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่สหรัฐฯ ส่งผลให้ CPI ของสหรัฐฯ ช่วงเวลานั้นดีดตัวพุ่งขึ้นสูง
และเพื่อที่จะ "หยุด" ความร้อนแรงของราคาพลังงานนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ จึงมีมาตรการนำ "คลังน้ำมันสำรอง" ออกมาใช้ทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาด เริ่มชะลอและปรับตัวลดลงในที่สุด
โดยปริมาณที่นำออกมาใช้ "มากที่สุดในรอบ 40 ปี" เลยทีเดียว
ถึงแม้ราคาพลังงานจะปรับตัวลดลงมา ส่งผลให้ตัวเลข CPI ปรับตัวลดลงตามไปด้วย แต่ก็อย่าลืมว่าคลังน้ำมันสำรองของประเทศ
ถือเป็นเรื่อง "ความมั่นคงระดับชาติ"
ถ้าหากมีการนำออกมาใช้ก็ต้องมีการนำ "กลับไปเติม" ในคลังสำรอง
ซึ่งอาจจะเริ่มมีการซื้อน้ำมันดิบกลับเข้าไปเติมในคลังสำรอง ในอีกไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า
สิ่งนี้จะกระทบกับตัวเลข CPI ที่มาจากพลังงาน หากราคาน้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้ อาจเป็นเพียงปัจจัยใน "ระยะสั้น" เท่านั้น
●
ทีนี้เราลองถอยออกมาก้าวนึงเพื่อให้มองเห็นภาพใน "ระยะยาว"
ในกราฟที่แสดงไว้ข้างต้นนี้
- เส้นสีม่วงแสดงถึง "แท่งขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ"
- เส้นสีส้มแสดงถึง "การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ"
จะเห็นได้ว่าปริมาณแท่งขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ มีแนวโน้มการปรับตัว "ลดลง" ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา
จากปัจจัยหลายประการ อย่างเช่น
- จำนวนการลงทุนใหม่ในอุตสาหกรรมนี้มี "ค่อนข้างน้อย" เพราะใช้เงินทุนมหาศาลและ "ระยะเวลาในการคืนทุนที่นาน"
- นโยบายของรัฐบาล ในการผลักดันในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และหันมาใช้พลังงานสะอาดหรือพลังงานหมุนเวียน
- การล้มละลายของบริษัทในอุตสาหกรรมนี้เอง จากการบริหารจัดการที่ไม่ดี
แต่ในขณะเดียวกัน "การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ" กลับปรับตัวสูงขึ้น
แสดงว่า ปัจจุบันแท่งขุดเจาะน้ำมันที่มีอยู่กำลังทำงานอย่างเต็มกำลังการผลิต
เพื่อให้มีปริมาณพอเพียงต่อความต้องการในตลาด และเพียงพอต่อการกดดันให้เงินเฟ้อที่มาจากพลังงานลดลง จากวิกฤตสงครามรัสเซียยูเครน
แม้ว่าสหรัฐฯ จะอยู่ในช่วงที่มีแรงกดดันทางเศรษฐกิจมากมายก็ตาม
ซึ่งเป็นสถานะการณ์ที่ไม่ค่อยจะพบเห็นบ่อยนัก และน่าจะเป็นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น
●
ถ้าหากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว มันจะเกิดอะไรขึ้น โดยทั่วไปความต้องการมันควรที่จะมากขึ้นหรือไม่ จุดนี้สามารถมองได้หลายแง่มุม
ตัวอย่างเช่น
ก. หากเศรษฐกิจกลับมาร้อนแรง แต่ก็ยังไม่มีการลงทุนใหม่ในอุตสาหรรมน้ำมันดิบ
"ความต้องการที่มากขึ้นกว่าตอนนี้" บวกกับการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ทำการซื้อน้ำมันดิบกลับเข้าคลังสำรอง
อาจผลักดันราคาพลังงานให้ปรับฐานสูงขึ้น และมีความเป็นไปได้ที่สิ่งนี้อาจกลายเป็นฐานให้กับ "เงินเฟ้อ" ของสหรัฐฯ ในอนาคต
ข. หากเศรษฐกิจกลับมาร้อนแรง แต่มีการลงทุนด้านพลังงานสะอาดหรือพลังงานหมุนเวียน จนผลักดันให้ต้นทุนด้านพลังงาน "ต่ำลง"
และมีปริมาณมากพอที่จะมาแทนที่ส่วนของพลังงานดั้งเดิมได้ แรงกดดันด้านเงินเฟ้อก็จะเบาบางลง
แต่การลงทุนในอุตสาหรรมพลังงานสะอาดหรือพลังงานหมุนเวียนนั้น
จำเป็นต้อง "ใช้เวลา" และ "เงินทุนมหาศาล" อาจกินเวลาอย่างน้อย 5 ปี 10 ปี หรืออาจจะมากกว่านั้น ซึ่งน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า
ในขณะที่ปริมาณแท่งขุดเจาะน้ำมันดิบที่เป็น "ตัวบ่งชี้" ถึงกำลังการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะลดลง ซึ่งอาจส่งผลกับปริมาณน้ำมันในตลาด
ในระหว่างทางที่กำลังลงทุนในอุตสาหรรมพลังงานรูปแบบใหม่อยู่นั่นเอง เราก็อาจจะเห็นสถานะการณ์แบบ ตัวอย่าง ก. เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ก็เป็นได้
บทความนี้เป็นเพียงแค่การยกข้อมูลปัจจัยบางส่วน ในช่วงเวลาหนึ่ง มานำเสนอเท่านั้น
สาเหตุและปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันดิบและตัวเลข CPI ที่มาจากพลังงานของสหรัฐฯ นั้นมีมากมาย
ตัวอย่างเช่น
ในระยะสั้นหากเศรษฐกิจของจีนฟื้นตัว อาจเกิดความต้องการด้านพลังงานมากขึ้นในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับจีนของสหรัฐฯ
ผลักดันให้ราคาพลังงานสูงขึ้น แล้วไปกระทบกับตัวเลข CPI ที่มาจากพลังงาน เพราะต้องอย่าลืมว่า จีนเป็น "ลูกค้าคนสำคัญ" ของสหรัฐฯ
หรือหากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ และ "ไม่มีตัวแปรภายนอก" มาเกี่ยวข้อง ทำให้ความต้องการน้ำมันดิบตกต่ำลง
การที่รัฐบาลสหรัฐฯ ทำการซื้อน้ำมันดิบกลับเข้าคลังสำรอง อาจจะไม่ได้กระทบอะไรมากนักกับราคาน้ำมันดิบ และตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐฯ
หากมี "ตัวแปร" เพิ่มเติมแทรกเข้ามา สิ่งที่กล่าวไว้ข้างต้นนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงไป
เพื่อนๆ หรือนักลงทุนที่สนใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมโดยละเอียด ได้ด้วยตัวเอง
References:
https://www.eia.gov/dnav/pet/hist/LeafHandler.ashx?n=PET&s=MCSSTUS1&f=M
https://www.lynalden.com/
https://ycharts.com/
การลงทุน
ข่าวรอบโลก
เศรษฐกิจ
2 บันทึก
8
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
INVESTING NEWS AND ECONOMY SERIES by InvestWay
2
8
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย