23 ก.ค. 2023 เวลา 04:32 • ความคิดเห็น
มันต้องเริ่มที่ว่า คำว่า "ตรง" กับ "คด" คุณกำลังมองในบริบทไหน เนื่องจากผมเดาใจคุณไม่ได้ ผมก็เลยเอาตัวผมเป็นที่ตั้งแทน
ผมให้นิยามคำว่าตรงหมายถึงความซื่อตรง จริงใจ พูดความจริง คำว่าคดหมายถึงความหลอกลวง ไม่จริงใจ พูดบิดเบือน
1
คำถามคือ คนเราชอบความตรงไปตรงมา หรืออ้อมไปอ้อมมา สมมติคุณเห็นเพื่อนคุณแซงคิว คุณจะบอกเขาตรงๆหรือไม่ว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ ถ้าคุณบอกเขา เพื่อนคุณไม่พอใจ แล้วตอบคุณว่า คนที่ถูกแซงคิว เขายังไม่ว่าอะไร แล้วคุณเกี่ยวอะไร คุณจะโกรธเพื่อนคุณหรือไม่
สังคมมีขอบเขต มีค่านิยม มีความตรง มีความคด ที่อาจแตกต่างจากมาตรฐานของคุณ ขณะที่คุณมองว่าคด สังคมมองว่าตรง ขณะที่คุณมองว่าตรง สังคมมองถึงเรื่อง การผิดกาละเทศะ การผิดมารยาทที่ยึดถือกัน ความตรงของคุณคือสิ่งที่สังคมยอมรับไม่ได้ คุณจะยินดีที่จะยึดถือความเห็นของสังคม หรือคุณจะยึดความเห็นของคุณเป็นหลัก โดยไม่สนใจสังคม
ทั้งหมดนี้คงไม่มีคำตอบสุดท้าย ที่ทำให้ทุกคนเห็นร่วมกันได้ เหตุผลในการเลือกคำตอบที่ตนพอใจ มันเป็นเหตุผลเชิงนามธรรม ชั่งตวงวัดยาก นอกจากนี้พฤติกรรมที่เห็นว่าตรงหรือคดนั้น บางสถานการณ์ัมันก็ตรง บางสถานการณ์ มันก็คด
แล้วจะยังไงดี
โลกของความเห็น มันคือโลกของความจริงสัมพัทธ์ ตรงกับคดที่สัมบูรณ์ มันไม่มีจริง เราต้องปรับตัวไปตามสภาพ ตามสถานการณ์ ตามความเหมาะสม สังคมที่มองความตรงกับความคด ที่แตกต่างจากเรา อาจเป็นความผิดของเราเอง ที่มองทุกอย่างเป็นขาว เป็นดำ เท่านั้น โดยไม่สนใจเฉดสีระหว่างดำกับขาว
1
ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว จะโทษใคร ระหว่างตัวเราเองกับสังคม
มาถึงตอนนี้ ผมเลยสรุปของผมเอง ด้วยการอิงปรัชญา Stoic
อะไรที่ผมควบคุมไม่ได้ ผมก็ต้องอยู่กับมันให้ได้ อะไรที่ควบคุมได้ ผมก็จะพยายามแก้ไขมัน
1
แต่ถ้าอยู่ไม่ได้กับสังคมนั้นจริงๆ ก็ต้องหาสังคมใหม่อยู่ และผมก็เชื่อว่า ผมก็คงอยู่ไม่ได้อีก ตราบใดที่ผมยังยึดมั่นกับ "ความสัมบูรณ์" โดยไม่สนใจความจริง "สัมพัทธ์"
คุณว่าไหม
โฆษณา