Reflection: The portrait of a lady on fire (2019)
เป็นเรื่องราวที่นำเสนอผ่านตัวละครหลัก 2 ตัวละคร เป็นเรื่องราวที่โลกอยู่ในยุคที่หมุนรอบผู้ชายแต่ในเนื้อเรื่องแทบไม่มีผู้ชายเลย ทั้งในเนื้อเรื่องยังแสดงให้เห็นถึงอำนาจของผู้ชายที่ครอบงำผู้หญิง โดยครอบงำผ่านขนบธรรมเนียมประเพณี อย่างเช่น เหตุการณ์ที่หนึ่งในตัวละครหลักผู้หญิงที่จะต้องไปแต่งงานกับผู้ชายตามที่ผู้ใหญ่ตกลงกัน หรือการยอมรับแต่เพียงจิตรกรชายเท่านั้น เป็นต้น
นอกจากอำนาจที่ครอบงำผ่านขบนธรรมเนียบประเพณีที่ต้องทำตามแล้ว ยังมีวาทกรรมต่างๆที่ทำให้ผู้หญิงรู้สึกว่าจะต้องจัดการตัวเองเพื่อให้สอดคล้องไปกับบรรทัดฐานทางสังคม อย่างเช่น วาทกรรมความงาม จะจัดการทั้งร่างกาย อารมณ์ความรู้สึก รวมไปถึงพฤติกรรมการแสดงออก
เราจะเห็นได้จากชนชั้นสูงในเรื่องมักใส่คอร์เซ็ทเพื่อให้ได้ทรวดทรงร่างกายที่ต้องการ สไตล์การแต่งหน้า แต่งตัว หรือการแสดงออกถึงอารมณ์และพฤติกรรมของตัวเอง ผู้หญิงจะต้องเก็บอารมณ์และจัดการกับอารมณ์ของตัวเองไว้ให้ได้ ต้องเก็บอาการกริยามารยาทต่างๆให้ดูนิ่งเข้าไว้เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสง่างาม ความเป็นผู้ดี แม้กระทั่งในงานภาพของจิตรกรในเนื้อเรื่องก็ต้องวาดใบหน้าที่ดูนิ่งไม่ยิ้มไม่แสดงอารมณ์ แสดงถึงความนิ่งการจัดการกับตัวเองได้
ในยุคที่ผู้ชายเป็นผู้ที่ถือได้ว่าเป็นผู้นำ ส่งผลทำให้ผู้ชายยิ่งชนชั้นสูงยิ่งมี สิทธิ และโอกาส มากกว่าคนอื่นๆ ทั้งการเข้าถึงกลุ่มทางสังคมและเข้าถึงเศษฐกิจ อำนาจครอบงำและวาทกรรมที่กล่าวไปข้างต้น ถูกนำไปใช้เพื่อควบคุมจัดการกับผู้หญิง อย่างที่แสดงให้เห็นในเนื้อเรื่องที่ผู้ชายชนชั้นสูงคนนึง ทั้งที่ไม่แสดงตัวให้เห็นในเนื้อเรื่องแต่กลับมีอำนาจในการเลือกภรรยา ซึ่งต่างจากผู้หญิงที่ถูกเลือกไม่ทราบข้อมูลใดๆของผู้ที่จะมาเป็นสามีเลย
มีการผลิตซ้ำต่อกันไปจากรุ่นสู่รุ่นทำให้ผู้หญิงที่เกิดมานอกจากต้องทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีแล้วต้องจัดการตัวเองให้ออกมาเป็นความงามตามบรรทัดฐานทางสังคมที่จะให้ผู้ชายเลือก เนื่องจากผู้ชายเป็นผู้นำด้านเศษฐกิจและอื่นๆ อีกทั้งนอกจากที่แสดงถึงการครอบงำต่างๆแล้ว
เรื่องราวยังแสดงให้เห็นถึงอารยะขัดขืน เช่น การข้ามพรมแดนของอำนาจหรือการตั้งคำถามต่อเส้นแบ่ง โดยเห็นได้ที่ตัวละครหลักหญิงทั้ง 2 มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มีความสัมพันธ์เปรียบเสมือนสามีภรรยากัน โดยแสดงให้เห็นว่าการมีความสัมพันธ์แบบนี้ก็ยังสามารถรักกันได้ มีความสุข และดำรงชีวิตได้ เป็นการข้ามพรมแดนอำนาจที่ว่าจะต้องเป็นสามีภรรยากันและสามีต้องเป็นผู้นำ ภรรยาต้องเป็นผู้สนับสนุน
การใช้ชีวิตของตัวละครหลักรวมถึงตัวละครอื่นๆด้วยซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด ก็ยังสามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ แสดงให้เห็นถึงการตั้งคำถามของเส้นแบ่งระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง เช่น ทายที่สุดแล้วผู้หญิงทุกคนต้องการให้ผู้ชายดูแลหรือไม่ เป็นต้น
การต่อต้านวาทกรรมที่มีอยู่เดิมอย่างวาทกรรมความงาม การแสดงถึงอารมณ์ความโกรธ ความหิว ความเศร้า ความสุขต่างๆ ของตัวละคร การกระทำพฤติกรรมต่างๆ การฆ่าตัวตาย แม้กระการโป้เปือย สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นการขัดต่อบรรทัดฐานทางสังคมทั้งสิ้น
ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวนี้เป็นเรื่องที่นำเสนอในชนชั้นสูงแต่ไม่ได้มีเพียงแค่ชนชั้นสูง ผู้ชายในกลุ่มอื่นๆก็ได้อภิสิทธิ์จากการครอบงำเหล่านี้ด้วยและผู้หญิงในกลุ่มอื่นๆก็ได้รับผลกระทบจากการครอบงำด้วยเช่นกัน
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
